พะเยา ผนึกกำลังคุมเข้มโรงกลั่นสุราชุมชนต้องมีมาตรฐาน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          พะเยา ผนึกกำลังคุมเข้มโรงกลั่นสุราชุมชนต้องมีมาตรฐาน สามารถลดจำนวนโรงกลั่นสุราชุมชนจาก 270 โรง เหลือแค่ 160 โรง หวังลดแหล่งผลิตต้นน้ำเพื่อลดโอกาสการเข้าถึงโดยง่าย
​          เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จ.พะเยา สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ร่วมกับภาคีเครือข่าย และสื่อมวลชนลงพื้นที่ ต.ห้วยแก้ว และ ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา ตรวจสอบโรงงานกลั่นสุราชุมชน ร้านจำหน่ายสุรา และการใช้มาตรการด้านกฎหมายแก้ไขปัญหา การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของ จ.พะเยา ที่ผ่านมาในทั่วประเทศมีโรงงานผลิตสุราชุมชน 3,800 ราย ครึ่งหนึ่งอยู่ในภาคเหนือ ซึ่งเป็นภาคที่มีความชุกการดื่มสุราสูงสุดของประเทศถึงร้อยละ 39.43 ในขณะที่ จ.พะเยา มีผู้ลงทะเบียนผลิตสุราเสรี 242 ราย เป็น โรงกลั่นผลิตสุรา เช่น กระแช่ สาโท ไวน์ และสุราขาว 28, 30, 35, 40 ดีกรี
          จากการที่รัฐบาลได้เอาจริงจังกับการแก้ปัญหาสุราผิดกฎหมาย ทั้งในด้านการจัดตั้งโรงงาน การชำระภาษี และการทำลายสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะโรงงานผลิตสุราชุมชนที่ลักลอบผลิต และจำหน่ายสุราแบบไม่ติดแสตมป์หรือสุรานอกระบบ เป็นสุราเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐานและเป็นอันตรายต่อการบริโภค โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เป็นประธานแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสุรากลั่นชุมชน สำหรับพื้นที่พะเยา คณะทำงานฯ ได้ร่วมกับ ที่ทำการปกครองจังหวัดพะเยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และสรรพสามิตจังหวัด ที่ทำการปกครองอำเภอ สถานีตำรวจภูธร ทำการสุ่มตรวจสอบโรงงานสุรากลั่นชุมชนในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบมาตรฐานโรงงาน แก้ปัญหาสุราเถื่อนในพื้นที่
          นายเกรียงไกร เตชะวรางกุล ปลัดอำเภอ สังกัดที่ทำการปกครองจังหวัดพะเยา คณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จ.พะเยา กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการฯ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในคณะทำงานติดตามตรวจสอบมาตรฐานโรงงานสุรากลั่นชุมชน และร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน จ.พะเยา เพื่อร่วมดำเนินงานตามนโยบายเร่งด่วนของจังหวัดพะเยาในการแก้ไขปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเป็นรูปธรรม ตามเป้าหมายพะเยาต้องไม่เป็นจังหวัดที่มีผู้ดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยนำ "มาตรการ 3 ม." ได้แก่ "มาตรการทางกฎหมาย มาตรการทางปกครอง และมาตรการทางสังคม" มาใช้เป็นกรอบแนวทางการดำเนินงาน จากที่มีโรงกลั่นเหล้ามากถึง 270 โรง ปัจจุบันเหลือแค่ 160 โรง เป็นความสำเร็จที่นายกรัฐมนตรี ยกให้เป็น "พะเยาโมเดล"" และได้ขอให้จังหวัดอื่นนำกรณีศึกษานี้ไปเป็นตัวอย่างในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการสร้างความร่วมมือจากประชาชนตามแนวทางประชารัฐและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
          นายเกรียงไกร กล่าวต่อว่า ในขั้นตอนการดำเนินงานในการตรวจสอบโรงกลั่นสุรา จะใช้แนวทางออกตรวจทุกเดือนครอบคลุมทั้ง 9 อำเภอ ซึ่งจะเน้นการแนะนำให้เป็นไปตามสุขลักษณะ การใช้ภาชนะรองรับที่ถูกต้อง และการตรวจสอบอนามัยสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ซึ่งจากการเข้มงวดดังกล่าว ทำให้สามารถลดจำนวนโรงกลั่นที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจาก 270 โรงงาน เป็น 160 โรงงาน โดยมีแนวทางปฏิบัติ คือ สั่งให้แก้ไขเรื่องสิ่งแวดล้อม ภาชนะบรรจุ สั่งพักใบอนุญาต และยกเลิกใบอนุญาต
          นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย การจัดให้มีการชิงโชคชิงรางวัล รวมทั้ง การดื่มในสถานที่ต้องห้ามตามกฎหมายและในสวนสาธารณะ เป็นต้น ซึ่งมาตรการที่ทางคณะทำงานใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยเน้นการตรวจเตือน แนะนำก่อน และมีการบังคับใช้จริงจัง ทั้งนี้ คณะทำงานฯ ชุดปัจจุบัน จะมีการกำหนดแผนงานเพื่อการออกตรวจร่วมกันเดือนละครั้ง 9 ครั้ง ซึ่งได้ร่วมกันออกตรวจมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน

พะเยา ผนึกกำลังคุมเข้มโรงกลั่นสุราชุมชนต้องมีมาตรฐาน

ข่าวสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า+เครือข่ายองค์กรงดเหล้าวันนี้

สคล.จัดเสวนาภาครัฐและเอกชนเมืองจันทร์ จับมือร่วมสร้างพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย สร้างความเข้าใจข้อกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ

สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดเสวนาในหัวข้อ "การปฏิบัติตามข้อกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน" โดยเป็นการแลกเปลี่ยนและชี้แจงข้อกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่สาธารณะ โดยเชิญผู้ประกอบการร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก และผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรี ในการนี้ นายสมพร กาญจน์นิรันดร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ให้เกียรติรับฟังผลสรุปการ

ชุมชนบ้านป่าดำ หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านโฮ่ง อำ... ชุมชน "ต้นแบบงดเหล้า" บ้านป่าดำ : ก้าวสู่ความยั่งยืนด้วยพลังคนสามวัย — ชุมชนบ้านป่าดำ หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน ได้รับเลือกให้เป็...

โครงการฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพร... ถอดบทเรียนคนทำงานรณรงค์งดเหล้า ปี 67 เผยกลยุทธ์ดึงคนลดดื่ม-ขยายเครือข่ายเพิ่ม — โครงการฤดูกาลสุขปลอดเหล้าและงดเหล้าเข้าพรรษา ดำเนินการโดย สำนักงานเครือข่า...

เครือข่ายงดเหล้า เผยงดเหล้าเข้าพรรษาผ่านม... เครือข่ายงดเหล้า เผยงดเหล้าเข้าพรรษาผ่านมา 2 เดือน มีคนพักตับ กว่า 2.8 หมื่นราย ใน 1,010 ชุมชน — เครือข่ายงดเหล้า เผยงดเหล้าเข้าพรรษาผ่านมา 2 เดือน มีคนพั...

สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภาย... สคล.ผนึก สสส. ลงพื้นที่ร่วมถอดผลสำเร็จงดหล้า อ.นาดูน — สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ...