"สตาร์ เมคเกอร์วอยซ์อคาเดมี" รีแบรนด์ดิ้งครั้งแรกในรอบ 12 ปี "ครูอ้วน" ชูจุดเด่น หลักสูตร MTS มาตรฐานสากล เดินหน้าปรับคอร์สการเรียนตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย มั่นใจปิดปี 2017 นักเรียนเพิ่มขึ้น 20%
น.ส. มณีนุช เสมรสุต ผู้อำนวยการสอนสถาบันสตาร์ เมคเกอร์วอยซ์อคาเดมี (STAR MAKER VOICE ACADEMY) สถาบันสอนศิลปะการร้องใช้เสียงเพื่อการร้องและพูดภายใต้การควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สตาร์เมคเกอร์ ฯ ครบรอบ 12 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 อย่างมั่นคง มีนักเรียนที่เข้ามาเรียนที่นี่มากถึง 20,000 คน ในระดับอายุตั้งแต่อายุ 3 ปี ขึ้นไป ทั้ง 10 สาขา หลักสูตรการเรียนเน้นการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐาน และต่อยอดให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติพัฒนาทักษะและแก้ไขตามวัตถุประสงค์ และสถาบันฯ ยังลงทุนในระบบสื่อการสอน Multimedia Intelligence Teaching System (MTS) ซึ่งถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นโดย ครูอ้วนเอง เป็นการนำเอาเทคโนโลยีมัลติมีเดียมาบูรณาการใช้กับหลักสูตรและแผนการสอนเพื่อให้สามารถทำการสอนในมาตรฐานเดียวกัน โดยใน 1 หลักสูตรการเรียนกลุ่มที่มีทั้ง 18 ชั่วโมง และ 36 ชั่วโมง ซึ่งครูที่สอนจะเก็บข้อมูล การประเมินวัดผลจาก Show Time และเพิ่มเติมยิ่งกว่านั้นคือ การเสริมประสิทธิภาพผู้เรียนด้วยกิจกรรม master class, monthly activity, singing contest ที่ผู้เรียนทุกคนจะได้ใช้ทักษะจากการเรียนมาต่อยอด เพื่อสร้างสรรค์โชว์พิเศษตามโจทย์ที่ ครูอ้วน ได้กำหนดให้ครูกับนักเรียนในแต่ละเดือน เป็นกระบวนการวัดผลการพัฒนาของผู้เรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นมูลค่าเพิ่มของประสบการณ์ที่จะได้รับ
และในโอกาสที่สถาบันฯ ครบ 12 ปี คณะผู้บริหารและครูอ้วนพิจารณาว่าต้องมีการรีแบรนด์ดิ้ง เพื่อให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของเด็กในยุค 4.0 โดยใช้งบประมาณรวมกว่า 10 ล้านบาท โดยเริ่มต้นเราได้เปลี่ยนโลโก้ ปรับปรุงหลักสูตร ห้องเรียน การอบรมบุคลากร รวมถึงการตกแต่งสาขาใหม่ ทั้ง 10 สาขา ให้มีความทันสมัย การปรับหลักสูตรและเพิ่มเติมหลักสูตรใหม่ๆทั้งหลักสูตรกีต้าร์ หลักสูตรการแสดง และหลักสูตร Born to be a Star ซึ่งเป็นหลักสูตรพัฒนาและค้นหาความเป็นศิลปิน เพื่อรองรับกับความต้องการในยุคปัจจุบัน และมีการทำสติ๊กเกอร์ไลน์ครูอ้วน เพื่อเป็นช่องทางให้กับผู้ชื่นชอบ ลูกศิษย์ แฟนคลับ ได้ดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ครูอ้วนมาใช้งานสร้างความใกล้ชิดกัน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในอีก 2 เดือนนี้
ด้วยกลยุทธ์เรื่องความเชี่ยวชาญของครูอ้วน-มณีนุชผู้บริหารสถาบันฯ มาตรฐานหลักสูตร ประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพของครูผู้สอน คอร์สเรียนที่หลากหลายในราคาที่เหมาะสมโลเคชั่นของสถาบันฯ ที่ตั้งอยู่ในศูนย์สรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมืองสะดวกต่อการเดินทางมาเรียน และเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในหลักสูตร สถาบันฯ ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีนักเรียนเพิ่มขึ้น 20% และใน 3 ปี 40 %
