ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดี กรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ แนวทางการปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้หารือร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อร่างหลักเกณฑ์กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนในระยะเร่งด่วน โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ กำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภทไม่เกินร้อยละ 3.5 ต่อปี กำหนดอัตราเงินปันผลตามหุ้นที่ชำระแล้วของสมาชิก ไม่เกินร้อยละ 6 ต่อปี แต่ต้องไม่เกินร้อยละ 80 ของกำไรสุทธิ การดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องไม่น้อยกว่าร้อยละ 6 ของเงินรับฝากและเงินกู้ยืม เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของสหกรณ์และกำหนดความสามารถในการก่อหนี้ไม่เกิน 1.5 เท่าของทุนเรือนหุ้นรวมกับทุนสำรองเพื่อไม่ให้ก่อหนี้เกินตัว
นอกจากนี้ การกำกับลูกหนี้รายใหญ่ กำหนดให้สหกรณ์ให้กู้กับสหกรณ์หนึ่งได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของทุนเรือนหุ้น รวมกับทุนสำรอง และไม่เกิน 15 ล้านบาท ในกรณีที่ไม่มีหลักประกัน เพื่อไม่ให้สินเชื่อกระจุกตัวที่ลูกหนี้รายใดรายหนึ่ง พร้อมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์ในการลงทุนของสหกรณ์ในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของทุนเรือนหุ้นรวมกับทุนสำรอง เพื่อไม่ให้การลงทุนของสหกรณ์มีความเสี่ยงสูง
เกณฑ์กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 นี้ จะเป็นการกำกับดูแลสหกรณ์ที่เข้มข้นขึ้น เป็นหลักเกณฑ์ที่จะช่วยลดข้อกังวลจากทุกภาคส่วนที่มีต่อเสถียรภาพทางการเงิน และความมั่นคงของสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนทั่วประเทศ และยังช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจส่งผล กระทบต่อสถานะทางการเงินสหกรณ์ทั้งระบบด้วย
ซึ่งในระหว่างการปรับตัวเข้าสู่หลักเกณฑ์กำกับตามที่กระทรวงการคลังเสนอ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมในการแก้ไขปัญหาของสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน ประกอบด้วยผู้แทนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงการคลัง ที่จะเข้ามาให้คำแนะนำและติดตามการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์จะจัดเวทีเปิดรับฟังความเห็นจากตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ ว่าด้วยการกำกับดูแลกิจการทางการเงินสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน ซึ่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ในแนวทางปฏิรูประบบการบริหารจัดการและกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยการประชุมเพื่อรับฟังความเห็นเรื่องเกณฑ์กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน จัดขึ้นในวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ กรุงเทพฯ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้แทนของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 136 สหกรณ์ และที่มีสินทรัพย์น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท จำนวน 64 สหกรณ์รวม 200 สหกรณ์ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ธนาคารแห่งประเทศไทย สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมทั้งสมาชิกสหกรณ์ที่สนใจสามารถเสนอความเห็นผ่านทางเว็บไซต์กรมส่งเสริมสหกรณ์ www.cpd.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2560 นี้เป็นต้นไป
"สศค. - ก.ล.ต. - ตลาดหลักทรัพย์ฯ - FETCO" ร่วมแถลงข่าว เปิด "ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทย" พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อน 4 มาตรการหลัก
สศค. พลิกโฉมการคลังสู่ความยั่งยืน ก้าวสำคัญที่ตอกย้ำศักยภาพของไทยก่อนก้าวสู่เวทีโลกในบทบาทเจ้าภาพ AM2026
กรุงไทย จับมือกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่สร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินแก่ชุมชนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
กรุงไทย ผนึก กระทรวงการคลัง เดินหน้าเสริมภูมิคุ้มกันทางการเงินกลุ่มเปราะบาง ต่อเนื่องปีที่ 2
ม.ศรีปทุม ผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญ เรียนรู้ "การวางแผนบริหารจัดการทางการเงินและการคุ้มครองเงินฝาก" พัฒนานักศึกษาบัญชีให้เป็นมืออาชีพ
ประธานสมาคมธนาคารไทย สนับสนุนแก้ปัญหาเศรษฐกิจนอกระบบ ขับเคลื่อน Green Transition ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส SMEs เติบโตยั่งยืน
CEO กลุ่มบริษัทบางจาก ร่วมสะท้อนมุมมองการขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจสีเขียว 'การพัฒนามาตรฐานคาร์บอนเครดิตระดับภูมิภาคเป็นกุญแจสำคัญ' ในงานสัมมนาวิชาการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประจำปี 2567
สมาคมประกันวินาศภัยไทย แสดงความยินดี ครบรอบ 62 ปี สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง