เดลต้าฯ จับมือ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดสมาร์ทแล็บแห่งอนาคตและห้องเรียนอัจฉริยะ ขุมพลังของอาหารและการเกษตร 4.0

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          แม้ไทยจะเป็นแหล่งผลิตเกษตรและอาหารที่มีชื่อเสียง แต่ในย่างก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 นั้น เทคโนโลยีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นานาประเทศต่างก็มีมาตรการเข้มงวดในการนำเข้าสินค้าและบริการจากต่างประเทศ ผู้ผลิตสินค้าอาหารและการเกษตรในประเทศไทยจำเป็นต้องเรียนรู้และปรับตัวเพื่อพัฒนาคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและได้รับการยอมรับ ทั้งนี้ บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้นำอิเลคทรอนิคส์และนวัตกรรมไอซีทีของโลก ได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิด ""สมาร์ทแล็บแห่งอนาคตและห้องเรียนอัจฉริยะ (Delta Industrial Automation SMART Laboratory)"" ซึ่งเป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่จะช่วยพัฒนาการเรียนการสอนวิศวกรรมศาสตร์ ระบบออโตเมชั่น กระตุ้นการวิจัยต่อยอดนวัตกรรม สนับสนุนเมคเกอร์และสตาร์ทอัพผู้ประกอบการใหม่ เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อการนำประเทศสู่การปฏิรูปอาหารและเกษตร 4.0
          คุณอนุสรณ์ มุทราอิศ กรรมการบริหาร บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 และประเทศไทย 4.0 ประเทศไทยยังขาดแคลนบุคคลากรด้านระบบอัตโนมัติ 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มวิศวกรที่จะนำระบบ Industrial Automation (IA) ไปออกแบบปรับปรุงและพัฒนาระบบการผลิตสู่การเกษตรและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร 4.0 2.กลุ่มที่จะบำรุงรักษา Industrial Automation (IA) และ 3.กลุ่มที่มีทักษะในการเป็นผู้ใช้ระบบ Industrial Automation (IA) โครงการ Delta IA Smart Lab ที่เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ร่วมมือกับหลายมหาวิทยาลัยโดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นับเป็นแห่งที่ 4 มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีออโตเมชั่น ส่งเสริมศักยภาพของบุคลากรไทย ทักษะการศึกษายุคอุตสาหกรรม 4.0 สู่ไทยแลนด์ 4.0 และมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้พลังงานสะอาดและเพิ่มประสิทธิภาพเพื่ออนาคตที่ดีกว่า ให้นักศึกษาได้เปิดโลกทัศน์ซึ่งไม่เพียงเข้ามาเรียนรู้เท่านั้น แต่ส่งเสริมเยาวชนได้มีการคิดวิเคราะห์และดัดแปลง ต่อยอดองค์ความรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง...จากรุ่นสู่รุ่น
          ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การศึกษาในอนาคตจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน โดยนักศึกษาในวันนี้อีกไม่กี่ปีก็เข้าสู่ตลาดแรงงาน ต้องเผชิญกับแรงกดดัน ความท้าทาย เพราะฉะนั้นเพื่อเตรียมบุคลากรสำหรับอนาคต การศึกษาต้องตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยการศึกษาที่ว่านั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงการศึกษาที่จัดขึ้นเฉพาะบุคคล สามารถดึงจุดเด่น ความเก่งของแต่ละคนออกมา (bring the best in one's talents) ต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมทางดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงเร็ว (information climates) ความรู้จะไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเอามาใช้ไม่เป็น ต้องเข้ากันได้กับระบบเดิม ต้องมีต้นทุนต่ำ (cost effective) และ ต้องเชื่อมโยงกับการพัฒนาความเจริญของมนุษย์ เช่น เรื่องการเมือง เศรษฐศาสตร์ ศาสนา สาธารณสุข ไม่เพียงเท่านี้ กรอบความคิดของบุคลากรก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย อาทิ การให้ความสำคัญกับทักษะ (skill) มากกว่าเนื้อหา (content) , กระบวนการเรียนรู้มีความสำคัญมากกว่าหลักสูตร, บูรณาการความรู้กับชีวิตและการใช้ประโยชน์มีความสำคัญกว่าใบปริญญา, คิด สร้างสรรค์ วิเคราะห์และสังเคราะห์ได้ มีความสำคัญมากกว่าการท่องจำ และที่สำคัญคือ เทคโนโลยีช่วยการเรียนรู้และพัฒนา มีความสำคัญกว่าการเรียนในห้อง ดังนั้น ""สมาร์ทแล็บแห่งอนาคตและห้องเรียนอัจฉริยะ (Delta Industrial Automation SMART Laboratory)"" จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การศึกษาในอนาคตได้เป็นอย่างดี เพราะนักศึกษาจะได้ฝึกการทำจริงมากกว่าแค่การท่องจำ 
          ในงานนี้ได้จัดเสวนาพิเศษ เรื่อง ""Automation เพื่อนวัตกรรมอาหารและเกษตร 4.0""โดย คุณเกษมสันต์ เครือธร ผจก.ภาคพื้นอาวุโสฝ่ายอินดัสเทรียล ออโตเมชั่น บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญสำหรับกระบวนการผลิตในโลกอนาคต คือ เทคโนโลยีออโตเมชัน หรือ Industrial Automation เป็นเทคโนโลยีที่ย้ายคนไปทำหน้าที่ควบคุมและบริหารข้อมูลที่ได้รับจากอุปกรณ์เครื่องจักรที่สื่อสารเชื่อมโยงกันได้ผ่านอินเตอร์เน็ตหรือไอโอทีสมาร์ทโฟน ทำให้เห็นภาพรวมว่าขณะนี้เครื่องจักรมีผลผลิตอย่างไร โรงงานใช้พลังงานไปเท่าไหร่ จุดไหนมีปัญหาที่ต้องแก้ไข เป็นต้น ระบบ Industrial Automation ประกอบด้วย 1.เครื่องจักรอัตโนมัติ (Automation Machine) 2.โรงงานอัตโนมัติ (Factory Automation) และ 3.กระบวนการผลิตอัตโนมัติ (Process Automation)32 สำหรับในสมาร์ทแล็บอัจฉริยะ แห่งนี้ ได้รับการออกแบบที่ก้าวล้ำด้วยเทคโนโลยี และเชื่อมต่อถึงกัน ประกอบด้วย 1.ชุดจำลองชุดขับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจำนวน 3 ชุด (Operator Panel หรือ HMI) 2.ชุดจำลองชุดขับมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับผ่านแคนบัสจำนวน 3 ชุด (PLC) 323.ชุดจำลองชุดขับมอเตอร์เซอร์โวผ่านแคนบัสจำนวน 3 ชุด (VFD/Servo) 4. ชุดจำลองชุดขับมอเตอร์เซอร์โวผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจำนวน 3 ชุด (Motor)32 สามารถนำอุปกรณ์ทั้งหมดมาเชื่อมโยงข้อมูลของภาพรวมระบบออโตเมชั่นที่สมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างจากห้องแล็บแบบเดิม ที่สอนแยกส่วนกัน
          ดร.พีรยุทธ์ ชาญเศรษฐิกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ความเจริญก้าวหน้าเพื่อยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมของไทยสู่ Industry 4.0 จำเป็นต้องรวมพลังภาครัฐ เอกชน และภาคการศึกษา เดลต้าฯเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของโลกด้านโซลูชั่นการจัดการพลังงาน ระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม ระบบแสดงผลครบวงจร และระบบเครือข่าย นวัตกรรมการวิจัย และการพัฒนาที่ทันสมัย สู่ความเป็นอุตสาหกรรม 4.0 ส่วนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นแหล่งรวมผู้เชียวชาญสาขาต่างๆและเป็นสถาบันการศึกษาที่บ่มเพาะบุคคลากรคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนปฎิรูปประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 จึงส่งเสริมให้นิสิตวิศวกรรมศาสตร์ สร้างสรรค์ประดิษฐ์ผลงานนวัตกรรมระบบอัตโนมัติ สร้างเสริมให้นิสิตในปัจจุบันที่จะเป็นวิศวกรในอนาคต สามารถสร้างสรรค์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมอย่างไร้ขีดจำกัด 
