นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อเกิดสาธารณภัยไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน แต่ยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ การบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการจัดการสาธารณภัย ถือเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยยกระดับการจัดการสาธารณภัยของประเทศ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการจัดการสาธารณภัยเชิงรุก จึงได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บูรณาการจัดการสาธารณภัยอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกมิติ โดยส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความปลอดภัยจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืน ผ่านกลไก "ประชารัฐ" ดังนี้ 1. ภาครัฐ เป็นภาคส่วนสำคัญที่ผลักดันให้การลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยเป็นนโยบายสำคัญของแผนพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยส่งเสริมให้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในทุกระดับ พร้อมให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการบูรณาการการจัดการสาธารณภัย รวมถึงจัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการด้านการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยทั้งเชิงโครงสร้างและไม่ใช้โครงสร้าง เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการสาธารณภัยของประเทศอย่างยั่งยืน ตลอดจนกำหนดให้แนวทางการจัดการสาธารณภัยเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการสาธารณภัยของประเทศ 2.ภาคเอกชน เป็นภาคส่วนสำคัญที่กระตุ้นให้ภาครัฐ เห็นความสำคัญของการจัดการสาธารณภัย โดยส่งเสริมการลงทุนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยของประเทศ รวมถึงสนับสนุนภาครัฐในการเตรียมพร้อมรับมือสาธารณภัย โดยจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากสาธารณภัยและปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัย พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของประเทศ ตลอดจนสนับสนุนการจัดหาวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของภาครัฐ 3.ชุมชน มีบทบาทสำคัญในการเตรียมพร้อมรับมือและลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยในระดับพื้นที่ ด้วยการนำทรัพยากรและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมจัดทำแผนและกำหนดมาตรการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับชุมชน สำหรับเป็นกรอบแนวทางในการเตรียมพร้อมรับมือ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาสาธารณภัย รวมถึงจัดกิจกรรมการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยที่สอดคล้องกับสภาพความเสี่ยงภัยของชุมชน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการจัดการสาธารณภัยของชุมชน และสร้างชุมชนให้มีความปลอดภัยจากภัยพิบัติอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้บูรณาการทุกภาคส่วนเตรียมพร้อม รับมือ ป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยให้ครอบคลุมทุกมิติโดยใช้กลไก "ประชารัฐ" ขับเคลื่อนการดำเนินงานในมิติเชิงพื้นที่ พร้อมผลักดันให้มีการผนวกประเด็นการลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยเป็นนโยบายสำคัญของแผนพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างประเทศไทยให้ "รู้รับ ปรับตัว และฟื้นกลับจากภัยพิบัติอย่างรวดเร็ว
NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ
เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา
SAM ห่วงใยลูกหนี้ ออกมาตรการเร่งด่วนครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประสบสาธารณภัยพายุ "วิภา" พักเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 3 เดือน ส่วนผู้เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล จัดดอกเบี้ยต่ำ 3-5% ผ่อนยาว 10 ปี เพื่อส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทยเริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน
มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ลงนามบันทึกความเข้าใจ ยกระดับ MOU ร่วมให้ความรู้
NT พร้อมแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast หลังการทดสอบประสบผลสำเร็จ ได้รับข้อความแจ้งเตือนภัยรวดเร็ว แม่นยำ
ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม!
NT ร่วม ปภ. ทดสอบระบบ Cell Broadcast ในพื้นที่ครั้งแรก แจ้งผลมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุม เสริมความพร้อมระบบเตือนภัยแห่งชาติ
NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค แนะ 7 วิธี เช็กระบบไฟฟ้า เพิ่มความปลอดภัย รับมือหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์