ด้วยความเป็นผู้หญิงเก่ง คุณฝน-
ศิริลัคณา เอียดวิจิตร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท
จริงใจ ครีเอชั่น จำกัด ได้เล่าเรื่องราวความเป็นมาของบริษัทที่เธอสร้างขึ้นเองด้วยความภาคภูมิใจถึงจุดเริ่มต้นของเอเจนซี่พีอาร์ที่ไม่ได้ทำแค่พีอาร์แต่ยังมากฝีมือกับงานโปรดัคชั่นและอีเวนท์ที่เธอปลุกปั้นมากับมือ
คุณฝนเริ่มต้นเส้นทางสายอาชีพของเธอในวงการสื่อสารมวลชนก่อนจะเบนเข็มมาสู่การเป็นนัก
ประชาสัมพันธ์มืออาชีพ ซึ่งเธอเล่าให้เราฟังว่า ในช่วงที่เริ่มตั้งบริษัทจริงใจ ครีเอชั่นนั้น เธอมีอายุเพียง 26 ปี และเพิ่งเรียนจบปริญญาโทมาใหม่ๆ โดยงานประจำที่ทำอยู่ในตอนนั้นก็คือการเป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวีรายการหนึ่ง แต่ด้วยความที่ตัวเองชอบทำอะไรหลายอย่างและชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เธอเลยรู้สึกเบื่องานประจำและอยากทำอะไรเป็นของตัวเอง และอาจเป็นจังหวะดีที่ได้พบกับพี่คนหนึ่งซึ่งกำลังมองหาอะไรที่ทำเป็นของตัวเองอยู่เหมือนกัน เลยตัดสินใจออกจากงานประจำทั้งคู่ และมาจดทะเบียนบริษัทร่วมกัน ซึ่งตอนแรกไม่ใช่
จริงใจครีเอชั่น แต่จดเป็นอีกชื่อหนึ่ง สำหรับตัวคุณฝนเองนั้นตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมาไม่เคยทำอาชีพพีอาร์มาก่อน ประสบการณ์การทำงานจะเป็นการผ่านงานด้านนิตยสาร วิทยุ และโทรทัศน์มา แต่ด้วยความที่เรียนนิเทศศาสตร์มา ทำให้เธอมองว่าทุกศาสตร์คือภาพเดียวกันอยู่ที่ว่าจะเล่าเรื่องอย่างไรให้ผู้รับสารเข้าใจ
"ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นของฝนอาจจะต่างจากผู้บริหารบริษัทเจ้าอื่น สิ่งที่ฝนมั่นใจคือใจ และความจริงใจที่เราตั้งใจทำงานให้กับลูกค้า นั่นคือแนวทางในการทำงานของฝน และด้วยความโชคดีของฝนเพราะหลังจากเปิดบริษัทได้เพียง 7 วัน เราก็ได้รับการเซ็นสัญญาใบที่1 ของบริษัทเรา จากคุณต๊อบ-อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ CEO ผู้ก่อตั้ง บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ฝนปลื้มใจมาถึงทุกวันนี้ ย้อนไปเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราแค่คนทำงานเบื้องหลังคนหนึ่ง ขายงานก็ไม่เป็นเพราะทำแต่งานเบื้องหลัง และเป็นผู้สื่อข่าวอย่างเดียว แต่ ณ วันที่เราได้รับเกียรติจากคุณต๊อบเราพรีเซนท์การทำงานของเราเต็มที่ คือในใจก็คิดว่าได้ไม่ได้ไม่เป็นไร แต่เราทำให้เต็มที่ในส่วนของเรา เขาจะซื้อหรือไม่ซื้อมันอยู่ที่ตัวเขาแล้วล่ะ ปรากฏว่าหลังจากพรีเซนท์เสร็จ คุณต๊อบตกลงซื้องานของฝน ซึ่งความรู้สึก ณ ตอนนั้นดีใจมากๆ และสิ่งที่ฝนจำไม่เคยลืม