ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลากใน 19 จังหวัด เร่งช่วยเหลือประชาชน เน้นดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัย เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 5 – 28 กรกฎาคม 2560 มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยและน้ำไหลหลาก รวม 40 จังหวัด รวม 147 อำเภอ 585 ตำบล 2,728 หมู่บ้าน 1 ชุมชน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 21 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 19 จังหวัด โดยในภาพรวมระดับน้ำทรงตัว และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ยกเว้นจังหวัดสกลนคร ซึ่งระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่จังหวัดสุโขทัยสามารถอุดรอยรั่วแนวคันกั้นน้ำได้ทั้ง 5 จุด ระดับน้ำลดลงกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกมิติ มุ่งดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยเป็นหลัก พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอำนวยความสะดวก และให้บริการประชาชน ควบคู่กับการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง รวมถึงจัดวางแนวคันกั้นน้ำบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วมขัง เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
          นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 5 - 28 กรกฎาคม 2560 ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยและน้ำไหลหลากใน 40 จังหวัด รวม 147 อำเภอ 585 ตำบล 2,728 หมู่บ้าน 1 ชุมชน ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 21 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 19 จังหวัด แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครราชสีมา ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ มุกดาหาร อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ ภาคเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน และอุตรดิตถ์ ภาคกลาง 5 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร พระนครศรีอยุธยา สุโขทัย และลพบุรีภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ระนอง ชุมพร โดยสถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำทรงตัว และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ยกเว้นจังหวัดสกลนคร ที่ระดับน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำจากเทือกเขาภูพานไหลหลากลงมา ประกอบกับอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ปริมาณน้ำสูงกว่าระดับกักเก็บน้ำ ทำให้น้ำไหลหลากท่วมพื้นที่รวม 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสกลนคร อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอพังโคน อำเภอเต่างอย อำเภอกุสุมาลย์ อำเภอพรรณานิคม และอำเภออากาศอำนวย ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,863 ครัวเรือน 23,538 คน อีกทั้งน้ำท่วมทางเข้าสนามบินและรันเวย์ จึงต้องประกาศปิดสนามบินสกลนครชั่วคราว ปัจจุบันระดับน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ปภ. ได้ร่วมกับหน่วยทหาร กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้คลี่คลายโดยเร็ว ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำผ่านหนองหานลงสู่ลำน้ำก่ำออกไปยังแม่น้ำโขง พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) จำนวน 78 ราย เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยรวม 31 รายการ อาทิ รถไฟฟ้าส่องสว่าง รถสูบน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถบรรทุก เรือท้องแบน และเครื่องสูบน้ำสนับสนุนการปฏิบัติการกู้วิกฤตอุทกภัย รวมถึงจัดวางแนวกระสอบทรายเป็นคันกั้นน้ำรอบล้อมสนามบินสกลนคร พร้อมสูบน้ำออกจากรันเวย์ ตลอดจนจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ สนามกีฬาในร่มองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร รองรับการอพยพของผู้ประสบภัย พร้อมจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
          นายฉัตรชัย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดสุโขทัยจากกรณีกำแพงกันน้ำบริเวณวัดไทยชุมพลรั่ว จำนวน 5 จุด ส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมเขตชุมชนเทศบาลเมืองสุโขทัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร กรมชลประทาน และกรมโยธาธิการและผังเมือง เร่งแก้ไขปัญหาโดยปิดช่องทางน้ำลอด ด้วยการนำบิ๊กแบ็คและแบริเออร์คอนกรีตมาวางกั้นจุดที่น้ำรั่วซึม พร้อมทั้งเสริมความแข็งแรงของแนวคันกั้นน้ำตลอดแนวริมตลิ่ง รวมถึงใช้ระบบชลประทานในการตัดยอดน้ำ มิให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมืองสุโขทัย ควบคู่กับการเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วมขัง เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังในเขตชุมชนกลับสู่แม่น้ำยม ปัจจุบันสามารถอุดรอยรั่วได้ทั้ง 5 จุด ระดับน้ำเริ่มลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของแนวคันกั้นน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
 
 

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+สถานการณ์น้ำไหลหลากวันนี้

ปภ.รายงานเกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด เร่งประสานการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วน

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครนายก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร และปราจีนบุรี รวม 11 อำเภอ 19 ตำบล 31 หมู่บ้าน ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำท่วมขัง พร้อมสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 3 5 ตุลาคม 2563 เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครนายก อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร

ปภ.รายงานสถานการณ์น้ำไหลหลาก 11 จังหวัด และวาตภัยในจังหวัดกาฬสินธุ์ เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ น่าน แพร่ เชียงใหม่ ลำปาง พะเยา อุตรดิตถ์ ลำพูน แม่ฮ่องสอน สุโขทัย ตาก และพิษณุโลก...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...

ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ — ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ในการจัดก...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มอบทีม SEhRT ป... 'ภัยแล้ง' ทีม SEhRT กรมอนามัย-สสจ.-ท้องถิ่น เตรียมพร้อมรับมือพื้นที่ขาดแคลนน้ำ — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มอบทีม SEhRT ประสานภารกิจร่วมกับสำนักงานสาธารณ...