ไอเอฟเอส บริษัทผู้พัฒนาแอพพลิเคชันการจัดการองค์กรระดับโลก เผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยเบื้องต้นที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างชัดเจนระหว่างการใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์การจัดการองค์กรของบริษัทอุตสาหกรรมต่างๆ กับความพร้อมในดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น การศึกษาวิจัยได้ทำการสำรวจผู้ใช้งานภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ซอฟต์แวร์การวางแผนจัดการทรัพยากรทางธุรกิจในองค์กร (enterprise resource planning - ERP) ซอฟต์แวร์การจัดการบริการภาคสนาม (field service management-FSM) ซอฟต์แวร์การบริหารจัดการสินทรัพย์องค์กร (enterprise asset management-EAM) และซอฟต์แวร์การจัดการองค์กรอื่น ๆ ในทวีปอเมริกาเหนือ
พบข้อสำคัญที่ได้จากการศึกษาวิจัย ประกอบด้วย
ในหลาย ๆ บริษัทจำนวนมาก พบว่า ระบบอีอาร์พียังคงหมายถึงการใช้โปรแกรมเอ็กเซลในงานด้านการผลิต เมื่อต้องเผชิญกับการใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์ที่ด้อยประสิทธิภาพ ทำให้ 88% ของผู้ตอบแบบสอบถามอาจเลิกใช้ซอฟต์แวร์การจัดการองค์กรจากการใช้งานสเปรดชีตที่ไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ ทำให้เป้าหมายการใช้งานแอพพลิเคชันด้านการจัดการองค์กรนั้นล้มเหลว
พบค่าความสัมพันธ์ที่เห็นได้ชัดเจนระหว่างการใช้ประโยชน์กับดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ดังตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามที่กล่าวว่า ซอฟต์แวร์การจัดการองค์กรของตนพร้อมสำหรับดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น มีความเป็นไปได้สูงที่จะกล่าวว่า ซอฟต์แวร์การจัดการองค์กรของตัวเองใช้งานได้ง่ายมาก ถึง 400%
การใช้งานซอฟต์แวร์มีผลต่อการจดจำของพนักงานในกลุ่มที่ผ่านประสบการณ์การใช้งานมาแล้ว จากการสำรวจแยกตามลักษณะประชากรเฉพาะในช่วงวัยกลางคนเป็นสำคัญ พบว่า เกือบ 46% อาจพิจารณาเปลี่ยนงานเหตุเพราะการใช้งานซอฟต์แวร์การจัดการองค์กรที่ด้อยประสิทธิภาพ
นายริค เวจ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ประจำทวีปอเมริกาเหนือ บริษัท ไอเอฟเอส กล่าวว่า "การใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์ได้ลงลึกไปกว่าการใช้งานกราฟิก ยูสเซอร์ อินเทอร์เฟส สถาปัตยกรรมภายใต้ แอพพลิเคชันต้องทำให้เกิดความคล่องตัวในการใช้งาน การใส่อินเทอร์เฟสที่มีลูกเล่นให้กับซอฟต์แวร์การจัดการธุรกิจซึ่งโดยพื้นฐานไม่สามารถส่งต่อกระบวนการทำงานที่คล่องตัว ย่อมไม่ทำให้เกิดประโยชน์ในการใช้งานได้จริง ผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าซอฟต์แวร์ของเขายังให้ผลลัพธ์ของงานที่ด้อยประสิทธิภาพในการเตรียมพร้อมสู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยพบว่า มีถึง 28% ที่มีแนวโน้มอยากให้ผู้ขายซอฟต์แวร์ทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้น ด้วยการจัดหาซอฟต์แวร์ที่สอดคล้องกับธุรกิจของพวกเขา ดังนั้น ในกระบวนการพิจารณาเลือกใช้ซอฟต์แวร์ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องขอให้ผู้ขายซอฟต์แวร์แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการการสนับสนุนทั้งเรื่องกระบวนการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน วิธีการผลิตในหลายรูปแบบ และรวมเอาการทำงานของไซต์งานต่าง ๆ ซึ่งผลิตงานที่แตกต่างกันออกไปทั้งหมดมาไว้ภายใต้โซลูชันธุรกิจเดียวกัน"
นายสตีฟ แอนดรูว์ รองประธานฝ่ายการตลาด ประจำทวีปอเมริกาเหนือ บริษัท ไอเอฟเอส กล่าวว่า "ก่อนที่คนอื่นจะเข้าใจเรา เราต้องเข้าใจพวกเขาก่อนเป็นอันดับแรก การทำงานวิจัยในลักษณะนี้ คือ หนทางหนึ่งที่ทำให้พวกเราชาวไอเอฟเอสมั่นใจได้ว่า จะจัดการกับความต้องการขององค์กรภาคอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนซึ่งเราให้บริการอยู่ได้สำเร็จ การแบ่งปันงานวิจัยชิ้นนี้ทำให้เราเหมือนยิ่งให้ก็ยิ่งได้ในการช่วยเหลือบริษัทต่าง ๆ ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้เข้าใจถึงสถานการณ์ทางการตลาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน"
เยี่ยมชม ไอเอฟเอส บล็อก เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ ที่ http://blog.ifsworld.com/
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว "MCSeT" รุ่นใหม่ นวัตกรรมล่าสุดเพื่อประสิทธิภาพพลังงาน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จับมือ ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ ร่วมพัฒนาขีดความสามารถการบริหารจัดการน้ำ
สร้างแผนธุรกิจ เพื่อปฏิรูปอุตสาหกรรมสู่ระบบดิจิทัล
"ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ชูแนวคิด SF6-free เปลี่ยนผ่านสู่โครงข่ายไฟฟ้าอนาคตด้วย Pure Air บนเวทีสัมมนา IEEE Towards a Sustainable Grid
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชูแนวคิด "Homes of the Future" ด้วยผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ตอบโจทย์บ้านแห่งอนาคต สร้าง "ชุมชนช่างไฟชไนเดอร์" ตอกย้ำกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค หนุน PEA จัดงานวิ่งมินิมาราธอน 2025 ชูแนวคิด "Digital green grid one step for the better energy"
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับของ Gartner(R) Top 25 Supply Chain เป็นปีที่สามติดต่อกัน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว "Miluz E" สวิตช์-เต้ารับซีรีส์ใหม่ ดีไซน์น้อยแต่มากฟังก์ชั่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน คุ้มค่า คุ้มราคา
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยความคืบหน้าเป้าหมายด้านความยั่งยืนในไตรมาส 2 ปี 2568 ประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