กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ชี้สัญญาณการพัฒนาสตาร์ทอัพ จากทุกภาคส่วนของไทยยังคงสดใสต่อเนื่อง เผยปี 2560 สตาร์ทอัพไทยเติบโตขึ้นจากช่วง 2 -3 ปีก่อน ประมาณ 8,000 ราย หรือ กว่า 80%โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นสตาร์ทอัพสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้จริงอยู่ที่ประมาณ 1,500 ราย โดยการดำเนินการส่งเสริมสตาร์ทอัพของ กสอ. ในปีนี้ ได้มีแนวทางที่เข้มขึ้น ซึ่งแบ่งเป็น 4 รูปแบบ คือ การส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมและระบบดิจิทัลที่พัฒนาแล้วเข้าสู่ธุรกิจ การให้คำปรึกษาด้านโมเดลและแผนธุรกิจ เพื่อเสนอต่อแหล่งทุน การพัฒนาและระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำงาน และการส่งเสริมเข้าถึงแหล่งทุน อย่างไรก็ดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ กสอ. ยังได้จัดพิธีมอบเงินทุนสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจภายใต้กิจกรรม Angel Fund for Startup ปี 2 ณ เวทีกลาง ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี
ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้ให้ความสำคัญ กับกระแสสตาร์ทอัพที่เกิดขึ้น และนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ขณะนี้การดำเนินการส่งเสริมจากทุกภาคส่วนถือได้ว่ามีสัญญาณที่สดใสอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาลที่มีนโยบายกองทุนและโครงการในการส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพให้เกิดขึ้นในปริมาณมากตามภาคต่าง ๆ ทั้งยังได้สร้างความตระหนักและการรับรู้ มีการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพมากขึ้น รวมถึงมาตรการจูงใจนักลงทุน ความร่วมมือพัฒนาร่วมกันกับองค์กรต่างประเทศ ตลอดจนภาคเอกชนที่หันมาแข่งขันกันด้วยระบบดิจิทัล จนเกิดเป็นโอกาสการร่วมทุนกับสตาร์ทอัพเพื่อให้เกิดแนวความคิดที่สร้างสรรค์และนวัตกรรมขั้นสูงที่แปลกใหม่กลับสู่การพัฒนาองค์กร
กระทรวงอุตสาหกรรมพบว่า ในปี 2560 มีการเพิ่มขึ้นของสตาร์ทอัพทั่วไปกว่า 8,000 ราย เพิ่มขึ้น จากช่วง 2 – 3 ปีก่อนที่มีเพียงแค่ระดับหลัก100 ราย หรือเพิ่มขึ้นกว่า 80 % อย่างไรก็ตามการเติบโตขึ้น ในจำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่แล้วยังเป็นสตาร์ทอัพที่อยู่ในช่วงของการพัฒนาแนวคิดและช่วงพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Problem Solution Fit and Product Market Fit) โดยสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพและสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้จริงอยู่ที่ประมาณ 1,500 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ ช่วยให้เกิดการจ้างงานได้ถึง 7,500 อัตรา หรือ คิดเป็นสัดส่วน 1:5 (ที่มา : สมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่) ทั้งนี้ ยังพบอีกว่าสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ของไทย จะอยู่ในกลุ่มของแพลทฟอร์มแอปพลิเคชั่น ระบบ Fintech, E-Commerce ที่กำลังครอบคลุมและกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก การบริการต่าง ๆ(Service Tech) ผ่านช่องทางออนไลน์ ตามมาด้วยการพัฒนาระบบการจัดการทางธุรกิจและการเป็นส่วนหนึ่งกับกิจวัตรประจำวัน โดยปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตดังกล่าวมาจากความนิยมในการใช้อินเทอร์เน็ต ความต้องการความสะดวกสบายในชีวิต ตลอดจนประสิทธิภาพทางระบบอินเทอร์เน็ตของไทย ที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตาม แนวโน้มในอนาคตการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ จะไม่ได้มีเพียงแค่เทค-ดิจิทัลสตาร์ทอัพเท่านั้น แต่จะต้องพัฒนาให้เกิดอย่างครอบคลุมตามกระแสโลกที่เป็นไป โดยแนวโน้มสตาร์ทอัพ ที่จะเติบโตมากขึ้นในปี 2561 และน่าจับตาพบว่าอยู่ในภาคเกษตร อาหาร ท่องเที่ยวและสุขภาพ แบ่งเป็น 7 กลุ่ม คือ กลุ่มธุรกิจภาครัฐและการศึกษา กลุ่มการเกษตรและอาหาร กลุ่มนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตแห่งอนาคต กลุ่มไลฟ์สไตล์และความบันเทิง กลุ่มเทคโนโลยีท่องเที่ยว และกลุ่มเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์ (ที่มา : สนช.)
