ท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการนำคุณค่าของข้อมูลมาเสริมสร้างประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุน และก่อให้เกิดนวัตกรรม all-flash array จะยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค โดย IDC ได้คาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยไว้ที่ 15.1% ต่อปี โดยจะมีมูลค่าสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี พ.ศ. 2564 โดยมี Pure Storage เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ และเตรียมเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน Pure Live ทึ่จะช่วยให้องค์กรเห็นภาพที่ชัดเจนในการบริหารจัดการแอพพลิเคชั่นในรูปแบบของปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence (AI) บิ๊กดาต้า (Big Data) และระบบ Cloud ในงานประชุมครั้งนี้ Pure Storage จะแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความพร้อมทางด้านดาต้าแพลตฟอร์มในยุคของ Cloud
"เพื่อก้าวให้ทันกับความท้าทายของเศรษฐกิจแห่งอนาคต และการยกระดับไปสู่เศรษฐกิจแบบดิจิทัล องค์กรธุรกิจจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มเพื่อส่งข้อมูลให้รวดเร็ว คล่องตัว และถูกต้องแม่นยำ ไม่ว่าworkload และ แอพพลิเคชั่นจะมีความซับซ้อนเพียงใดก็ตาม" จั่ว ฮก เลง ผู้จัดการฝ่ายภูมิภาคฝ่าย Emerging Markets บริษัท Pure Storage กล่าว "ความกังวลต่อเรื่องดังกล่าวถือเป็นปัจจัยกดดันท่ามกลางความเติบโตที่ สูงขึ้นของเศรษฐกิจประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก ซึ่งกลายมาเป็นตัวเร่งความต้องการโซลูชั่นรูปแบบใหม่ ที่จะช่วยนำทางให้ธุรกิจเหล่านี้ก้าวเดินบนเส้นทางการจัดการข้อมูลได้อย่างถูกต้องตั้งแต่ต้น"
จากความสำเร็จของการจัดงานเมื่อปีที่ผ่านมา ที่มีลูกค้าเข้าร่วมงานมากกว่า 2,000 ราย และพันธมิตรทางธุรกิจอีกจำนวน 500 รายจากประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกและประเทศญี่ปุ่น ในปีนี้งาน Pure Live 2017 จะมีหัวข้อสำคัญที่พูดถึงเรื่องของกลยุทธ์ล่าสุดในการวางโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอที และการวิเคราะห์ข้อมูลที่อยู่บนคลาวด์ (cloud based analytics) ภายใต้ระบบการบริหารจัดการข้อมูลที่ดีที่สุด ซึ่งเรื่องทั้งหมดนี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวิถีการดำเนินธุรกิจในอนาคต ผู้เข้าร่วมงานประชุมจะได้รับทราบ ข้อมูลการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์เป็นรายแรก ๆ ในอุตสาหกรรม จาก Pure Storage:
Tier 1 Storage ที่พัฒนาขึ้นใหม่ หลายปีก่อนองค์กรทั้งหลายจำเป็นต้องเลือกระหว่างเสถียรภาพในการทำงานสูงสุด (Tier 1 disk arrays) กับระบบจัดเก็บข้อมูลเพื่อรองรับระบบคลาวด์ (modern all-flash arrays) กระทั่ง Pure Storage ได้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่เพื่อทลายข้อจำกัดดังกล่าวลง ปัจจุบันทุกองค์กรสามารถมีระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีเสถียรภาพระดับ Tier 1 (มี availability ที่ระดับ 99.9999 เปอร์เซ็นต์ และ multi-site clustering แบบแอคทีฟ โดยให้ค่า RPO/RTO ในระดับศูนย์แท้จริง) ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมด้านการบริการ การบูรณาการกับคลาวด์ และ 100% NVME flash เพื่อความรวดเร็วในการทำงานและรองรับประสิทธิภาพในอนาคต
จาก Big Data ไปสู่ intelligent data. จากความสนใจในเรื่อง big data ทำให้องค์กรทั้งหลายมีการให้ความสำคัญกับข้อมูลมากขึ้น แต่เมื่อพูดถึง big data จะนึกถึงการทำงานที่ช้าตามไปด้วย กระทั่ง Pure Storage ได้ปฏิวัติวงการจัดเก็บข้อมูล ด้วยการสร้างระบบ FlashBlade ขึ้นมา เพื่อทำให้ big data กลายเป็น fast data และรองรับการทำงานร่วมกับ real-time analytics ปัญญาประดิษฐ์ที่มีความซับซ้อน (advanced AI) และการเรียนรู้ด้วยตนเองของเครื่องจักร (Machine Learning: ML) รวมทั้งการสร้างแบบจำลองสำหรับข้อมูลทุกขนาด ด้วยอินเทอร์เฟสที่มีความรวดเร็วในปัจจุบัน ทำให้เว็บแอพพลิเคชั่นสำหรับวันพรุ่งนี้สามารถมีขนาดใหญ่ รวดเร็ว และมีความฉลาด