ครูอ้วน กล่าวเสริมอีกว่า "ปัจจุบันการมาเรียนเรื่องการใช้เสียงเพื่อการร้องเพลงและการพูด เป็นการเรียนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและผู้มาเรียนก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันมากขึ้น ทั้งต้องการมาเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการร้องเพลงของตนเอง แล้วนำไปใช้ในการประกวดร้องเพลง หรือเพื่อเตรียมตัวสำหรับการไปทดสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อ และการมาเรียนเพราะต้องการเป็นนักร้องอาชีพ หรือเรียนเพื่อการแก้ไขเสียงและพัฒนาบุคลิกภาพต่อยอดในหน้าที่การงานฯลฯ ซึ่งสามารถแบ่งตามกลุ่มอายุ ในกลุ่มเด็ก 5-7 ปี เรียนเพื่อฝึกความกล้าแสดงออกสร้างความมั่นใจ และมีความชอบการร้องต้องการเรียนรู้วิธีการที่ถูกต้อง ส่วนอายุ 7 ปีขึ้นไปถึงวัยก่อนอุดมศึกษาจะเรียนเพราะชอบในการร้อง ต้องการพัฒนาและแก้ไขเสียง เพื่อต้องการทำกิจกรรมที่โรงเรียนหรือเข้า ประกวดในเวทีต่างๆ และในกลุ่มผู้ใหญ่หรือระดับผู้บริหาร จะเรียนเพื่อพัฒนา 2 ด้านหลักๆ คือ การร้องเพลง และการพูดในที่สาธารณะ เพื่อปรับปรุงบุคลิกภาพและการใช้น้ำเสียงให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการสื่อสารเพื่อให้เกิดความสนใจของผู้ฟัง ฯลฯ และมีกลุ่มลูกค้าใหม่ คือ คู่แต่งงานที่ต้องการจะสร้างโชว์เพื่อเซอร์ไพรส์บนเวทีฉลองสมรสก็นิยมเข้ามาเรียนร้องเพลงและฝึกโชว์มากขึ้น
ด้านเวทีประกวดเพื่อคัดเลือกศิลปินหน้าใหม่เข้าสู่วงการบันเทิง ครูอ้วน เสริมว่า ยังคงเป็นอีกกระแสหนึ่งที่ยังได้รับความนิยม ผู้ปกครองเปิดกว้างมากขึ้นและผู้เรียนก็ยังต้องการเรียนเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องในการใช้เสียง จึงทำให้ตลาดสถาบันร้องเพลงยังได้เติบโตอีก ปัจจุบันสถาบันฯ มีนักเรียนจากประเทศในแถบเออีซี อาทิ ลาว พม่า และเวียดนาม เข้ามาเรียนอีกด้วย
สถาบัน สตาร์ เมคเกอร์วอยซ์อคาเดมี มีสาขารวม 10 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล บางนา ชั้น 21 ออฟฟิต ทาวเวอร์, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 8 ทาวเวอร์B, เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ชั้น 3, เซ็นทรัล พระราม 2 ชั้น 3,เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะชั้น 7, เดอะมอลล์ งามวงศ์วานชั้น 7, เดอะมอลล์ บางแค ชั้น 4, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ชั้น 3, เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน ชั้น 3 อาคาร B และ สยามพารากอน ชั้น 4A หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร 02-610-9763-4 หรือ www.starmaker.co.th, www.facebook.com/StarMakerShow และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินนักร้องชื่อดังของเมืองไทยมากหลายต่อหลายคนและยังได้ผลิตบุคลากรที่นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในสาขาอาชีพต่างๆ อีกมากมาย อาทิ ทาทา ยัง, ลุลา กันยารัตน์ ติยะพรชัย, แคทรียา อิงลิช, ดาด้า ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ ,อ.จตุพลชมพูนิช, ปนัดดาเรืองวุฒิ, ไชยา มิตรชัย, แพรว – คณิตกุลเนตรบุตร, แอนเดรีย สวอเรซ, แอร์ ภัณฑิลา ฟูกลิ่น, แอน ณัฏฐ์ณัชชา นำเจริญสมบัติ AF6, คชา นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์ AF8, แกงส้ม The Star 8, กั้ง มุก บิวThe Star 10, แพททริเซีย กู้ดฯลฯ
น.ส. มณีนุช เสมรสุต ผู้อำนวยการสอนสถาบันสตาร์ เมคเกอร์วอยซ์อคาเดมี (STAR MAKER VOICE ACADEMY) สถาบันสอนศิลปะการร้องใช้เสียงเพื่อการร้องและพูดภายใต้การควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สตาร์เมคเกอร์ ฯ ครบรอบ 12 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 13 อย่างมั่นคง มีนักเรียนที่เข้ามาเรียนที่นี่มากถึง 20,000 คน ในระดับอายุตั้งแต่อายุ 3 ปี ขึ้นไป ทั้ง 10 สาขา หลักสูตรการเรียนเน้นการเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐาน และต่อยอดให้ผู้เรียนได้ฝึกปฏิบัติพัฒนาทักษะและแก้ไขตามวัตถุประสงค์ และสถาบันฯ ยังลงทุนในระบบสื่อการสอน Multimedia Intelligence Teaching System (MTS) ซึ่งถูกออกแบบและพัฒนาขึ้นโดย ครูอ้วนเอง เป็นการนำเอาเทคโนโลยีมัลติมีเดียมาบูรณาการใช้กับหลักสูตรและแผนการสอนเพื่อให้สามารถทำการสอนในมาตรฐานเดียวกัน โดยใน 1 หลักสูตรการเรียนกลุ่มที่มีทั้ง 18 ชั่วโมง และ 36 ชั่วโมง ซึ่งครูที่สอนจะเก็บข้อมูล การประเมินวัดผลจาก Show Time และเพิ่มเติมยิ่งกว่านั้นคือ การเสริมประสิทธิภาพผู้เรียนด้วยกิจกรรม master class, monthly activity, singing contest ที่ผู้เรียนทุกคนจะได้ใช้ทักษะจากการเรียนมาต่อยอด เพื่อสร้างสรรค์โชว์พิเศษตามโจทย์ที่ ครูอ้วน ได้กำหนดให้ครูกับนักเรียนในแต่ละเดือน เป็นกระบวนการวัดผลการพัฒนาของผู้เรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม นับเป็นมูลค่าเพิ่มของประสบการณ์ที่จะได้รับ
และในโอกาสที่สถาบันฯ ครบ 12 ปี คณะผู้บริหารและครูอ้วนพิจารณาว่าต้องมีการรีแบรนด์ดิ้ง เพื่อให้ก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการของเด็กในยุค 4.0 โดยใช้งบประมาณรวมกว่า 10 ล้านบาท โดยเริ่มต้นเราได้เปลี่ยนโลโก้ ปรับปรุงหลักสูตร ห้องเรียน การอบรมบุคลากร รวมถึงการตกแต่งสาขาใหม่ ทั้ง 10 สาขา ให้มีความทันสมัย การปรับหลักสูตรและเพิ่มเติมหลักสูตรใหม่ๆทั้งหลักสูตรกีต้าร์ หลักสูตรการแสดง และหลักสูตร Born to be a Star ซึ่งเป็นหลักสูตรพัฒนาและค้นหาความเป็นศิลปิน เพื่อรองรับกับความต้องการในยุคปัจจุบัน และมีการทำสติ๊กเกอร์ไลน์ครูอ้วน เพื่อเป็นช่องทางให้กับผู้ชื่นชอบ ลูกศิษย์ แฟนคลับ ได้ดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ครูอ้วนมาใช้งานสร้างความใกล้ชิดกัน ซึ่งคาดว่าจะเสร็จในอีก 2 เดือนนี้
ด้วยกลยุทธ์เรื่องความเชี่ยวชาญของครูอ้วน-มณีนุชผู้บริหารสถาบันฯ มาตรฐานหลักสูตร ประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพของครูผู้สอน คอร์สเรียนที่หลากหลายในราคาที่เหมาะสมโลเคชั่นของสถาบันฯ ที่ตั้งอยู่ในศูนย์สรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมืองสะดวกต่อการเดินทางมาเรียน และเทคโนโลยีที่นำมาใช้ในหลักสูตร สถาบันฯ ตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีนักเรียนเพิ่มขึ้น 20% และใน 3 ปี 40 %
ครูอ้วน กล่าวเสริมอีกว่า "ปัจจุบันการมาเรียนเรื่องการใช้เสียงเพื่อการร้องเพลงและการพูด เป็นการเรียนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและผู้มาเรียนก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันมากขึ้น ทั้งต้องการมาเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการร้องเพลงของตนเอง แล้วนำไปใช้ในการประกวดร้องเพลง หรือเพื่อเตรียมตัวสำหรับการไปทดสอบเพื่อเข้าศึกษาต่อ และการมาเรียนเพราะต้องการเป็นนักร้องอาชีพ หรือเรียนเพื่อการแก้ไขเสียงและพัฒนาบุคลิกภาพต่อยอดในหน้าที่การงานฯลฯ ซึ่งสามารถแบ่งตามกลุ่มอายุ ในกลุ่มเด็ก 5-7 ปี เรียนเพื่อฝึกความกล้าแสดงออกสร้างความมั่นใจ และมีความชอบการร้องต้องการเรียนรู้วิธีการที่ถูกต้อง ส่วนอายุ 7 ปีขึ้นไปถึงวัยก่อนอุดมศึกษาจะเรียนเพราะชอบในการร้อง ต้องการพัฒนาและแก้ไขเสียง เพื่อต้องการทำกิจกรรมที่โรงเรียนหรือเข้า ประกวดในเวทีต่างๆ และในกลุ่มผู้ใหญ่หรือระดับผู้บริหาร จะเรียนเพื่อพัฒนา 2 ด้านหลักๆ คือ การร้องเพลง และการพูดในที่สาธารณะ เพื่อปรับปรุงบุคลิกภาพและการใช้น้ำเสียงให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการสื่อสารเพื่อให้เกิดความสนใจของผู้ฟัง ฯลฯ และมีกลุ่มลูกค้าใหม่ คือ คู่แต่งงานที่ต้องการจะสร้างโชว์เพื่อเซอร์ไพรส์บนเวทีฉลองสมรสก็นิยมเข้ามาเรียนร้องเพลงและฝึกโชว์มากขึ้น
