จีนปิดประตูตลาดค้างาช้างถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป การซื้อขายงาช้างในประเทศจีนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย "การพลิกบทบาทของจีนในเรื่องนี้" ได้รับการตอบรับจากองค์การที่ทำงานอนุรักษ์จำนวนมาก ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้เป็นวันที่จีนให้พันธะสัญญาว่าจะปิดตลาดการค้างาช้างที่ถูกกฎหมายทั้งหมด โรงงานและร้านค้างาช้างที่ได้รับอนุญาตให้ค้างาช้างอย่างถูกกฎหมายต้องยุติการค้าขายงาช้างและสินค้างาช้างทั้งหมดทั่วประเทศ
          โดยเฉลี่ยแล้ว ทุกวันจะมีช้าง 55 ตัวถูกฆ่าจากการล่าเพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าจากงาช้างที่เพิ่มมากขึ้นในจีนและประเทศเพื่อนบ้าน การจัดการปิดตลาดงาช้างของจีน ซึ่งถือเป็นมาตรการที่ชัดเจนมากกว่ามาตรการในประเทศอื่นๆ การตัดสินใจนี้จะพลิกวิกฤติการล่าช้างเพื่อเอางาและการลักลอบซื้อขายงาช้างที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งสร้างผลกระทบที่มีนัยยะสำคัญต่อการอนาคตการรอดชีวิตของช้างแอฟริกา
          จากรายงานการสำรวจขององค์กรเครือข่ายควบคุมการค้าสัตว์ป่า (TRAFFIC) และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) พบว่าการปิดตลาดค้างาช้างครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสำรวจ และเป็นแนวโน้มที่สำคัญในการลดปริมาณการซื้อขายงาช้างในจีนอย่างจริงจัง
          ปีนี้เป็นปีที่ดีในในการต่อสู้เพื่อยุติการค้างาช้างของโลก ฮ่องกง สิงคโปร์ ไทย และสหราชอาณาจักรได้ดำเนินการยกระดับการใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาการค้างาช้าง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (20 ธันวาคม) องค์กรเครือข่ายควบคุมการค้าสัตว์ป่า (TRAFFIC) และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) เรียกร้องให้ญี่ปุ่นปิดตลาดค้างาช้างที่ถูกกฎหมาย เพราะผลจาการสำรวจล่าสุดพบว่าญี่ปุ่นยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีตลาดค้างาช้างภายในประเทศที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

คำแถลงการณ์ของ WWF ต่อการปิดตลาดค้างาช้างของจีน 
          ดร. เฟรด ควาเม่ คูม่าร์ (Dr. Fred Kwame Kumah) ผู้อำนวยการองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานแอฟริกา กล่าวว่า "ประเทศจีนแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ต่อวิกฤตอันเร่งด่วนนี้ เราหวังว่าจีนจะร่วมมือกับเราในการเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลาว ไทย พม่าและเวียดนามในการดำเนินการตามข้อเรียกร้องนี้เพื่อปิดตลาดค้างาช้างที่ถูกกฎหมายโดยทันที
          การปิดตลาดค้างาช้างในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นปี 2561 ด้วยการก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งเพื่อโลกที่ความต้องการงาช้างสูญพันธุ์ไป ไม่ใช่ช้างที่ต้องสูญพันธุ์ไปจากโลกนี้
          ในช่วงสองสามเดือนข้างหน้าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งยวดของการดำเนินการปิดตลาดงาช้างในการสื่อสารและการใช้มาตรการต่างๆ เพราะมีหลักฐานที่สำคัญยืนยันได้ว่า ยังมีการค้างาช้างที่ผิดกฎหมายในวงกว้าง ทั้งการค้าในรูปแบบออนไลน์ และการค้าแบบไม่มีการขึ้นทะเบียนในประเทศจีน ถ้ายังไม่มีการแก้ไขปัญหาการค้างาช้างอย่างผิดกฎหมายเหล่านี้อย่างจริงจัง จะทำให้การประกาศปิดตลาดงาช้างในจีนไม่เกิดผลเท่าที่ควร

