กรุงไทยยันเงินกองทุนแข็งแกร่งตามเกณฑ์ธปท.

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กรณีที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เรื่อง รายชื่อธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศ ซึ่งได้มีชื่อของธนาคารกรุงไทย เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยต่อความเสี่ยงระบบในประเทศนั้น เนื่องจากเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่จะมีผลต่อระบบการเงินรวม ดังนั้น ธปท.จึงกำหนดอัตราส่วนเงินกองทุนสูงกว่าธนาคารขนาดเล็ก ซึ่งธนาคารเห็นว่า ประกาศของธปท.ดังกล่าว เป็นตามเกณฑ์กฎบาเซิล 3 ที่ใช้ทั่วโลก
          นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย (Mr. Poonpat Sripleng Senior Executive Vice President - Head of Risk Management Group KTB)เปิดเผยว่า ตามประกาศของธปท.ดังกล่าว ทำให้ในปี 2562 ต้องมีการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงขั้นต่ำ เพิ่มขึ้นอีก 0.5% กล่าวคือ ในปี 2562 ธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวทั้ง 5 แห่งตามประกาศ ต้องมีเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Total Capital Ratio) ขั้นต่ำอยู่ที่ 11.50% ตามเกณฑ์ธปท. โดยปัจจุบันเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารกรุงไทย (ตามเกณฑ์กลุ่มธุรกิจทางการเงิน) ณ สิ้นมิ.ย.2560 อยู่ที่ 16.27% ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง สูงกว่าเกณฑ์ที่ธปท.กำหนดไว้เช่นกัน
          " ธนาคารมีเงินกองทุนตามเกณฑ์บาเซิล 3 มาแล้วตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งขณะนี้เงินกองทุนของธนาคารสูงกว่าเกณฑ์ธปท.กำหนดไว้ ขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีความกังวลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องเงินกองทุนในปัจจุบัน ซึ่งสถานะทางการเงินของธนาคารยังมีความแข็งแกร่ง" นายพูลพัฒน์กล่าว
          สำหรับประกาศธปท.เรื่องแนวทางการระบุและการกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ที่มีนัยสำคัญต่อความเสี่ยงเชิงระบบในประเทศนั้น ก่อนหน้านี้ธปท.ยังได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนส่วนเพิ่ม เพื่อรองรับผลขาดทุนในภาวะวิกฤต(Conservation buffer) โดยให้ทยอยดำรงส่วนเงินกองทุนเพิ่มเติมจากอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำอีก ปีละ 0.625% ตั้งแต่ 1 ม.ค.2559 จนครบ 2.50% ในวันที่ 1 ม.ค.2562 ซึ่งในปัจจุบันธนาคารได้มีการตั้งสำรองตามเกณฑ์ของธปท.ครบถ้วน
          นายพูลพัฒน์ ศรีเปล่ง กล่าวในตอนท้ายว่า ธนาคารมีความเชื่อมั่นว่า เงินกองทุนตามเกณฑ์ดังกล่าว จะสามารถรองรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ส่งผลให้สถานะทางการเงินของธนาคารมีความแข็งแกร่ง และสามารถรองรับการขยายธุรกิจได้ในอนาคต
กรุงไทยยันเงินกองทุนแข็งแกร่งตามเกณฑ์ธปท.

ข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย+พูลพัฒน์ ศรีเปล่งวันนี้

กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ ระบุ เงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยหลัง กนง. ประกาศลดดอกเบี้ย คาดการณ์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2569

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี มาอยู่ที่ 1.25% ต่อปี การปรับลดครั้งนี้ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อเดือนมกราคม 2566 ในการแถลงของ กนง. ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2569 และปี 2570 มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงจากครึ่งแรกของปี 2568 โดยการบริโภคภาคเอกชนชะลอลง และภาคส่งออกเริ่มรับรู้ถึงผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ ภาคการท่อง

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไว้วางใจ บริษั... ธปท.แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ ร่วมบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ — ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไว้วางใจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ.ทิสโก้) แต่งตั...

ช่วยลูกหนี้ต่ำแสน ชูธงแก้หนี้ผ่อนปรน โปร่... SAM" เปิดบทบาทใหม่ "SAM Social AMC" ขานรับนโยบายเร่งด่วนภาครัฐ "ปิดหนี้ไว ไปต่อได้" — ช่วยลูกหนี้ต่ำแสน ชูธงแก้หนี้ผ่อนปรน โปร่งใส เป็นธรรม เพื่อคนไทยเริ่...