ด้านเวทีประกวดเพื่อคัดเลือกศิลปินหน้าใหม่เข้าสู่วงการบันเทิง ครูอ้วน เสริมว่า ยังคงเป็นอีกกระแสหนึ่งที่ยังได้รับความนิยม ผู้ปกครองเปิดกว้างมากขึ้นและผู้เรียนก็ยังต้องการเรียนเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องในการใช้เสียง จึงทำให้ตลาดสถาบันร้องเพลงยังได้เติบโตอีก ปัจจุบันสถาบันฯ มีนักเรียนจากประเทศในแถบเออีซี อาทิ ลาว พม่า และเวียดนาม เข้ามาเรียนอีกด้วย
สถาบัน สตาร์ เมคเกอร์วอยซ์อคาเดมี มีสาขารวม 10 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล บางนา ชั้น 21 ออฟฟิต ทาวเวอร์, เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 8 ทาวเวอร์B, เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ชั้น 3, เซ็นทรัล พระราม 2 ชั้น 3,เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะชั้น 7, เดอะมอลล์ งามวงศ์วานชั้น 7, เดอะมอลล์ บางแค ชั้น 4, ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ชั้น 3, เมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน ชั้น 3 อาคาร B และ สยามพารากอน ชั้น 4A หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร 02-610-9763-4 หรือ www.starmaker.co.th, www.facebook.com/StarMakerShow และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินนักร้องชื่อดังของเมืองไทยมากหลายต่อหลายคนและยังได้ผลิตบุคลากรที่นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในสาขาอาชีพต่างๆ อีกมากมาย อาทิ ทาทา ยัง, ลุลา กันยารัตน์ ติยะพรชัย, แคทรียา อิงลิช, ดาด้า ดรัลชรัส ศุขีวิริยะ ,อ.จตุพลชมพูนิช, ปนัดดาเรืองวุฒิ, ไชยา มิตรชัย, แพรว – คณิตกุลเนตรบุตร, แอนเดรีย สวอเรซ, แอร์ ภัณฑิลา ฟูกลิ่น, แอน ณัฏฐ์ณัชชา นำเจริญสมบัติ AF6, คชา นนทนันท์ อัญชุลีประดิษฐ์ AF8, แกงส้ม The Star 8, กั้ง มุก บิวThe Star 10, แพททริเซีย กู้ดฯลฯ
"STEM Racing Thailand National Finals 2025" เปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ จุดประกายพลังเยาวชนไทยสู่เวทีนวัตกรรมโลก
มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ร่วมกับ สพฐ. และภาคีเครือข่าย จัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านโภชนาการ พัฒนาอาหารกลางวันเพื่อโภชนาการเด็กไทย
ศธ. น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระพันปีหลวง รวมพลัง Fix It - จิตอาสา ซ่อม-สร้าง-ช่วยเหลือพร้อมส่งมอบบ้าน-จักรยานยนต์ ให้ครอบครัวผู้ประสบภัยชายแดนสุรินทร์ ถวายเป็นพระราชกุศล
"ซีเอ็ด" เปิดพื้นที่สนุกกับการค้นพบแรงบันดาลใจ ในงานสัปดาห์หนังสืออุบลราชธานี ครั้งที่ 14 พร้อมมอบสื่อการเรียนรู้รวมมูลค่า 1.2 ล้านบาท
อมรินทร์กรุ๊ป เดินหน้าลุยต่อ โครงการ "ส่งความรู้ สร้างความสุข" ปลูกฝังเด็กไทยรักการอ่าน เพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ดีขึ้น
"วรัท" ยอมรับหลักสูตรอบรมลูกเสือล้าสมัย สลช.เร่งปรับปรุงให้โดนใจวัยโจ๋
รมว. นฤมล เปิดเวทีสัมมนา OECD ขับเคลื่อนโครงการ 'Developing Skills Strategy in Thailand' ยกระดับกำลังคนสู่เศรษฐกิจ BCG
โฟร์โมสต์ผนึกกำลังพันธมิตร "ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย" ปีที่ 5
"แนะnow" เปิดซีซั่น 3 "อนาคตสดใส" แนะแนวสู่ห้องเรียนจริง พาเด็กไทยค้นจุดแข็ง วางแผนอนาคตไม่หลงทาง