สิ่งที่ต้องดำเนินการขั้นต่อไป
          ประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ต้องดำเนินการตามอย่างประเทศจีนเพื่อปิดตลาดค้างาช้างที่ถูกกฎหมายในประเทศของตน การปิดตลาดงาช้างในจีนเป็นก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่ แต่อาจเป็นหนทางที่ทำให้ทิศทางของตลาดงาช้างหันเหไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียดนาม กัมพูชา ลาว พม่า และ ไทย ซึ่งเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากนิยมซื้อผลิตภัณฑ์งาช้าง และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าอื่นๆ
          รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการที่ดีในการลดการซื้อขายงาช้างในประเทศ แต่ไทยยังคงไว้ซึ่งตลาดงาช้างที่ถูกกฎหมายจากผลิตภัณฑ์งาช้างที่ได้มาจากช้างในประเทศ ตลาดงาช้างที่ถูกกฎหมายดังกล่าวเป็นการสร้างโอกาสให้อาชญากรสามารถค้าขายงาช้างแอฟริกันในประเทศไทยได้ และยังสร้างความสับสนในนักท่องเที่ยวที่สามารถซื้อผลิตภัณฑ์งาช้างในประเทศไทยได้ แต่ไม่สามารถนำออกนอกประเทศได้อย่างถูกกฎหมาย
          เยาวลักษณ์ เธียรเชาว์ ผู้อำนวยการองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล สำนักงานประเทศไทยกล่าวชื่นชมรัฐบาลไทยในความพยายามลดการการค้างาช้างผิดกฎหมายในประเทศ และกล่าวเสริมว่า "ประเทศไทยควรดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการแสดงความเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาระดับโลกนี้ ไทยควรกำหนดขั้นตอนต่างๆที่จะนำไปสู่การปิดตลาดงาช้างภายในประเทศอย่างสมบูรณ์" การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญยิ่งที่จะช่วยให้ความพยายามแก้ปัญหาสำคัญในระดับโลกนี้ลุล่วง อันจะนำไปสู่การยุติการค้าช้างเอางาของโลกใบนี้"

32
จีนปิดประตูตลาดค้างาช้างถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ
 
จีนปิดประตูตลาดค้างาช้างถูกกฎหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ

ข่าวกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล+กองทุนสัตว์ป่าโลกวันนี้

เอสไอจีร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 เชื่อมโยงและปกป้องภูมิทัศน์ป่าไม้ที่สำคัญในประเทศไทย

ความร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund For Nature) สวิตเซอร์แลนด์ และที่สำนักงานประเทศไทย (WWF Switzerland and Thailand) ในครั้งนี้ เอสไอจีได้ริเริ่มโครงการเพื่อเชื่อมโยงและปกป้องภูมิทัศน์ป่าไม้ที่สำคัญในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการป่าไม้และการเชื่อมโยงในภูมิทัศน์ เทือกเขาตะนาวศรี พื้นที่ลุ่มน้ำสงครามตอนล่าง และกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ป่าทั้งหมด 60,000 เฮกตาร์ หรือเทียบเท่า 375,000 ไร่ โครงการนี้เป็นโครงการเพื่อปกป้องและดูแลป่าไม้

ช้างป่าที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิภาคเอเชียตะวั... WWF เปิดตัวโครงการใหม่เพื่อช้างเอเชียในระดับภูมิภาค เชิญชวน "พันธมิตรช่วยช้าง" เข้าร่วมมือ — ช้างป่าที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเท...

ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ประกาศความร่วมม... เอปสันสานความร่วมมือ WWF ฟื้นฟูผืนป่าทั่วโลก — ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ประกาศความร่วมมือกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF องค์กรอนุรักษ์สิ่ง...

ผู้บริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด... เอปสันจับมือ WWF จัดค่ายฯ วิทย์ทะเล — ผู้บริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร และนายคณินธรรมภิบาลอุดม...

- ขยายกิจกรรมอนุรักษ์ทางทะเลไปยัง 3 ประเท... LANEIGE-WWF ลงนามความร่วมมือระดับโลกด้านการอนุรักษ์ทางทะเล — - ขยายกิจกรรมอนุรักษ์ทางทะเลไปยัง 3 ประเทศทั่วโลก (เกาหลี จีน และไทย) และดำเนินกิจกรรมอนุรักษ...

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ร่วมกับบริษัท ไพร์ม... ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จัด Virtual Run ระดมทุนสนับสนุนโครงการ Save Tiger — ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ร่วมกับบริษัท ไพร์มเวิร์ค โซลูชั่น จำกัด จัด Virtual Run ว...

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมองค์การกอง... กยท. ระดมความคิดร่วม WWF - ผู้ประกอบการยางฯ มุ่งหาแนวทางพัฒนายางยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม — การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกส...