นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 10-16 ตุลาคม 2560 บลจ. กสิกรไทย จะเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 ปี A (KFI3YA) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 2.50% ต่อปี โดยจะลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ และกองทุนมีอายุโครงการประมาณ 3 ปี เหมาะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ยาวขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน
กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 ปี A (KFI3YA) จะเน้นการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทในประเทศไทย และบางส่วนจะลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทในต่างประเทศ โดยเบื้องต้นจะลงทุนในหุ้นกู้บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน), หุ้นกู้บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด(สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) ซึ่งทั้งหมดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ A- นอกจากนี้ยังลงทุนในหุ้นกู้บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน), หุ้นกู้บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งทั้งหมดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ BBB+, BBB และ BBB ตามลำดับ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะมีการจ่ายผลตอบแทนโดยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกๆ 6 เดือน
ด้านมุมมองตลาดตราสารหนี้ นายชัชชัยกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยน่าจะยังทรงตัวต่อเนื่องที่ 1.5% ต่อไปถึงกลางปีหน้า เพื่อประคองการเติบโตของเศรษฐกิจให้มีความมั่นคงมากขึ้นภายใต้สภาวะที่เงินเฟ้อยังอยู่ระดับต่ำ ประกอบกับดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลในระดับสูงต่อเนื่อง ยังคงเอื้อต่อการใช้นโยบายการเงินการคลังแบบผ่อนคลายได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ในขณะที่นโยบายการเงินของสหรัฐฯมีแนวโน้มตึงตัวขึ้น จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED) ส่งสัญณาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในช่วงสิ้นปีนี้ รวมถึงจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2561 ที่คาดว่าจะปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอกประเทศ อาทิ ความกังวัลว่าทรัมป์อาจจะไม่สามารถดำเนินนโยบายตามที่หาเสียงไว้ได้ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ อาจส่งผลทำให้ราคาตราสารหนี้มีความผันผวนในระยะสั้น บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้ผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงต่ำ อาจเลือกล็อกผลตอบแทนกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการที่มีกำหนดระยะเวลาลงทุนยาวนานขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากกองทุน KFI3YA ดังกล่าวแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลา 6 เดือน - 1 ปี ในระหว่างวันที่ 10-16 ตุลาคม 2560 บลจ.กสิกรไทยยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี DR (KFF1YDR) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.35% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน EB (KFF6MEB) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.15% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
สำหรับกองทุน KFF1YDR ที่มีอายุโครงการ 1 ปี เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก Agricultural Bank of China, เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank Corporation และบัตรเงินฝาก ICBC Ltd. นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Union National Bank และเงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ด้านกองทุน KFF6MEB ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, เงินฝาก Agricultural Bank of China, เงินฝาก Union National Bank และเงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในหุ้นกู้ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย
ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุน KFI3YA, กองทุน KFF1YDR และกองทุน KFF6MEB ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888
|
ตราสารที่กองทุน KFI3YA คาดว่าจะลงทุน |
อันดับเครดิต |
สัดส่วน การลงทุน |
ประมาณการผลตอบแทน (ต่อปี) | |
|
ของตราสาร |
ของกองทุน | |||
|
หุ้นกู้บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย |
A-/TRIS |
17.50% |
2.43% |
0.43% |
|
หุ้นกู้บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย |
A-/TRIS |
17.50% |
2.51% |
0.44% |
|
หุ้นกู้บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย |
BBB/TRIS |
17.50% |
3.50% |
0.61% |
|
หุ้นกู้บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย |
BBB/TRIS |
17.50% |
3.63% |
0.64% |
|
หุ้นกู้บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย |
BBB+/TRIS |
15.00% |
3.09% |
0.46% |
|
หุ้นกู้บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด, สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว |
A-/TRIS |
15.00% |
2.59% |
0.39% |
|
รวม |
2.97% | |||
|
ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน |
0.47% | |||
|
ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ จากการลงทุนในระยะเวลาประมาณ 3 ปี |
2.50% | |||
|
ตราสารที่กองทุน KFF1YDR คาดว่าจะลงทุน |
อันดับเครดิต |
สัดส่วน การลงทุน |
ประมาณการผลตอบแทน (ต่อปี) | |
|
ของตราสาร |
ของกองทุน | |||
|
เงินฝาก Agricultural Bank of China, สาขาฮ่องกง |
A/Fitch |
19.00% |
1.69% |
0.32% |
|
เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า |
A/Fitch |
19.00% |
1.76% |
0.33% |
|
เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง |
A/Fitch |
19.00% |
1.70% |
0.32% |
|
เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
A+/Fitch |
19.00% |
1.89% |
0.36% |
|
เงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
A+/Fitch |
14.00% |
1.64% |
0.23% |
|
บัตรเงินฝาก ICBC Ltd., สาขาลักเซมเบิร์ก |
A/Fitch |
10.00% |
1.56% |
0.16% |
|
รวม |
1.72% | |||
|
ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน |
(0.37%) | |||
|
ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ จากการลงทุนในระยะเวลาประมาณ 1 ปี |
1.35% | |||
|
ตราสารที่กองทุน KFF6MEB คาดว่าจะลงทุน |
อันดับเครดิต |
สัดส่วน การลงทุน |
ประมาณการผลตอบแทน (ต่อปี) | |
|
ของตราสาร |
ของกองทุน | |||
|
เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า |
A/Fitch |
19.00% |
1.69% |
0.32% |
|
เงินฝาก Abu Dhabi Commercial Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
A+/Fitch |
19.00% |
1.53% |
0.29% |
|
เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง |
A/Fitch |
19.00% |
1.58% |
0.30% |
|
เงินฝาก Agricultural Bank of China, สาขาฮ่องกง |
A/Fitch |
19.00% |
1.55% |
0.30% |
|
หุ้นกู้ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย |
A-/TRIS |
19.00% |
1.52% |
0.29% |
|
เงินฝาก Union National Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
A+/Fitch |
5.00% |
1.47% |
0.07% |
|
รวม |
1.57% | |||
|
ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน |
(0.42%) | |||
|
ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ จากการลงทุนในระยะเวลาประมาณ 6 เดือน |
1.15% | |||
KTAM เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนกับ 2 กองทุน RMF "KT-Technology RMF และ KT-GESG RMF" IPO 28 ต.ค.-5 พ.ย. นี้
บลจ. ทิสโก้ จัดสัมมนา "ชีวิตดี๊ดี Happy 55+" หนุนสมาชิก PVD มีชีวิตหลังเกษียณมั่นคงและมีความสุข
โค้งสุดท้ายลดหย่อนภาษีปีนี้ BBLAM ชวนคนไทยเลือกลงทุนใน RMF และ Thai ESG ให้เท่าทันสถานการณ์โลก
บลจ.อีสท์สปริง เปิดกองพันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น "ES-GOVCP3M3 อายุ 3 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท ยิลด์ 0.90%ต่อปี IPO 21-27 ต.ค.68
InnovestX จับมือ LH Fund เปิด IPO "LH GLOBAL ENHANCED FUND"
บลจ.เกียรตินาคินภัทร เดินหน้าขับเคลื่อนการลงทุนอย่างรับผิดชอบ ร่วมลงนามรับหลักการ UN-Supported Principles for Responsible Investment (PRI)
บลจ.อีสท์สปริง จับมือ บล.กรุงศรี ขยายธุรกิจผู้แนะนำการลงทุนอิสระ เสริมศักยภาพบริการลูกค้า
บลจ.อีสท์สปริง เปิด "ES-GAINCOME-UH" เพิ่มอีก 1 กอง
KTAM เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ภัยพิบัติ "KT-CATBOND-UI และ KT-CATBONDUH-UI" IPO 14-21 ต.ค.นี้