แนมโน้มของเทคโนโลยีด้านการท่องเที่ยวและโอกาสในอุตสาหกรรมปี 2561 เอ็กซ์พีเดียให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการท่องเที่ยวเพื่อช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย

19 Feb 2018
ความคาดหวังด้านดิจิตอลของผู้บริโภคที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอีกต่อไปสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยและทั่วโลก การมอบสิ่งที่เหนือความคาดหมายให้กับผู้บริโภคคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในตอนนี้ และถือว่าเป็นโอกาสสำหรับโรงแรมต่างๆ ในการมุ่งเน้นไปที่สิ่งสำคัญกับผู้บริโภคจริงๆ นั่นก็คือการสร้างประสบการณ์แบบครบวงจร หนึ่งในสาเหตุที่ผู้บริโภคหันมาใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้นก็คือ พวกเขามีความอดทนกับการใช้งานด้านดิจิตอลลดลง และคาดหวังที่จะได้รับการตอบกลับ การตอบคำถาม และการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างทันถ่วงที การให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ส่งผลให้มีการช่วยเหลือแบบดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน ร้อยละ 62 ของผู้บริโภคทั่วโลกพอใจกับการใช้ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ในการตอบคำถาม ซึ่งสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ AI ในประเทศไทยกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างเต็มตัว หลายคนเชื่อว่า AI เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่จะมีผลต่อการใช้ชีวิตของพวกเขา

AI และการเรียนรู้ของเครื่อง: แชตบอตถูกใช้อย่างแพร่หลาย

2561 จะเป็นปีที่ AI อยู่ในรูปแบบของการเรียนรู้โดยที่คอมพิวเตอร์สามารถจัดการทุกอย่างได้เองโดยไม่ต้องมีการตั้งค่าใดๆ และจะไม่เป็นเพียงเทคโนโลยีแห่งอนาคต แต่จะกลายเป็นเครื่องมือที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างผสมผสานและมีคุณค่า แชตบอตทำให้การสื่อสารของผู้เดินทางง่ายและล้ำลึกมากขึ้น และกำลังขยายอย่างต่อเนื่องไปยังสื่อประเภทต่างๆ เช่น การสนทนาออนไลน์ ช่องทางต่างๆ ในโซเชียล ผู้ช่วยผ่านเสียง และอีกมากมาย นอกจากนั้น เครืองมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในด้านนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมสามารถเชื่อมโยงกับผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น และเป็นวิธีที่มีการปรับเปลี่ยนตามความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น "การทำความรู้จักกับลูกค้าแต่ละรายมากขึ้นและให้ข้อมูลที่พวกเขาต้องการได้อย่างเป็นธรรมชาติจะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการทำงาน และทำให้พวกเขาได้รับประสบการณ์การเดินทางได้ทันถ่วงทีผ่านการค้นหาข้อมูล และดำเนินการจองที่ง่ายดาย" อาร์เธอร์ แชพพิน, รองประธานอาวุโส ฝ่ายออกแบบและผลิตภัณฑ์ทั่วโลก, เอ็กซ์พีเดีย กรุ๊ป กล่าว

ทำให้เสียงของเราดังยิ่งขึ้น: Siri และ Google เป็นที่นิยม

เครื่องช่วยงานแบบดิจิตอลที่มีระบบสั่งงานด้วยเสียงไม่เพียงจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของเราด้วย ภายในปี 2564 คาดว่าจะมีการใช้ เครื่องช่วยงานแบบดิจิตอลทั่วโลกสูงถึง 7.5 พันล้านเครื่อง ในปัจจุบัน นอกจากเราจะใช้เครื่องช่วยงานแบบดิจิตอลเพื่อดูพยากรณ์อากาศและข้อมูลจราจร รวมถึงเนื้อหาด้านความบันเทิงแล้ว เครื่องมือเหล่านี้ยังช่วยให้เราสามารถค้นหาโรงแรม ตรวจสอบเที่ยวบิน และอื่นๆ อีกมากมาย "เราต้องก้าวไปอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมในการทดสอบคำสั่งเสียงและดำเนินงานให้สอดคล้องกับการจำนวนนักท่องเที่ยวที่เริ่มสนใจในเทคโนโลยีนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเรามีทรัพยากรและมีความพร้อมอย่างดีเมื่อสิ่งเหล่านี้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย" อาร์เธอร์ แชพพินกล่าวต่อ

