องค์กรอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเชียจับมือธนาคารพัฒนาเอเชีย และภาครัฐบาลเพือขับเคลื่อนวาระความปลอดภัยด้านอาหารในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          องค์กรอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเชีย (Food Industry Asia หรือ FIA) แสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุน 6 ประเทศในอนุภูมิภาคแม่ลุ่มน้ำโขง (Greater Mekong Subregion หรือ GMS) เพื่อสร้างศักยภาพและเสริมสร้างระบบความปลอดภัยด้านอาหาร โดยจะทำหน้าที่ตัวแทนของภาคเอกชนในการประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในระดับรัฐบาล ผู้กำหนดนโยบาย และผู้นำในภาคอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อผลักดันวาระความปลอดภัยด้านอาหาร อันเป็นผลจากการประชุมรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงครั้งที่ 2 ในหัวข้อ "GMS: Towards Inclusive, Safe, and Sustainable Agriculture Value Chains" ซึ่งจัดขึ้น ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 6 - 8 กันยายนที่ผ่านมา
          วัตถุประสงค์หลักของการประชุมรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงครั้งที่ 2 คือ การลงนามรับรองและเห็นชอบในแผนยุทธศาสตร์ปี 2561 - 2565 และแผนปฏิบัติการเสียมราฐ เพื่อส่งเสริมห่วงโซ่คุณค่าทางการเกษตรที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยรัฐมนตรีเกษตรจากกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงที่ร่วมลงนาม ประกอบด้วย กัมพูชา สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม
          บทบาทของ FIA ในเวทีนี้เป็นการทำงานร่วมกับคณะทำงานด้านการเกษตรภายใต้โครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และการประสานความร่วมมือกับธนาคารพัฒนาเอเชีย ทั้งการประชุมและหารือกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงเกษตรของสมาชิกประเทศกลุ่ม GMS การประชุมอย่างเป็นทางการระหว่างภาครัฐและเอกชน และการจัดเวทีอภิปรายเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกัน นอกจากนี้ ภาคอุตสาหกรรมอาหารยังมีส่วนสำคัญในการจัดเวทีอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายความปลอดภัยด้านอาหาร การบริหารจัดการที่ดินและน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพที่เชื่อถือได้โดยเน้นบทบาทของห่วงโซ่คุณค่าทางเกษตรในการพัฒนาอนุภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (Agritourism)
          นาย Matt Kovac ผู้อำนวยการบริหารของ FIA กล่าวว่า เป้าหมายของเราคือ การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอย่างยั่งยืน ในรูปของพันธมิตรที่ประกอบด้วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย เพื่อปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร"
          ทั้งนี้ พันธมิตรและสมาชิกของ FIA ที่เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเกษตรอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงครั้งที่ 2 และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประชุมดังกล่าว ได้แก่ ตัวแทนจากบริษัทคาร์กิลล์ บริษัท เนสท์เล่ สถาบันรหัสสากล (GS1) และ บริษัทวอร์เตอร์ส คอร์ปอเรชั่น
นาย Kim Keat Ng ประธานคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์และเทคนิคของ FIA ได้ประกาศถึงความมุ่งมั่นของ FIA ในการประสานความร่วมมือในหลากหลายด้านเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยด้านอาหาร ซึ่งหากดำเนินการ จะทำให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงบวกได้ในทันที สาระสำคัญของข้อเสนอแนะโดยนาย Kim Keat Ng ได้แก่
          1. การตรวจสอบย้อนกลับ โดยการนำระบบบาร์โค้ดมาตรฐานสากล GS1 มาใช้ในการอำนวยความสะดวกและตรวจสอบการค้าข้ามพรมแดน รวมถึงการใช้ข้อมูลการค้าระหว่าง รัฐบาลกับรัฐบาล ธุรกิจกับรัฐบาล และ รัฐบาลกับธุรกิจ
          2. การสร้างกลไกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของห้องปฏิบัติการ ทั้งในระดับผู้นำ ฝ่ายจัดการและในด้านของเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค
          3. การสื่อสารความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของอาหาร โดยร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์มด้านสารสนเทศ เช่น AINS 2.0 (Agricultural Information Service Network 2.0) เพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร และหน่วยเก็บข้อมูลความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหารสำหรับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
          4. การส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในอนุภูมิภาคใช้มาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารที่สอดคล้องต้องกัน เพื่อส่งเสริมการค้า โดย FIA จะเป็นผู้ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการหารือระหว่างภาครัฐและเอกชน
          5. การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านอาหารของแต่ละประเทศในอนุภูมิภาค ซึ่งจะดำเนินการผ่านเวทีอภิปรายระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน
          นาย Kim Keat Ng ยังกล่าวเสริมว่า FIA ตระหนักดีว่า การจัดวางกรอบนโยบายด้านอาหารสำหรับภูมิภาค ซึ่งขับเคลื่อนบนผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน จะช่วยยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคและผู้จัดหาสินค้า หรือ ซัพพลายเออร์ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ร่วมทั้งการเพิ่มผลผลิตและการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะเอื้อต่อการทำตลาด นอกจากนี้ การใช้เครือข่ายในรูปของพันธมิตรที่ประกอบด้วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย ทำให้ FIA และคณะทำงานฯ มีโอกาสปรับปรุงความปลอดภัยด้านอาหารในภูมิภาค โดยเน้นด้านความเสี่ยงของทั้งซัยพพลายเชน ซึ่งจะก่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
          ในลำดับต่อจากนี้ คณะทำงานจะนำเอาข้อเสนอแนะของ FIA และแนวคิดริเริ่มต่างๆ ไปดำเนินการเพื่อให้เกิดความก้าวหน้า เพื่อให้มั่นใจได้ว่า จะทำให้เกิดการผลิตอาหารที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะเดียวกัน FIA และกระทรวงเกษตรในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น

องค์กรอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเชียจับมือธนาคารพัฒนาเอเชีย และภาครัฐบาลเพือขับเคลื่อนวาระความปลอดภัยด้านอาหารในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

ข่าวFood Industry Asia+ธนาคารพัฒนาเอเชียวันนี้

Thai agri-food sector shrank 6% last year but remains a significant pillar to support country's economic recovery COVID-19 caused supply & demand challenges and fiscal risks threaten to overburden the industry & consumers

Thailand's agri-food sector contracted by 6%, or THB 228 billion, last year with a corresponding decline of 8%, or 730,000 people, in its workforce, largely due to the effects of the COVID-19 pandemic, revealed new research by Oxford Economics. Food Industry Asia (FIA) commissioned The Economic Impact of the Agri-Food Sector in South East Asia to better understand the challenges faced by the region's industry last year, with the report highlighting the pivotal role the sector will play in

เผยคนไทยส่วนใหญ่ต้องการปรับโภชนาการที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

รายงานล่าสุด โดยองค์กรอุตสาหกรรมอาหารแห่งเอเชีย หรือ Food Industry Asia (FIA) และบริษัทวิจัยตลาด IGD ระบุว่า คนไทยเกือบทั้งประเทศ หรือราวร้อยละ 99 สนใจปรับมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ (ร้อยละ 82) กล่าวว่า...

According to a new report by Food Industr... Most Thai consumers want to improve their diets and are open to healthier product reformulation — According to a new report by Food Industry Asia (FIA) an...