ด้าน ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเสริมว่า กสอ. ได้กำหนดให้การส่งเสริมสตาร์ทอัพเป็นยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญของหน่วยงานด้านหนึ่ง ซึ่งจากการดำเนินงานในระยะเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาได้เน้นกระบวนการพัฒนาและต่อยอดแนวความคิดให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงจริง พร้อมทั้งส่งเสริมการนำประโยชน์ จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ มาเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับสินค้าหรือบริการได้ โดยตามแนวทางดังกล่าว กสอ. ยังมุ่งหวังให้การพัฒนาเหล่านี้มีผลตกกระทบถึงการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ต่อภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ สู่ระบบเทคโนโลยีที่เอื้อต่อภาคการผลิต ต่อเนื่องถึงการขยายผลสู่ภาคอื่น ๆ ตามแต่ละด้านที่จำเป็น ซึ่งจะเป็นการตอบโจทย์ตามอุปสงค์ของผู้บริโภคในตลาดระดับต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ดร.พสุ กล่าวต่อว่า สำหรับยุทธศาสตร์และแนวทางการส่งเสริมสตาร์ทอัพของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมในปี 2560 นี้ ถือได้ว่ามีความชัดเจนและข้มข้นมากขึ้น โดยได้แบ่งนโยบายการสนับสนุนกลุ่มคนดังกล่าวใน 4 รูปแบบหลัก ได้แก่
1. การพัฒนาผู้ประกอบการและสร้างสตาร์ทอัพรายใหม่ด้วยการส่งเสริมความรู้และทักษะในการดำเนินธุรกิจด้วยการนำระบบเทคโนโลยี ดิจิทัล และพัฒนานวัตกรรมขึ้นใหม่หรือพัฒนาสิ่งที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ
2. การให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญในการสร้างโมเดลธุรกิจเริ่มต้น การกำหนดตลาด กลุ่มเป้าหมายการเขียนแผนงาน เพื่อการนำเสนอแนวความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นไปได้ต่อการพัฒนาสู่ธุรกิจจริงต่อแหล่งทุน
3. การพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้อต่อการทำงานและการแบ่งปันความคิดสร้างสรรค์ร่วมกันทั้งในรูปแบบ Co-Working Space, MakerSpace ตลอดจน Innovation Space เพื่อผลักดันให้เกิดการรวมตัว พัฒนาผลงาน โดยมีตัวอย่างที่เห็นผลสำเร็จ อาทิ กลุ่ม ChiangMai Maker Space พร้อมด้วยศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือ Thai IDC และศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรรมสู่อนาคต หรือ ศูนย์ITC
4. การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน โดยจัดให้มีกิจกรรมการแข่งขันเพื่อนำเสนอผลงานการสร้างผลิตภัณฑ์หรือการบริการที่มีมูลค่าสูง เพื่อให้ได้รับโอกาสและประสบการณ์ในการแสวงหาแหล่งทุนในรูปแบบ Angel Fund เพื่อการจัดตั้งธุรกิจ ซึ่งในปีนี้มีกิจกรรม AngelFund for Startup ปี 2 โดย กสอ. ได้ร่วมกับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ร่วมกันพัฒนาไอเดียสร้างสรรค์ที่เกิดจากคนรุ่นใหม่ที่สามารถต่อยอดเริ่มต้นธุรกิจได้
อย่างไรก็ดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ กสอ. ได้จัดพิธีมอบเงินทุนสนับสนุนการจัดตั้งธุรกิจ กิจกรรม Angel Fund for Startup ณ เวทีกลาง ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพค เมืองทองธานี ภายในงาน Thailand Industry Expo 2017 โดยกิจกรรม Angel Fund for Startup ในปีนี้มีกลุ่มสตาร์ทอัพและนำเสนอผลงานจำนวนถึง 254 ทีม/459 คน และทีมที่ได้รับคัดเลือกเข้ารับทุน Angel Fund ในวงเงิน 500,000 บาท ภายใต้ Thailand 4.0 ได้แก่ ทีม ReadRing (รี้ด-ริง) ผู้พัฒนาแนวคิดและผลงาน คอมพิวเตอร์เบรลล์ขนาดพกพาพร้อมฟังก์ชั่นอ่านหนังสือปกติสำหรับคนตาบอด และทีม The Brother Team ผู้พัฒนาแนวคิดและผลงาน IO-Med โซลูชั่นส์เพื่อใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมHealth Care และภายใต้โจทย์Energy Management ได้แก่ ทีม Pure Control System ผู้พัฒนาแนวคิดผลงาน การบริหารจัดการเครือข่ายไฟฟ้าแสงสว่างขนาดใหญ่ในพื้นที่กว้างแบบไร้สาย สามารถเพิ่มหรือลดปริมาณแสงสว่างเพื่อการประหยัดพลังงาน และทีมOM FOR YOU ผู้พัฒนาแนวคิดผลงาน ระบบเพิ่มความชาญฉลาดให้กับ Building Automation System (BAS) เพื่อช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า โดยหลังจากผู้ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนแล้ว กสอ. จะเข้าติดตามความต่อเนื่อง และร่วมพัฒนา ตลอดจนเผยแพร่และสนับสนุนผ่านช่องทางต่าง ๆ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ดร.พสุ กล่าวทิ้งท้าย
กิจกรรม Angel Fund for Startup ปี 2560 ยังคงเปิดโอกาสให้กับผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง โดยสามารถกรอกใบสมัคร Online ได้ที่ http://plan2biz.dnnfriends.com หรือที่ http://nec.dip.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ 0 2202 4570-4 0 2354 3171
"พลอยลภัสร์" เปิดตัวภาพยนตร์ "สำรับ สลับศตวรรษ My Century" ผนึกพลังสร้างสรรค์ ถ่ายทอดเสน่ห์อาหารไทย ผ่านภาพยนตร์ก้าวไกลสู่เวทีสากล
"ดีพร้อม" โชว์ความสำเร็จสร้าง Hidden Gems ยกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนฯ ตอกย้ำเสน่ห์อาหารไทย รังสรรค์ 93 เมนู เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 140 ล้านบาท
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย และ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี
กระทรวงอุตฯ ชูผลสำเร็จ 1 ทศวรรษ "Angel Fund" ดีพร้อม-เดลต้า ปั้น "ผู้ประกอบการอัจฉริยะ" 237 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมรุก 3 กลยุทธ์ใหม่ ดันดีพเทคดาวรุ่งสู่ตลาดอุตสาหกรรม
"ธนกร" สั่งการ "ดีพร้อม" Quick Big Win อัดฉีดสินเชื่อ "เงินไว by DIPROM" ดอกเบี้ย 50 สตางค์ กระตุ้นสั้น โค้งสุดท้ายปลายปี ดีมานด์พุ่ง!! 30%
"ดีพร้อม" ปลุกพลังสร้างสุข ดัน SMEs เข้าร่วมกิจกรรม เลิกเหล้า-บุหรี่ ออมเงิน ได้ผลกว่า 17 ล้าน ขึ้นแท่น วิสาหกิจต้นแบบ SHAP ประจำปี 2567
"ดีพร้อม" เสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทยสายแฟชั่น ดึงซอฟต์พาวเวอร์ เสริมอัตลักษณ์ รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมชี้ 3 เทรนด์ที่ต้องเร่งปรับตัวตาม
ดีพร้อมจัดใหญ่ 'มหกรรมดีพร้อมเสน่ห์ไทย: Thai Vibe by DIPROM' โชว์ซอฟต์พาวเวอร์อาหารและแฟชั่นไทย สร้างอนาคตใหม่ให้ SMEs คาดดึงคน 30,000 รายเข้างาน กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับ วว. / THACCA เชิญชวนร่วมกิจกรรมการเชื่อมโยงสู่เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางการตลาด ฟรี!!