  • จำนวนผู้ใช้งานเครื่องช่วยงานดิจิตอลแบบเสมือนจริงในปี 2560 เพิ่มขึ้น จากปี 2559 มากกว่าร้อยละ 40 และคาดว่าจำนวนผู้ใช้งานระหว่างปี 2560 ถึง 2564 จะเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 158 (Business Insider UK)
  • เกือบครึ่งของผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยจะใช้เทคโนโลยีเสียงภายในปี 2563 และร้อยละ 47 ของผู้ใช้จะใช้เทคโนโลยีเสียงอย่างน้อยเดือนละครั้ง (Speak Easy)
  • ร้อยละ 39 ของผู้ใช้งานระบบสั่งการด้วยเสียงในโทรศัพท์กล่าวว่าพวกเขารู้สึกตื่นเต้นกับอนาคตที่เครื่องช่วยงานแบบดิจิตอลจะสามารถคาดการณ์ความต้องการของพวกเขาและสามารถดำเนินการเองได้ (Speakeasy)ความต้องการประสบการณ์ใหม่

ร้อยละ 72 ของผู้บริโภคในปัจจุบันต้องการประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ และการสร้างความความทรงจำยังคงเพิ่มขึ้นในทุกเจเนอเรชั่น โดยถูกเรียกว่า "เศรษฐกิจด้านประสบการณ์" สำหรับผู้ประกอบการในประเทศไทย สิ่งนี้แสดงถึงโอกาสอันดีในการดึงดูดผู้บริโภคที่สนใจการท่องเที่ยวสถานที่ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมงานต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา หรือการแสดง ในปี 2561 ผู้บริโภคจะไม่เพียงแค่จองห้องพักเท่านั้น แต่พวกเขาจะจองกิจกรรมที่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในระหว่างเข้าพักด้วย ซึ่งนับตั้งแต่การจองร้านอาหาร ทัวร์ต่างๆ หรือกิจกรรมเพื่อความบันเทิง โดยอาร์เธอร์ เน้นว่า "เมื่อผู้เข้าพักอยู่ในขั้นตอนการจองโรงแรม ทางโรงแรมสามารถสร้างโอกาสโดยการทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกถึงความเป็นเอกลักษณ์ และมีความแตกต่างที่น่าจดจำ ไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่โรงแรม แต่รวมถึงภายนอกด้วย การให้ข้อมูลในพื้นที่บริเวณรอบโรงแรม รวมถึงสถานที่ที่น่าสนใจ และข้อแนะนำอื่นๆ เกี่ยวกับสถานที่ที่อาจไม่เป็นที่รู้จัก โดยการมอบประสบการณ์ใหม่ที่ผู้เข้าพักในปัจจุบันปรารถนา รวมถึงสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการโรงแรม"

ความสำคัญของการจองแบบแพ็คเกจ

ตลาดซื้อขายซึ่งเปรียบเสมือนผู้ครองโลกในปัจจุบัน โดยจะเห็นได้จาก Amazon ร้านค้าแบบครบวงจรที่ผู้บริโภคแทบทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะใช้ได้จริงหรือไม่ก็ตาม ผู้บริโภคคาดหวังที่จะได้รับประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าแบบครบวงจรที่ราบรื่นในแทบทุกด้านในชีวิตของพวกเขา การศึกษาตามความหลากหลายของเจเนอเรชั่นต่างๆ โดยแบรนด์เอ็กซ์พีเดียล่าสุดชี้ว่าร้อยละ 80 ของผู้เดินทางรู้สึกว่าถ้าสามารถทำการจองทุกอย่างในการเดินทางพร้อมกันนั้นจะเป็นประโยชน์อย่างมาก และพบว่าสำหรับผู้เดินทางใน เจเนอเรชั่น Z ความสะดวกสบายถือว่าเป็นสิ่งสำคัญซึ่งมีอัตราสูงถึงร้อยละ 87 โดยข้อได้เปรียบของโรงแรมก็คือการนำเสนอห้องพักในรูปแบบ "การจองแพ็คเกจ" ซึ่งรวมเที่ยวบินและรถไว้ด้วยกัน ซึ่งมักจะหมายถึงราคาเฉลี่ยต่อวันที่สูงขึ้น ช่วงเวลาการจองที่นานขึ้น และการยกเลิกที่น้อยลง นอกจากนั้น ผู้บริโภคสามารถทำการค้นหาและจองได้ในขั้นตอนเดียวอย่างราบรื่น โดยทั้งผู้ประกอบการโรงแรมและลูกค้าต่างได้ประโยชน์จากการขายแบบแพ็คเกจ ความต้องการแพ็คเกจของเอ็กซ์พีเดียในการเดินทางมาไทยนั้นมีช่วงเวลาการจองยาวนานกว่าเกือบ 1.4 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการจองที่พักโรงแรมเพียงอย่างเดียว สำหรับผู้ประกอบการโรงแรม ระยะเวลาการเข้าพักและช่วงเวลาการจองที่ยาวนานขึ้น ย่อมหมายถึงโอกาสที่มากขึ้นในการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและการอัพเซล ทั้งในช่วงก่อนเช็คอินและระหว่างการเข้าพัก

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit