หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงการคลัง ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมบัญชีกลาง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุล โดยมีงบประมาณรายจ่ายมากกว่าประมาณการรายได้ เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและเร่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยังมีข้อจำกัดจากอัตราการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่ยังไม่เต็มศักยภาพ โดยการดำเนินนโยบายงบประมาณแบบขาดดุลดังกล่าวเป็นการขาดดุลสำหรับรายจ่ายเพื่อการลงทุน ซึ่งการลงทุนภาครัฐจะช่วยส่งเสริมบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมของประเทศ ช่วยกระตุ้นและดึงดูดการลงทุนเพิ่มจากภาคเอกชนด้วย (crowding-in effect)
กระทรวงการคลังจะดำเนินการกู้เงินเพื่อให้สอดคล้องกับกระแสรายได้ กระแสรายจ่าย ในช่วงระยะเวลาต่างๆ ภายใต้ต้นทุนและความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยมีการวางแผนการกู้เงินและบริหารเงินคงคลังร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพและรอบคอบรัดกุม และเป็นการดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย
แนวทางในการดำเนินนโยบายการคลังและการบริหารเงินคงคลัง รัฐบาลได้คำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ สภาพคล่องของรัฐบาล และยังเป็นการดำเนินการภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้มีการบริหารเงินคงคลังให้เพียงพอต่อความต้องการใช้เงินในแต่ละช่วงเวลา โดยคำนึงถึงภาระดอกเบี้ย ซึ่งเป็นต้นทุนในการเก็บรักษาเงินคงคลังที่ไม่ควรจะมีมากเกินความจำเป็น
การดำเนินนโยบายการคลังของรัฐบาลแบบขาดดุล ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง (ในปี 2557 2558 และ 2559 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 0.9 2.9 และ 3.2 ตามลำดับ) โดยในปี 2560 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ใกล้เคียงร้อยละ 4.0 ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 ปี
ในขณะที่ระดับหนี้สาธารณะของประเทศที่ผ่านมาอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลัง โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP ณ เดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 41.76 (ซึ่งต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดให้สัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP ไม่เกินร้อยละ 60) สะท้อนให้เห็นถึงเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ
อย่างไรก็ดี ในระยะต่อไป หากภาวะเศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ รัฐบาลก็อาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดทำงบประมาณขาดดุล เพื่อให้ภาคเอกชนเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไป นอกจากนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังยังคงมีนโยบายที่มุ่งเน้นการจัดทำงบประมาณสมดุล พร้อมทั้งยังมีการจัดทำแผนการคลังระยะปานกลาง เพื่อเป็นการรักษากรอบวินัยการเงินการคลังของประเทศให้มีความมั่นคงและมีเสถียรภาพ และสามารถรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020
กรมบัญชีกลาง โทร. 02 127 7000
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 02 265 8050
ครั้งแรกในไทย Kubix ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการระบบเสนอขาย G-Token ตอกย้ำความเป็นผู้นำ เพื่อขับเคลื่อนอนาคตตลาดทุนดิจิทัลไทย
พันธบัตรวอลเล็ต สบม. บนเป๋าตัง จองซื้อเต็ม 5,000 ล้านบาท ตอกย้ำความสำเร็จนวัตกรรมการลงทุนที่ตอบโจทย์ในทุกมิติ
การเคหะแห่งชาติเผยแผนผุด Mixed Use ในเมืองชุมชนดินแดง ช่วยสร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน
พันธบัตรวอลเล็ต สบม. บนเป๋าตัง จองซื้อเต็ม 10,000 ล้านบาท ตอกย้ำความสำเร็จ พลิกการลงทุนให้เป็นเรื่องง่ายและงอกเงย
PEA กับก้าวแห่งความสำเร็จ การออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (PEA Sustainability Bond) ครั้งแรก ตอกย้ำการนำองค์กรมุ่งสู่เส้นทาง Green Finance
ก.ล.ต. ร่วมมือกับ ADB และ สบน. จัดงานสัมมนาให้ความรู้แก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนด้านการส่งเสริมการเงินเพื่อความยั่งยืน
วว. นำเสนอผลการดำเนินโครงการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากจังหวัดอุดรธานีด้วย วทน.
จองซื้อเต็ม! พันธบัตรวอลเล็ต สบม."สุขใจให้ออม" บนเป๋าตัง 15,000 ล้านบาท ตอกย้ำความสำเร็จตอบโจทย์ การลงทุนและความยั่งยืนยุคดิจิทัล