พร้อมจัดการหนี้เกษตรกรสมาชิกที่เป็นลูกหนี้ ธ.ก.ส. ตามโครงการปรับโครงสร้างหนี้2,185 ราย รวม 324,455,096.74 บาท
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ ครั้งที่ 2/2560 ที่มีพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ว่า ตามที่มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 26/2560 เรื่องการแก้ปัญหาการดำเนินงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และได้มีการตั้งคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจขึ้น แทนคณะกรรมการชุดเดิม เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และเพื่อประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจภาคเกษตร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ โดยในการประชุมครั้งแรกได้มีมติเห็นชอบแต่งการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 4 คณะ ประกอบด้วย 1. คณะอนุกรรมการจัดทำหลักเกณฑ์การจัดการหนี้ของเกษตรกร กรณีหนี้เร่งด่วน 2. คณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลหนี้สินเกษตรกร 3. คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงสร้างและกฎหมายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และ 4. คณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณประจำปี 2560 และ 2561 ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
ล่าสุด ในการประชุมครั้งที่ 2 ที่ประชุมมีระเบียบวาระเพื่อพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ อาทิ โครงการและงบประมาณของคณะกรรมการกลั่นกรอง ตรวจสอบ ยืนยันข้อมูลหนี้สินเกษตรกร รวมถึงกรอบ โครงสร้างและกฎหมายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และกรอบ หลักเกณฑ์และผลการกลั่นกรองงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2560 และ พ.ศ. 2561 ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งที่ประชุมมีมติที่สำคัญ อาทิ เห็นชอบให้คณะอนุกรรมการกรอบ โครงสร้างและกฎหมายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ทบทวนรายละเอียดโครงสร้างและกฎหมายของกองทุนฟื้นฟูฯ โดยนำเสนอในการประชุมคราวหน้า รวมทั้ง เห็นชอบให้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ดำเนินการจัดการหนี้เกษตรกรสมาชิกที่เป็นลูกหนี้ ธ.ก.ส. ตามโครงการปรับโครงสร้างหนี้ และเห็นชอบบัญชีรายชื่อและข้อมูลหนี้สินเกษตรกรสมาชิก กฟก. ที่ผ่านการตรวจสอบระหว่าง ธ.ก.ส. และ กฟก. จำนวน 2,185 ราย จำนวนเงิน 324,455,096.74 บาท เพื่อการจัดการหนี้และอนุมัติให้ชำระหนี้แทนในฐานะคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร และคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
นายธีรภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังให้ความเห็นใช้หลักเกณฑ์การจัดการหนี้ ประกอบด้วย 1) ต้องเป็นสมาชิกองค์กรเกษตรกร ขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร 2) วัตถุประสงค์การกู้เพื่อการเกษตร 3) ชำระหนี้ต่อรายไม่เกิน 2.5 ล้านบาท 4) มีหลักทรัพย์เป็นหลักประกันและชำระหนี้แทนได้ไม่เกินราคาประเมินหลักทรัพย์คุ้มมูลหนี้ 5) เป็นหนี้เร่งด่วน ได้แก่ ฟ้องร้องดำเนินคดี พิพากษา บังคับคดี ขายทอดตลาด 6) เกษตรกรที่ทุพลภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เกษตรกรสูงอายุ ไม่มีบุตรหลานดูแล ให้ช่วยเหลือเป็นลำดับแรก และ 4) ให้ดำเนินการตามกรอบของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ กำหนด โดยใช้ขั้นตอนพิเศษ และวิธีปฏิบัติของสำนักงาน
"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการให้เข้าไปดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในกลุ่มเกษตรกรที่มีปัญหา ก่อนเกิดผลกระทบซึ่งเน้นย้ำให้ทำทันที และเป็นไปตามระเบียบ กติกา นอกจากนี้ เพื่อให้แนวทางการตรวจสอบข้อมูลหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน จึงได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อมูลหนี้สินเกษตรกรระดับจังหวัดและระดับอำเภอ พร้อมจัดทำแผนปฏิบัติงาน รวมถึงคู่มือคณะทำงานตรวจสอบข้อมูลหนี้สินเกษตรกรระดับจังหวัด และระดับอำเภอ ตามกรอบภารกิจคำสั่ง คสช.ที่ 26/2560 เพื่อให้มีความรัดกุมและชัดเจนมากขึ้น" ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว