ยูพีเอส ประกาศเป้าหมายด้านความยั่งยืนใหม่อันเข้มข้นในการเพิ่มจำนวนยานพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัยในการขนส่ง พร้อมหันมาใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนในการดำเนินงานให้มากขึ้น เป้าหมายดังกล่าวซึ่งมีรายละเอียดใน รายงานด้านความยั่งยืนขององค์กรประจำปี 2559 สนับสนุนความมุ่งมั่นของยูพีเอสในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินงานภาคพื้นดินทั่วโลกให้ได้ 12% ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่วางขึ้นโดยใช้วิธีการที่ได้รับการอนุมัติจากโครงการเป้าหมายพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative)
เดวิด แอ็บนีย์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยูพีเอส กล่าวว่า "ด้วยขนาดธุรกิจของเรา เราทราบดีว่าความมุ่งมั่นของเราสามารถกำหนดทิศทางตลาด สร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และช่วยผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานได้ เราจึงตั้งความหวังไว้กับพนักงาน คู่ค้า และผู้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีของเราในการช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมขนส่งและกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรม"
ยูพีเอสตั้งเป้าที่จะให้ 25% ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในองค์กรมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากระดับ 0.2% ในปี 2559 นอกจากนั้น ในปี 2563 ยูพีเอสวางแผนว่าหนึ่งในสี่ของยานพาหนะใหม่ที่ซื้อในแต่ละปีต้องเป็นพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัย เพิ่มขึ้นจาก 16% ในปี 2559 บริษัทยังตั้งเป้าหมายใหม่ที่จะให้ 40% ของพลังงานที่ใช้ในภาคพื้นดินทั้งหมดมาจากแหล่งที่ไม่ใช่น้ำมันเบนซินและดีเซลภายในปี 2563 เพิ่มขึ้นจาก 19.6% ในปี 2559
ปัจจุบัน ยูพีเอสใช้ยานพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัยกว่า 8,300 คันทั่วโลก ขบวนพาหนะของบริษัทมีทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไฮบริดไฟฟ้า ไฮโดรลิกไฮบริด ก๊าซซีเอ็นจี ก๊าซแอลเอ็นจี ก๊าซโปรเพน และรถโครงสร้างคอมโพสิตน้ำหนักเบาประหยัดพลังงาน นอกจากการใช้รถยนต์พลังงานทดแทนแล้ว ยูพีเอสยังใช้น้ำมันดีเซลหมุนเวียนและก๊าซธรรมชาติหมุนเวียนซึ่งมีระดับคาร์บอนฟุตพรินต์ต่ำในขบวนพาหนะจำนวนหลายล้านแกลลอนในแต่ละปี
แนวคิดริเริ่มเหล่านี้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นของยูพีเอสในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแม้ในภาวะการเติบโตของการส่งสินค้าอีคอมเมอร์ซ ซึ่งส่งผลให้มีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นทั้งในการดำเนินการต่าง ๆ และในยานพาหนะขนส่ง
วิสัยทัศน์ของยูพีเอสสะท้อนให้เห็นภาพเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะแห่งอนาคตซึ่งยานพาหนะและสถานที่ปฏิบัติงานต่าง ๆ ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยและขับเคลื่อนด้วยแหล่งพลังงานที่หลากหลายและยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ พลังงานลมจากที่อื่น ก๊าซธรรมชาติหมุนเวียน ไฮโดรเจนหมุนเวียน ดีเซลหมุนเวียนที่ส่งผ่านระบบสาธารณูปโภคด้านพลังงานที่ทันสมัย ซึ่งยูพีเอสได้เริ่มใช้เทคโนโลยีเหล่านี้แล้วในขบวนยานพาหนะและสถานที่ปฏิบัติงานภาคพื้นดินบางแห่ง และมีแผนที่จะใช้เพิ่มในอัตราที่สูงขึ้นอย่างชัดเจนในขบวนยานพาหนะทั่วโลก
ตั้งแต่ปี 2552 ยูพีเอสได้ลงทุนไปแล้วกว่า 750 ล้านดอลล่าร์ในด้านพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัยและสถานีเชื้อเพลิงทั่วโลก บริษัทได้ใช้น้ำมันพลังงานทดแทนคาร์บอนต่ำในขบวนพาหนะภาคพื้นดินกว่า 97 ล้านแกลลอนในปี 2559 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ลงทุน 18 ล้านดอลล่าร์ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในพื้นที่ในสถานปฎิบัติงาน 8 แห่ง ยูพีเอสใช้แนวทาง ห้องแล็บเคลื่อนที่ เพื่อประเมินว่าเชื้อเพลิงทดแทนและเทคโนโลยีพลังงานทดแทนประเภทใดมีความเหมาะสมที่สุดในแต่ละสถานการณ์ ตั้งแต่จักรยานรูปแบบดั้งเดิม จักรยานไฟฟ้า ไปจนถึงพลังงานไฟฟ้า ไฮบริดไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติหมุนเวียน ก๊าซโปรเพน และน้ำมันดีเซลหมุนเวียน ซึ่งยูพีเอสนำนวัตกรรมด้านความยั่งยืนมาใช้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมทั่วโลก
บุนเทียม ตัน กรรมการผู้จัดการ ยูพีเอส ประเทศไทย กล่าวว่า "ในประเทศไทย ความพยายามเพื่อสร้างความยั่งยืนของเรากำลังส่งผลดีที่ชัดเจน โดยตั้งแต่ปี 2553 เราได้สนับสนุนมูลนิธิราชพฤกษ์ในการปลูกต้นไม้ไปแล้วจำนวนกว่า 160,000 ต้น มูลนิธิราชพฤกษ์คือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการอนุรักษ์ทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยส่งเสริมการปลูกต้นไม้และขยายพื้นที่ป่า นอกจากนี้ปัจจุบัน ยูพีเอส ประเทศไทย ยังมีการใช้ยานพาหนะที่ใช้ก๊าซซีเอ็นจีจำนวน 10 คัน ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของขบวนพาหนะที่ใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีล้ำสมัยของยูพีเอสทั่วโลก และมีส่วนช่วยเสริมสร้างการขับขี่ที่สะอาดขึ้นในเมืองไทย"
นอกเหนือจากความพยายามในด้านสิ่งแวดล้อม ยูพีเอสยังได้วางเป้าหมายด้านกำลังคนและชุมชนในรายงานด้านความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นที่จะให้พนักงานร่วมกิจกรรมสาธารณประโยชน์เป็นเวลารวม 20 ล้านชั่วโมงภายในสิ้นปี 2563 และได้ร่วมบริจาคผ่านมูลนิธิยูพีเอสเพื่อการกุศล ทั้งด้านการบรรเทาทุกข์และการสร้างความปลอดภัยในชุมชน เป็นจำนวนเงินรวม 127 ล้านดอลล่าร์ภายในปี 2563 โดยโครงการเหล่านี้มอบความช่วยเหลือแก่ชุมชนทั่วโลก รวมถึงการร่วมมือกับคู่ค้าต่าง ๆ เพื่อจัดส่งโลหิต ยา และวัคซีนสู่ชุมชนห่างไกล และการสนับสนุนองค์กรด้านบรรเทาทุกข์ต่าง ๆ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวคิดริเริ่มเพื่อความยั่งยืนของยูพีเอส ค้นหาได้ที่ ups.com/sustainability สำหรับสื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น บีโรล ภาพถ่าย วีดิโอ ฯลฯ ไปที่ pressroom.ups.com
KBank ผนึก แสนสิริ - EGAT - INNOPOWER - ION สนับสนุนลูกบ้านสร้างรายได้จากโซลาร์ ผ่านแพลตฟอร์ม GreenPass
ยูโอบี และ กสิกรไทย สนับสนุนสินเชื่อสีเขียวแก่ Levanta Renewables เข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 34 โครงการ ในประเทศไทย
TSE โชว์กำไร 100 ล้านบาท! ลุยขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าขยะ-โซลาร์ชุมชน
เปิดงาน IEEE PES GTD Asia 2025
SUPER สตรอง! ทริสฯ คงเครดิตองค์กรระดับ "BBB" ตอกย้ำคุณภาพพอร์ตโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ 1.4 GW หนุนกระแสเงินสดมั่นคง เดินหน้าขยายการลงทุน ดันอนาคตเติบโตยั่งยืน
NPS เปิดบ้านต้อนรับ กลุ่มผู้นำชุมชน เยี่ยมชมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนทุ่นลอยน้ำ
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย สู่ Net Zero
สมดุลพลังงานยุคเปลี่ยนผ่าน มองบทบาทโรงไฟฟ้าฐาน ด้านเสถียรภาพและความมั่นคงทางพลังงานไทย ก่อนเดินหน้าสู่พลังงานหมุนเวียนเต็มตัว
Carbon Markets Club ลงนามข้อตกลงกับตลาดคาร์บอนนานาชาติมาเก๊า (MEX) ร่วมเชื่อมโยงและเสริมสร้างศักยภาพตลาดคาร์บอนในเอเชีย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในภูมิภาค