นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ให้ความรู้ทั่วประเทศครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นรอบที่ 2เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ตามโครงการ National e-Payment และด้านประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายในทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เปิดให้บริการพร้อมเพย์มาแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 และเริ่มขยายการติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่าเครื่อง EDC แก่ร้านค้าและหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้เริ่มมีการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตไปแล้ว และจะมีการแจกต่อเนื่อง 12 ครั้ง ถึงเดือนเมษายน 2561
"ปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นการใช้บริการ e-Payment นอกจากบริการที่สถาบันการเงินและภาครัฐได้พัฒนาให้สามารถใช้งานได้สะดวก ปลอดภัย และมีค่าธรรมเนียมต่ำแล้ว อีกปัจจัยที่สำคัญคือ การสร้างความรู้ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ การจัดงานลงพื้นที่ให้ความรู้ในครั้งนี้ เรามุ่งหวังให้ผู้ที่เข้าร่วมงานสามารถไปให้ข้อมูลต่อได้ ได้แก่ ประชาชน หน่วยราชการ เจ้าของกิจการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร โดยให้เข้าถึงทุกภาคส่วน ทุกระดับ เพื่อชี้ให้เห็นประโยชน์ของการใช้ e-Payment ต่อประชาชน องค์กร และเศรษฐกิจโดยรวม"
สำหรับบริการพร้อมเพย์ มีการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ เดือนสิงหาคม มีผู้ลงทะเบียนแล้วกว่า 32ล้านเลขหมาย และมียอดการโอนเงินสะสมกว่า 1 แสนล้านบาท ส่วนการวางเครื่อง EDC ได้มีการติดตั้งแล้วกว่า150,000 ร้านค้า
"จากการติดตามผลพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบว่าบัตร ATM ที่ถืออยู่นั้นเป็นบัตรเดบิตด้วยในตัว สามารถใช้ซื้อสินค้าได้โดยตรง หากลองสังเกตบัตร ATM ที่มีอยู่ ถ้ามีข้อความว่าเป็น Debit Card หรือมีตราสัญลักษณ์ของผู้ให้บริการเครือข่ายบัตร ก็ใช้รูดซื้อของแทนเงินสดได้ ซึ่งภาครัฐได้อำนวยความสะดวกโดยร่วมกับสถาบันการเงินขยายการติดตั้งเครื่อง EDC ให้มากขึ้นทยอยไปทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชนที่จะเปลี่ยนจากการใช้เงินสดมาเป็นการใช้บัตร ATM – เดบิตแทน โดยรัฐบาลได้จัดโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิต ให้ทั้งผู้ใช้และร้านค้ามีสิทธิลุ้นโชคจากการชำระเงินผ่านเครื่อง EDC จำนวนกว่า 1,000 รางวัล และจะแจกรางวัลเป็นระยะเวลา 1 ปี เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค. 60 รวมมูลค่ารางวัลเป็นเงิน 84 ล้านบาท
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของประชาชนจากการใช้เงินสด มาเป็นการโอนเงินผ่านบริการพร้อมเพย์หรือการใช้บัตรATM-เดบิตดังกล่าว ถือเป็นเป้าหมายหนึ่งของยุทธศาสตร์ National e-Payment ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเป็น digital economy ต่อไป" นางสาวสิริธิดา กล่าวสรุป
การเดินสายให้ความรู้ครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างเดือนกันยายนถึงธันวาคมใน 7 จังหวัดใหญ่ทั่วประเทศ ได้แก่ ขอนแก่น และอุดรธานี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครศรีธรรมราช และสงขลา ในภาคใต้ ระยองในภาคตะวันออก และพิษณุโลกและเชียงใหม่สำหรับในภาคเหนือ
                            
                            "กอช." ผนึกกำลังหน่วยงานพันธมิตร ขยายช่องทางการจำหน่าย และชำระเงิน "สลาก กอช." ครอบคลุมทุกช่องทาง
                        
                            ธอส. สานต่อโครงการคุณสู้ เราช่วย เฟส 2 ขยายระยะเวลาลงทะเบียนพร้อมเพิ่มคุณสมบัติ ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางให้ครอบคลุมมากขึ้น
                        
                            "StockLend by NestiFly" นำเสนอโซลูชัน P2P Lending หนึ่งเดียวในประเทศไทย พร้อมชวนสัมผัสผลิตภัณฑ์ได้ในงาน Money Expo 2025
                        
                            EXIM BANK ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs ปิดหนี้ได้ไว ไปต่อได้เร็ว
                        
                            ไทยพาณิชย์สนับสนุน โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ช่วยลูกค้ากลุ่มเปราะบาง สร้างวินัย แก้หนี้ครัวเรือนยั่งยืน
                        
                            สมาคมธนาคารไทย ร่วมมือกับภาครัฐเตรียมออกมาตรการลดภาระชำระหนี้ ช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยและธุรกิจขนาดเล็ก
                        
                            บางจากฯ จัดตั้งศูนย์บริหารเงิน ยกระดับการบริหารเงินสู่แนวปฏิบัติสากล เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
                        
                            'ชนน วังตาล' พา 'AQ' เดินหน้าธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล มั่นใจช่วยเสริมพอร์ตแกร่ง
                        
                            ฟอร์วิส มาซาร์ส ชี้ 8 แนวโน้มความเสี่ยงหลังระบบการเงินไทยเปลี่ยนแปลง