คุณต๊อบบอกว่าเหตุผลที่เขาซื้องานฝนเพราะเขามองเห็นความจริงจังและความตั้งใจจากแววตาที่มุ่งมั่น เพราะเขาเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เมื่อตอนที่เขาเสนอขายสาหร่ายทอดให้กับร้านค้าย่านเยาวราชสมัยที่ทำธุรกิจใหม่ๆ เขาเชื่อว่าเราจะประสบความสำเร็จเพราะเราตั้งใจและมุ่งมั่น ซึ่งต้องบอกว่าคุณต๊อบนี่มีบุญคุณกับฝนมาก จะกี่ปีฝนก็ไม่เคยลืมเลย โอกาสในวันนั้นที่คุณต๊อบให้มันถึงทำให้ฝนอดทนและพาจริงใจครีเอชั่นมาถึง 7 ปี เพราะใบเสนอราคาใบแรกที่คุณต๊อบเซ็น" คุณฝนเล่าเรื่องราวความเป็นมาของบริษัทด้วยแววตาแห่งความภาคภูมิใจ
บริษัทจริงใจ ครีเอชั่น ในวันนี้ เข้าสู่ปีที่ 7 แล้ว ด้วยวิสัยทัศน์ในการใช้ใจทำงานจริงๆ จะบุกป่าฝ่าดงก็ไม่เกี่ยงของผู้บริหารสาวคนเก่ง ซึ่งแม้จะมีอุปสรรคเข้ามาบ้าง แต่เธอก็ยังยืนหยัดที่จะนำประสบการณ์จากงานเบื้องหลังในวงการสื่อมาใช้กับงานพีอาร์ เพื่อรับมือกับโลกในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นในปัจจุบัน
- จากงานเบื้องหลัง สู่เจ้าของบริษัทพีอาร์
ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกเราไม่ได้ชื่อ จริงใจ ครีเอชั่น คือปีแรกของฝนกับการทำบริษัทของตัวเอง ถ้ามองในแง่ของกำไรต้องบอกว่าดีเลยค่ะ เพราะเราทำเองแทบทุกอย่างด้วยความที่ตอนนั้นอายุยังน้อย ขายงาน คิดงาน ประสานสื่อ ทำเองหมด บางครั้งลูกค้าให้ทำงานอีเว้นท์ด้วย ฝนรับหมดและคุมคนเดียว คือ ถ้าเป็นเรื่องของงานสบายมากสู้ตาย แต่พอเรื่องการบริหารจัดการเรื่องเงินนี่คือไม่ดีเลย บริษัทติดลบ เป็นหนี้ พี่หุ้นส่วนแกก็ต้องกลับไปทำงานกับครอบครัว ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤติของฝนพอสมควร ถ้าเป็นคนทำธุรกิจจะรู้ว่าเมื่อเราทำไประยะหนึ่ง หากประสบปัญหาจะมีทางเลือกให้เรา 2 ทางคือเดินหน้าต่อหรือถอยหลัง ช่วงนั้นก็มีเจ้านายเก่ามาชวนให้กลับไปทำงานประจำ เราเองก็ชั่งใจนะ แต่ตอนนั้นคือมีหนี้จากการลงทุนทำบริษัทแล้ว และเราก็รู้สึกว่าทำไมต้องเป็นหนี้ ทั้งๆที่เราคิดว่ามันน่าจะได้กำไร ก็เลยมองหาสาเหตุ จนในที่สุดเราก็ตัดสินใจเดินหน้าไม่หันหลังกลับไปทำงานประจำ และไม่มีหุ้นส่วนเราลุยคนเดียว โดยจ้างพนักงาน 2 คน และก็น่าตลกที่คนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยตอนที่เราล้ม ซึ่งตอนนั้นบริษัทเปิดได้ประมาณหนึ่งปีก็เป็นเถ้าแก่น้อยอีก เพราะโอกาสจากคุณต๊อบ เถ้าแก่น้อย ที่ให้ฝนทำงานทำให้ฝนสามารถเอาเงินมาใช้หนี้หมดเลย แล้วเริ่มต้น จากนั้นมันก็ดีขึ้นมาเรื่อยๆ จนทุกวันนี้ผ่านมาเข้าสู่ปีที่ 7 แล้ว
- จะบอกว่าด้วยความที่ผ่านประสบการณ์ทำงานสื่อมารอบด้าน ทำให้จริงใจเป็นพีอาร์ที่ไม่เหมือนใคร?