Multi-Cloud, delivered. คลาวด์อยู่ในทุกแห่งหน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางข้อมูล หรือศูนย์ข้อมูลอันทันสมัยที่ปริมาณข้อมูลและ latency ต้องอาศัย local processing ระบบคลาวด์ยังคงมีโอกาสเติบโต ทั้งในส่วนผู้ให้บริการแบบ multi-cloud IaaS และแบบ SaaS ทั้งนี้ไม่ว่าองค์กรจะเลือกใช้คลาวด์แบบใดหรือเลือกที่จะรันระบบที่ใดก็ตาม ดาต้าแพลตฟอร์มของ Pure จะช่วยให้การจัดเก็บข้อมูลเป็นเรื่องง่ายในสภาพแวดล้อมแบบมัลติคลาวด์ ด้วยเทคโนโลยีที่มีความล้ำหน้า เพื่อส่งมอบระบบคลาวด์ที่ทำงานง่ายบนทุกแพลตฟอร์ม: สามารถรองรับ VMware VVOLs, Microsoft ODX, Docker Persistent Containers, ระบบป้องกันข้อมูลที่บูรณาการกับผู้ให้บริการคลาวด์แบบสาธารณะ และโซลูชั่น FlashStack ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว
ระบบจัดเก็บข้อมูลที่ทำงานได้เอง เมื่อมองดูการพัฒนารถยนต์ที่มีความอัตโนมัติมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการนำทางด้วยตนเอง การหลีกเลี่ยงการชน รวมทั้งการขับเคลื่อนด้วยตนเองที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า ถึงเวลาที่ระบบการจัดเก็บข้อมูลต้องก้าวให้ทัน โดย Pure Storage ได้ใช้ big data, real-time analytics และเทคนิค AI/ML ขั้นสูง เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์การใช้งาน Storage แก่ลูกค้า และส่งมอบเสถียรภาพระดับใหม่ผ่านการบำรุงรักษาและช่วยเหลือแบบคาดการณ์ล่วงหน้า เตรียมพบกับ META ซึ่งเป็นระบบ AI แบบใหม่จาก Pure และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับยุคใหม่ของระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีอัจฉริยภาพและทำงานโดยอัตโนมัติ
ในงาน Pure Live 2017 ท่านยังจะได้พบกับส่วนของการสัมมนาเชิงเทคนิคที่จัดร่วมกับ Cisco รวมทั้งการรับฟังการเสวนาแบบโต๊ะกลมระหว่างผู้บริหาร CIO หลายท่าน ที่ให้เกียรติมาร่วมแสดงทัศนะถึงการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและความจำเป็นด้านข้อมูล ท่าน
สามารถเข้าที่ลิงก์ Pure Live 2017 เพื่อลงทะเบียนรับบัตรเข้างาน
http://www.purestorage.com/microsites/th/purelive-bangkok.html
เจ้าสัว ฟู้ดส์ฯ หรือ CHAO ตอกย้ำความสำเร็จด้านความยั่งยืน คว้าประกาศนียบัตร 'Supplier Sustain Award 2025' ในงาน Makro HoReCa 2025
Bedrock Analytics ผ่านการรับรอง ISO 9001 และ ISO 27001 ตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านคุณภาพและความปลอดภัยข้อมูลมาตรฐานระดับโลก
กสิกรไทยประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 8,800 ล้านบาท เพื่อบริหารทางการเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินกองทุน
เคทีซีคว้ามาตรฐาน ISO ต่อเนื่อง ยกระดับความมั่นคงไซเบอร์ เสริมเกราะข้อมูลลูกค้ายุคดิจิทัล
ไฮเออร์ ติดโผ Forbes World's Best Employers ปีที่ 9 ควบ Top Employer China 2025 สะท้อนพลังองค์กรแห่งอนาคต ที่คนอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในโลก
เปิดมุมมอง "อนิวรรต ศรีรุ่งธรรม" ผู้บริหารรุ่นใหม่ พลิกโฉมธุรกิจทองคำไทยด้วยเทคโนโลยี
สกพอ. จับมือ Osaka City ลงนาม MOU หนุนเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ขับเคลื่อนดึงภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว สู่พื้นที่อีอีซี
"ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป" จับมือ "เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)" เสริมแกร่งธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เปิดตัวโครงการ "Shama Sukhumvit 101"
กสิกรไทย ผนึกกำลัง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ อบก. Kubix และ Orbix Technology เปิดตัวโครงการนำร่องทดสอบการแปลงคาร์บอนเครดิตเป็นโทเคนดิจิทัล ครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้กรอบ Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย