TOA ชูแผนขยายโรงงานในอินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา ต่อจิ๊กซอว์ขึ้นแท่นผู้นำตลาดสีในภูมิภาคอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) ("TOA" หรือ "บริษัทฯ") ผู้นำสีทาอาคารในไทย เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ชูแผนขยายโรงงานผลิตสีอีก 3 แห่ง ในประเทศอินโดนีเซียและเมียนมาร์ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และในประเทศกัมพูชาที่อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการเพื่อเตรียมก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2561 ดันกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 102.5 ล้านแกลลอนต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 88.0 ล้านแกลลอนต่อปี หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคนี้พร้อมขึ้นแท่นผู้นำตลาดสีในภูมิภาคอาเซียน
          นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ("TOA" หรือ "บริษัทฯ")ผู้นำสีทาอาคารในไทย เปิดเผยว่า ได้นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นวันแรก(10 ตุลาคม 2560) ใช้ชื่อย่อ 'TOA' ในการซื้อขายบนกระดานหลักทรัพย์ฯ โดยเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่มั่นใจในพื้นฐานของบริษัทฯ และศักยภาพในการขยายธุรกิจสีทั้งในและต่างประเทศ เช่นเดียวกับการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 507.6 ล้านหุ้น โดย TOA และผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาหุ้นละ 24 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ให้แก่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในช่วงก่อนหน้านี้
          ทั้งนี้ TOA เป็นผู้ผลิตสีทาอาคารรายใหญ่ที่สุดในไทยเมื่อพิจารณาจากยอดขาย โดยข้อมูลจาก Frost & Sullivan (S) Pte. Ltd. ในปี 2559 บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทยประมาณร้อยละ 48.7 และส่วนแบ่งตลาดในภูมิภาคอาเซียนประมาณร้อยละ 13.0
          อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำตลาดสีในภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันจึงอยู่ระหว่างการลงทุนก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในต่างประเทศอีก 3 แห่ง ซึ่งจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 1,184 ล้านบาท ได้แก่ โรงงานผลิตแห่งแรกในประเทศอินโดนีเซีย โรงงานผลิตในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งมีแผนจะย้ายโรงงานจากเมืองย่างกุ้งไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา และโรงงานผลิตในประเทศกัมพูชาซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2/61 ไตรมาส 3/61 และไตรมาส 4/61 ตามลำดับ โดยเมื่อโรงงานผลิตทั้ง 3 แห่งก่อสร้างแล้วเสร็จและการดำเนินการตามแผนการปิดโรงงานย่างกุ้ง (คาดว่าจะเกิดขึ้นในต้นปี 2562) คาดว่า TOA จะมีกำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 102.5 ล้านแกลลอนต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 88.0 ล้านแกลลอนต่อปี ซึ่งมาจากโรงงานผลิต 8 แห่ง ใน 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย 3 แห่ง และเวียดนาม สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์และกัมพูชา ประเทศละ 1 แห่ง
          "หลังจากโรงงานผลิตทั้ง 3 แห่งก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ จะส่งผลดีต่อเป้าหมายการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสีในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซียที่ TOA เริ่มเข้าไปรุกตลาดได้ประมาณ 5-6 ปี ถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโตเนื่องจากมีจำนวนประชากรกว่า 250 ล้านคนและมีโอกาสที่จะเพิ่มยอดขายสีเกรดพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพสูง ส่วนประเทศเมียนมาร์และกัมพูชาก็เป็นตลาดที่มีศักยภาพเช่นกัน เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่ดีและมีการลงทุนจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก" นายจตุภัทร์ กล่าว
          นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า TOA เป็นบริษัทสีของคนไทยที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในประเทศได้สูงสุดท่ามกลางการแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติ โดยมีจุดแข็งด้านแบรนด์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม ความพร้อมด้านฐานการผลิต รวมถึงมีทีมผู้บริหารและบุคลากรที่มีประสบการณ์สูง โดยหลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยิ่งช่วยเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงินยิ่งขึ้น รวมถึงส่งผลดีต่อการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน 
          นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า TOA เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสีและสารเคลือบผิวชั้นนำของไทยที่มีศักยภาพที่ดี โดยมีการวางยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการขยายธุรกิจจากประเทศไทยไปยังภูมิภาคอาเซียน ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มที่ความต้องการใช้สีจะเพิ่มขึ้นในอนาคตจากปัจจัยสนับสนุนด้านอุตสาหกรรมก่อสร้างและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในแต่ละประเทศ จึงเชื่อว่า TOA จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก
TOA ชูแผนขยายโรงงานในอินโดนีเซีย เมียนมาร์ กัมพูชา ต่อจิ๊กซอว์ขึ้นแท่นผู้นำตลาดสีในภูมิภาคอาเซียน
 

ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศวันนี้

GUNKUL คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด AAA ตอกย้ำความพร้อมเป็น Green Transition Partner อย่างยั่งยืน

GUNKUL คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด AAAตอกย้ำความพร้อมเป็น Green Transition Partner อย่างยั่งยืน บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ผู้นำด้านพลังงานสีเขียว และโครงสร้างพื้นฐาน ตอกย้ำความสำเร็จของวิสัยทัศน์ใหม่ในการในการมุ่งสู่การเป็น "พาร์ตเนอร์ด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย" บนเส้นทางความยั่งยืน หลังได้รับการประเมินให้เป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในปี 2568 บริษัท

บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน... ADVICE ร่วมเวที ก.ล.ต.-ตลท. จับตาภัยมิจฉาชีพออนไลน์ ย้ำบทบาทบริษัทจดทะเบียนรับมือภัยไซเบอร์ — บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE ผู้นำ...

นางพจนารถ ปริญภัทร์ภากร รักษาการประธานเจ้... ทานตะวันอุตสาหกรรม (THIP) คว้าหุ้นยั่งยืนประจำปี 2568 ระดับ "A" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จาก SET — นางพจนารถ ปริญภัทร์ภากร รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริ...

บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ C... CKPower คว้าผลประเมิน SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด AAA — บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้นำในการผลิ...

คงเป้า SET สิ้นปีที่ 1,370 จุด แนะลงทุนรั... บล.เมย์แบงก์ ชี้แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2569 "ตลาดพร้อมลุย" แนะมองข้ามความผันผวนระยะสั้น — คงเป้า SET สิ้นปีที่ 1,370 จุด แนะลงทุนรับโอกาส Election Rally และ...

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสา... บางกอกแอร์เวย์ส (BA) คว้าหุ้นยั่งยืน "ระดับ A" จาก SET ESG Ratings 2025 — บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) ได้รับการปร...