1.นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ จำนวน 4,000,000,000 หุ้น เป็นเงิน 200,000,000 บาท
2.นางสิริการย์ เจริญสหายานนท์ จำนวน 4,000,000,000 หุ้น เป็นเงิน 200,000,000 บาท
3.นายสมยศ วงษ์ทองสาลี จำนวน 4,000,000,000 หุ้น เป็นเงิน 200,000,000 บาท
4.น.ส.ฐานุตรา สื่อวีระชัย จำนวน 3,900,000,000 หุ้น เป็นเงิน 195,000,000 บาท
5.นายศุภลักษณ์ เศษธะพานิช จำนวน 3,510,000,000 หุ้น เป็นเงิน 175,500,000 บาท
6.นายพิเชษฐ์ เพิ่มทรัพย์หิรัญ จำนวน 2,400,000,000 หุ้น เป็นเงิน 120,000,000 บาท
7.นายสิทธิชัย ศิริพัฒนสมชาย จำนวน 2,240,000,000 หุ้น เป็นเงิน 112,000,000 บาท
8.นายสุสิชณ์ทักษ์ อัจฉริยะสมบัติ จำนวน 2,000,000,000 หุ้น เป็นเงิน 100,000,000 บาท
9.นายวุฒิชัย พงษ์ศักดิ์ จำนวน 1,410,000,000 หุ้น เป็นเงิน 70,500,000 บาท
10.นายเอี่ยม อาชวกุลเทพ จำนวน 1,400,000,000 หุ้น เป็นเงิน 70,000,000 บาท
11.Mr. Joseph Lee Boon Leng จำนวน 1,300,000,000 หุ้น เป็นเงิน 65,000,000 บาท
12.นายสุวัฒน์ชัย ปัญญจิรวุฒิ จำนวน 1,040,000,000 หุ้น เป็นเงิน 52,000,000 บาท
13.นายปานเทพ กุลพนาภินันท์ จำนวน 1,040,000,000 หุ้น เป็นเงิน 52,000,000 บาท
14.นางสุนทรีย์ ปิติ จำนวน 1,000,000,000 หุ้น เป็นเงิน 50,000,000 บาท
15.นายเจนวิทย์ ว่องธนะวิโมกษ์ จำนวน 900,000,000 หุ้น เป็นเงิน 45,000,000 บาท
จากการขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้นจำนวน 34,140,000,000 หุ้น โดยมีจำนวนหุ้นเดิมของบริษัทฯ จำนวน 12,674,683,535 หุ้น รวมเป็นจำนวนหุ้นทั้งหมด 46,814,683,535 หุ้น คำนวณราคาตลาดหลังการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงเท่ากับ 0.05 บาท Price Dilution 0 % และ Control Dilution 72.93 % สาเหตุที่ Price Dilution ไม่กระทบต่อผู้ถือหุ้นเดิม เนื่องจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก 7-14 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติจัดสรร ไม่สามารถหาได้ เนื่องจากหุ้นของบริษัทฯ ไม่ได้มีการซื้อขาย ทางบริษัทฯจึงต้องใช้ราคา 0.05 บาท ซึ่งเป็นราคาประเมินของบริษัท S14 เป็นราคาหุ้นก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทฯ จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน และเมื่อคณะกรรมการบริษัทฯ จัดสรรในราคาเท่ากับราคาตลาดคือ 0.05 บาท ดังนั้น Price Dilution จึงไม่มีผลกระทบ
โดยปัจจุบัน ทางบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องระดมเงินทุนให้เร็วที่สุด เพื่อทำข้อตกลงในการประนอมหนี้หรือชำระหนี้กับธนาคารกรุงไทย ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ตามที่เคยได้แจ้งเหตุผลในที่ประชุมผู้ถือหุ้นไปแล้วนั้น บริษัทฯ ยังคงดำเนินงานโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง หากได้รับเงินเพิ่มทุนดังกล่าวก็จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ และเป็นเงินทุนสำรองในขยายธุรกิจได้ต่อไป ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถที่จะเติบโตและสร้างผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต
ธนาคารไทยเครดิต คว้า SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ระดับ "A" ตอกย้ำถึงการเป็น "ธนาคารเพื่อความยั่งยืน"
TGE คว้าเรตติ้ง ESG ระดับ A จาก SET ปี 2568 ตอกย้ำผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เติบโตอย่างยั่งยืน
เอ็ม บี เค คว้าคะแนนการประเมิน CGR ระดับ "ดีเลิศ" ต่อเนื่องปีที่ 10
กลุ่มบริษัท "เสนา" ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน "SET ESG Ratings ระดับ A"
"โนเบิล" คว้าเรตติ้งสูงสุด AAA ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จาก SET ESG Ratings 2025
TASCO คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ "AA"
JMART - JMT ยืน SET100 ครึ่งแรกปี 2569 พร้อมตอกย้ำศักยภาพ ESG กลุ่มเจมาร์ทยกระดับคะแนนความยั่งยืน
MSC ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ประจำปี 2568
WINMED ลุย! ให้บริการนวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อคนไทย