อาจจะเป็นความโชคดีของฝนที่มีประสบการณ์การทำงานที่หลากหลายในด้านวิชาชีพสื่อ ซึ่งแน่นอนว่าทุกอาชีพในสายนิเทศศาสตร์ต้องมีความครีเอทีฟ เวลาที่ออกไปขายงาน เราเลยไม่ได้มองแค่เรื่องของพีอาร์ แต่เรามองเห็นโอกาสทุกอย่างที่สามารถสร้างงานที่ดีให้กับลูกค้าได้ เราเอาความครีเอทีฟเข้ามาต่อยอดกับพีอาร์ ทุกวันนี้ฝนก็จะบอกน้องๆที่เข้ามาตลอดนะว่าเราไม่ใช่พีอาร์ แต่เราเป็นครีเอทีฟพีอาร์ เวลาทำงานเนี่ยเราจะวิเคราะห์จากข้างนอกด้วย สมมุติว่ามีลูกค้าที่ทำเครื่องสำอางเข้ามา เราถึงขั้นว่าออกไปทำ R&D ให้ลูกค้า ด้วยการไปคุยกับแม่ค้าตามตู้จำหน่ายเครื่องสำอางอะไรแบบนี้เลยนะ คือจำเป็นต้องรู้อินไซท์ขนาดนั้น ฝนก็ไม่แน่ใจนะคะว่าพีอาร์ที่อื่นเค้าทำแบบนี้รึเปล่า แต่สำหรับจริงใจครีเอชั่นแล้ว เราลงลึกถึงดีเทลมากๆ ก็เป็นไปตามชื่อบริษัทแหละค่ะ เพราะเราเป็นจริงใจ คือจริงๆแล้วคำว่าจริงใจเนี่ย จริงๆมันแย้งกับงานพีอาร์นะ พีอาร์มันคือการสร้างภาพอะไรแบบนี้ แต่เราต้องการเล่นคำว่าการสร้างภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วความจริงใจสำคัญที่สุด เราสร้างภาพไปแต่ลูกค้าไม่สามารถจับต้องความจริงใจที่เราต้องการนำเสนอ การพีอาร์ก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ อย่างบุคลิกฝนนี่ก็คือ ปกติแล้วจะไม่มีใครรู้เลยว่าเราเป็นเจ้าของบริษัท เราชอบที่จะอยู่ข้างหลัง ไม่ชอบออกงานสังคม ไม่ใช่แบบจ๊ะจ๋า แต่เมื่อพี่น้องผู้สื่อข่าวมางานฝนเต็มที่ ดูแลใส่ใจให้ความสำคัญกับทุกๆคนเรื่องงานฝนลงดีเทลคือจริงจังมากๆ จุดแข็งของพีอาร์ฝนว่าเราต้องรู้จริง ต้องสื่อสารเป็น และต้องรับผิดชอบคำพูด พี่ๆน้องๆสื่อมวลชนน่ารัก แค่เราเข้าใจสิ่งที่เรานำเสนอ และตอบคำถามหรือให้ข้อมูลที่สามารถเป็นข่าวได้ ที่สำคัญต้องไม่ผัดวันประกันพรุ่ง มีมารยาท มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ฝนว่าความสำเร็จในอาชีพพีอาร์ก็ไม่ได้ไกลเกินฝัน
- ลูกค้าของจริงใจครีเอชั่น ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มไหน?
จริงๆเรามีลูกค้าอยู่ทุกกลุ่มนะคะ หรือถ้าจะแยกเป็นกลุ่มใหญ่ก็คือ มีทั้งราชการและเอกชน อย่างราชการเนี่ย เราก็มีลูกค้าอยู่ในเกือบทุกกระทรวงนะ เพราะอย่างที่บอกคือเราทำทั้งพีอาร์ อีเวนท์ แล้วก็ผลิตสารคดีด้วย ส่วนของเอกชนเนี่ย ก็มีลูกค้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหาร บริการ หรือเครื่องสำอางความสวยความงามอะไรแบบนี้ แล้วก็มีลูกค้าทุกขนาด ตั้งแต่บริษัทใหญ่ ไปจนถึง SME ที่เพิ่งเริ่มตั้ง อย่าง CP เนี่ย เค้าก็ให้โอกาสเรามาโดยตรงเลยนะ ไม่ได้ผ่านเอเจนซี่ ก็ทำให้เค้ามาหลายปีแล้วนะคะ หรือแม้กระทั่ง SME ที่เปิดใหม่ซึ่งในตลาดก็มีอยู่หลายแบรนด์ คือจริงๆแล้วฝนชอบอะไรที่ใหม่ๆนะ แบบว่าลูกค้าไม่เคยทำอะไรมาก่อนเลย ให้เรามาดูแลเรื่องสร้างแบรนด์ที่แรก อันนี้ถือเป็นความท้าทายของจริงใจครีเอชั่น เลยนะ คือเราจะไม่ใช่แนวแบบพีอาร์จ๋า เน้นส่งข่าวหรืออะไรแบบนี้ แต่เราจะช่วยคิด วางแผน คือไม่ได้ทำตามสั่งอ่ะค่ะ พีอาร์บางที่อาจจะเน้นสร้างข่าว ขายประเด็นนู่นนี่นั่น แต่เรามองในเรื่องของการขายการตลาดมากกว่า เพราะเวลาที่ลูกค้าเข้ามาจ้างเราเนี่ย สิ่งที่เค้าหวังก็คือการมีชื่อเสียงให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก แต่พอมีชื่อเสียงแล้วต่อจากนั้นคืออะไร ซึ่งถ้าเป็นงานพีอาร์เลยจริงๆก็จะคิดแค่ว่าต้องชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักนะ แต่ไม่ได้คิดต่อว่าแล้วลูกค้าจะขายได้มั้ย ส่วนเราคิดข้ามสเต็ปไปจนถึงขั้นที่ว่าแล้วลูกค้าจะขายได้มั้ยกับสิ่งที่เราทำไป หรือแมสเสจเหล่านี้มันใช่มั้ย แล้วผลตอบรับได้กลับมาก็ดี คือลูกค้าหลายๆรายจะบอกว่าฟีดแบคกลับมาดี นี่ก็คือความสำเร็จของเรา