นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่า สมอ. ได้ผลักดันมาตรฐาน มอก. 2721-2559 เสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียกและความต้านทานการหมุน ซึ่งอ้างอิงมาจากมาตรฐาน UN R 117 เป็นมาตรฐานบังคับ และเร่งผลักดันโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติเพื่อให้การก่อสร้างระยะแรกแล้วเสร็จภายในปี 2561 พร้อมกับเร่งรัดทำงานบูรณาการร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา องค์การบริหารส่วนตำบลลาดกระทิง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุประสงค์อย่างรวดเร็วตามเป้าหมายของรัฐบาล
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา สมอ. ได้นำสื่อมวลชนเดินทางลงพื้นที่ศูนย์ทดสอบยางยนต์และยางล้อแห่งชาติ เพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการในระยะแรก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปรับพื้นที่ขนาด 200 ไร่ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 เพื่อดำเนินการก่อสร้างสนามทดสอบยางล้อตามมาตรฐาน UN R 117 ในรายการเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน และการยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก (Noise & Wet Grip) และก่อสร้างอาคารสำนักงานพร้อมห้องปฏิบัติการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างคู่ขนานกันกับการปรับพื้นที่
สำหรับงานก่อสร้างโครงการระยะที่ 2 ส่วนทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วน ประกอบด้วยสนามทดสอบกลางแจ้ง 5 สนาม คือ สนามทดสอบระบบเบรก (Brake Performance) สนามทดสอบระบบเบรกมือ (Park Brake) สนามทดสอบอุปกรณ์บังคับเลี้ยว (Dynamic Platform) สนามทดสอบระบบเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง มาตรวัดความเร็ว และอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (Long Distance and High Speed) และสนามทดสอบการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง (Skid-Pad) ที่สามารถทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วนรวม 19 รายการ เช่น ระบบเบรก เฟือง ระบบไฟ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562 เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ สนามทดสอบนี้จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดึงดูดผู้ประกอบการและนักลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และยางล้อจากทั่วทุกภูมิภาคสู่ประเทศไทย
"โครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพทำให้ประเทศไทยมีศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อมาตรฐานเดียวกันกับมาตรฐานโลก และยกระดับสู่การเป็นศูนย์กลางการทดสอบของภูมิภาคอาเซียนโดยมีเป้าหมายที่จะให้ในภูมิภาคอาเซียนและผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกมาใช้ประเทศไทยเป็นฐานด้านการวิจัย นอกจากนี้ผู้ผลิตยางล้อในประเทศสามารถขอรับการทดสอบยางล้อตามมาตรฐาน มอก. ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทดสอบ จากปัจจุบันที่ต้องไปทดสอบในต่างประเทศ อีกทั้งผู้ใช้รถยนต์ในประเทศได้ใช้ยางล้อที่ได้สมรรถนะผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐาน มอก. ซึ่งจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุทางถนนอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้จะทำให้เกิดความเจริญในจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งเป็นจังหวัดเป้าหมายของรัฐบาลในการผลักดันการสร้างเมืองใหม่พัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษทางภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่สำคัญรองรับการขยายตัวของกรุงเทพฯและการเติบโตของเมืองเพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตยั่งยืนในอนาคต" เลขาธิการ สมอ. กล่าวทิ้งทาย
เปิดศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่และส่วนประกอบยานยนต์ในชลบุรี พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับสถาบันยานยนต์ ผนึกกำลังผลักดันห้องปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี่ใน จ. ฉะเชิงเทรา
สถาบันยานยนต์ จับมือ มิชลิน ร่วมพัฒนางานทดสอบยานยนต์และยางล้อไทย
สยย. เอ็มโอยู บริษัท ทียูวี ไรน์แลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมมือพัฒนามาตรฐานการทดสอบ และรับรองยานยนต์ และชิ้นส่วน และแบตเตอรี่รถอีวี
สคช.เร่งพัฒนาคนในอาชีพอุตสาหกรรมการผลิตแม่พิมพ์
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ผนึกกำลังสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เดินหน้าอบรมผู้ตรวจประเมิน (Assessor)
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ผนึกกำลังสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เดินหน้าอบรมผู้ตรวจประเมิน (Assessor)
สคช. ตอบโจทย์ประเทศ พัฒนาคนในอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุให้ได้มาตรฐาน
สคช. ตอบโจทย์ประเทศ พัฒนาคนในอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุให้ได้มาตรฐาน