โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนานวัตกรรม Mobile Application "RDU รู้เรื่องยา" ระหว่าง 6 หน่วยงาน โดยมีผู้บริหารระดับสูงร่วมลงนาม ประกอบด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ประธานเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet)
รศ.ดร.ภญ.สุวัฒนา จุฬาวัฒนพล คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นพ.บุญชัย กิจสนาโยธิน ผู้จัดการสำนักพัฒนามาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพไทย สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (ผู้แทน ผอ.สวรส.) และ ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ทั้งนี้ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลและประธานคณะอนุกรรมการส่งเสริมการใช้ยาสมเหตุผล ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมสิรินธร อาคารเฉลิมพระเกียรติ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร กล่าวในพิธีลงนามฯ ว่า "แอปพลิเคชั่น RDU รู้เรื่องยา" ถือเป็นการปฏิรูประบบสาธารณสุขที่ชัดเจน โดยรัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติเพื่อให้ประชาชนใช้ยาอย่างสมเหตุผล ปลอดภัย ซึ่งความร่วมมือของ 6 หน่วยงานในการพัฒนาแอปพลิเคชันข้อมูลยาในครั้งนี้ จะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับนโยบายของประเทศเรื่อง Health Literacy ความรอบรู้เรื่องสุขภาพ ซึ่งแอปพลิเคชัน RDU รู้เรื่องยา เป็นช่องทางที่ประชาชนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ยาอย่างเหมาะสม ถูกต้อง และปลอดภัย ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาฉลากยา ฉลากยาเสริม และข้อมูลการใช้ยาที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
"ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้ง 6 หน่วยงานมีบทบาทความรับผิดชอบที่สำคัญ โดยกระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข มีหน้าที่ร่วมกันพัฒนาข้อมูลยาที่เป็นมาตรฐาน สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ทำการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผ่านทางแอปพลิเคชัน ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลยาที่พัฒนาขึ้นได้อย่างสะดวก ส่วนคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ร่วมจัดทำข้อมูลและความรู้ด้านยาที่เป็นประโยชน์ เผยแพร่แก่ประชาชน" รมว.สธ. กล่าว
ด้าน นพ.บุญชัย กิจสนาโยธิน ผู้แทน สวรส.ในการลงนามความร่วมมือฯ กล่าวว่า สวรส. มีนโยบายชัดเจน และมีโครงการวิจัยหลายโครงการที่ช่วยขับเคลื่อนการใช้ยาอย่างสมเหตุผล สำหรับโครงการพัฒนา Mobile Application RDU รู้เรื่องยา สวรส.มีส่วนร่วมด้วยการเป็นหน่วยงานที่พัฒนาและดูแลฐานข้อมูลรายการยาและรหัสยามาตรฐานทีเอ็มที (Thai Medicines Terminology-TMT) ทำให้มีการระบุรายการยาได้อย่างชัดเจน แม่นยำ และเป็นพื้นฐานในการพัฒนาฐานข้อมูลของแอปพลิเคชันด้านการบริการสุขภาพอื่นๆ รหัสยาทีเอ็มที นอกจากจะใช้กับโปรแกรมแอปพลิเคชัน RDU รู้เรื่องยาแล้ว ปัจจุบันกระทรวงการคลัง ได้นำไปใช้ในระบบข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ และระบบข้อมูลเบิกจ่ายค่าบริการสุขภาพของกองทุนประกันสุขภาพต่างๆ ซึ่งมาตรฐานข้อมูลรหัสทีเอ็มที ทำให้ระบบข้อมูลสามารถเชื่อมโยงกันได้ ทำให้เกิดการให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีคุณภาพและสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ขณะนี้ แอปพลิเคชันมีข้อมูลยากว่า 700 รายการ อยู่ระหว่างการทดสอบความสมบูรณ์ เพื่อมอบความรู้เรื่องยาเป็นของขวัญปีใหม่ ปี 2561 แก่ประชาชน โดยแอปพลิเคชันนี้จะบันทึกข้อมูลยาเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ ผ่าน QR Code ที่ซองยา ประกอบด้วยข้อมูล ชื่อโรงพยาบาล ชื่อยา วิธีการใช้ยา ข้อมูลฉลากยาเสริม ข้อมูลความปลอดภัยด้านยา และข้อมูลอื่นๆ เช่น ข่าวสารเรื่องยา และการค้นหาโรงพยาบาลและร้านยาคุณภาพ ทั้งนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งระบบ Android และ iOS ในเดือน พฤศจิกายน 2560 นี้ โดยจะเริ่มใช้ที่ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี รพ.ราชวิถี รพ.วชิรพยาบาล รพ.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ รพ.ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 10 แห่ง คือ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 จ.สุพรรณบุรี รพ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี รพ.พระพุทธโสธร จ.ฉะเชิงเทรา รพ.สระแก้ว รพ.ระนอง รพ.กระบี่ รพ.บุรีรัมย์ รพ.อุดรธานี รพ.สรรสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี และ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข จับมือ โรช ไทยแลนด์ ลงนาม MOU หนุนการพัฒนาระบบสุขภาพให้ชาวไทย
สมาคมมนุษยพันธุศาสตร์ เปิดเวทีวิชาการ "ก้าวถัดไปกับจีโนมิกส์ประเทศไทย" ชูความร่วมมือทางพันธุศาสตร์มนุษย์ พัฒนาระบบบริการสุขภาพ-อุตสาหกรรมการแพทย์ในอนาคต
เดินหน้าความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ประเทศไทย - อังกฤษ เตรียมพัฒนาแนวทางนำข้อมูลพันธุกรรมใช้ประโยชน์วิจัย วินิจฉัยรักษา ในไทย
ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ พัฒนาเชิงรุกให้บริการตรวจเลือดเพื่อระบุอัลไซเมอร์ และจุลินทรีย์ในลำไส้
9 ส.ค. เชิญร่วมฟังเสวนา Jump to Future : ก้าวสู่ยุคดิจิตอล เสริมสร้างบริการกับแชทบอทผู้ดูแลสุขภาพจิตตลอด 24 ชม.
สวรส. ถกบทเรียนวิจัยแก้วิกฤตโควิดกับการขับเคลื่อนนโยบาย สู่มาตรการลดช่องว่างสังคมไทย
สวรส. สรุปผลผลักดันวิจัยโควิด หนุนใช้ออกแบบมาตรการรัฐ ผ่อนปรนล็อคดาวน์ประเทศ บอร์ดแนะเร่งวิจัยต่อเนื่องครอบคลุมระยะกลาง-ยาว
สวรส. เดินหน้าศูนย์บริการทดสอบการแพทย์จีโนมิกส์ ถอดรหัสพันธุกรรมคนไทยมาตรฐานสากล 5 หมื่นราย
ความร่วมมือวิจัยแบบจำลองปอดสามมิติ หัวใจสำคัญการทดสอบยา-กุญแจไขรหัสการรักษาชีวิตผู้ป่วยโควิด