          ผศ.ดร.ชนะ รักษ์ศิริ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่าอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร มีความสำคัญยิ่งเนื่องด้วยการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก ทุกภาคส่วนจึงฝากความหวังไว้ที่การเกษตรและอาหาร ซี่งจำเป็นต้องผลิตได้พอเพียงกับความต้องการที่มากขึ้นตาม ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยอุตสาหกรรมการเกษตรและอาหารจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพื่อควบคุมผลผลิตทางการเกษตร ให้มีคุณภาพและสามารถผลิตได้อย่างยั่งยืน เทคโนโลยี Automation เป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในวงการเกษตรและอาหาร เพื่อลดแรงงานคน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและอัตราการผิดพลาดหรือความเสียหายลดลง ตัวอย่างเช่น เครื่องคัดแยกไข่เสียในตู้ฟักอัตโนมัติ, เครื่องคัดแยกเสาวรส ซึ่งต่อไปในอนาคตนวัตกรรมดังกล่าวจะเข้ามาไปส่วนสำคัญในทุกอุตสาหกรมของประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ยกตัวอย่าง เครื่องคัดแยกไข่เสียในตู้ฟักอัตโนมัติ (Non Hatched Smart Detection) มาจากการมองเห็นว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเนื้อไก่ที่สำคัญซึ่งสร้างรายได้แก่ประเทศมหาศาล แต่เกษตรกรยังขาดแคลนเทคโนโลยี ส่งผลให้ผลผลิตและคุณภาพยังไม่ดี ทั้งนี้หากใช้วิธีเดิมยกไข่ส่องกับไฟฉายด้วยสายตาในการคัดแยกไข่ จะขาดความแม่นยำที่จะทราบว่าไข่ใบใดเสียหายบ้าง ดังนั้นเราจึงสร้างเครื่องคัดแยกไข่เสียในตู้ฟักอัตโนมัติขึ้นมา โดยเมื่อนำไข่เข้าเครื่องตามปริมาณที่กำหนด เครื่องจะทำการประมวลผลภาพและคัดไข่ที่ไม่สามารถฟักออกมาให้อัตโนมัติอย่างแม่นยำ ลดข้อผิดพลาด ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรฟาร์มไก่มีผลกำไรมากขึ้นและเพิ่มคุณภาพของผลผลิต 
          ดร.ชมาพร เจียรบุตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นแหล่งผลิตผลเกษตรและอาหารที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก การพัฒนาการเกษตรและอาหาร 4.0 เพื่อให้ประเทศไทยกลายเป็นครัวโลกและ Hub ด้านอาหารและเกษตร พร้อมนำประเทศไปสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน คนไทยมีความกินดีอยู่ดี มีสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งพาตนเองได้ ในการผลิตและการตรวจสอบอาหารในบ้านเรายังใช้แรงงานคนอยู่มาก ความล่าช้าทำให้การตรวจสอบคุณภาพของสินค้าไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีและองค์ความรู้จะช่วยพัฒนาการเกษตรให้เป็นไปอย่างก้าวกระโดด ตัวอย่างเช่น นวัตกรรม เครื่องคัดแยกมะขามปนเปื้อนอัตโนมัติ (Non Hatched Smart Detection) ด้วยระบบรังสียูวีและการวิเคราะห์ภาพ เพื่อควบคุมคุณภาพของมะขามหวานให้ปราศจากสิ่งปนเปื้อนที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าและยากที่จะกำจัดออกได้ทั้งหมด มะขามในห้างสรรพสินค้าและส่งออกต่างประเทศอาจเจอปัญหาหนอนและแมลงเจริญเติบโตอยู่ภายในถุงบรรจุภัณฑ์ ดังนั้นเครื่องคัดแยกมะขามปนเปื้อนอัตโนมัติจึงถูกคิดค้นขึ้น โดยใช้วิธีการประมวลผลด้วยภาพบนระบบปฏิบัติการ Windows ช่วยให้การคัดแยกมะขามปนเปื้อนมีความแม่นยำมากขึ้น ช่วยให้สินค้าถูกการตีกลับน้อยลง และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับตัวสินค้าและบริษัท ห้องสมาร์ทแล็บและห้องเรียนอัจฉริยะจะเป็นขุมพลังสร้างเมคเกอร์และนักสร้างสรรค์ สร้างเสริมประเทศไทยให้เป็นฮับการเกษตรและอาหาร 4.0 ของภูมิภาคโลกในอนาคต
เดลต้าฯ จับมือ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดสมาร์ทแล็บแห่งอนาคตและห้องเรียนอัจฉริยะ  ขุมพลังของอาหารและการเกษตร 4.0
 
เดลต้าฯ จับมือ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดสมาร์ทแล็บแห่งอนาคตและห้องเรียนอัจฉริยะ  ขุมพลังของอาหารและการเกษตร 4.0
เดลต้าฯ จับมือ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดสมาร์ทแล็บแห่งอนาคตและห้องเรียนอัจฉริยะ  ขุมพลังของอาหารและการเกษตร 4.0
เดลต้าฯ จับมือ ม.เกษตรศาสตร์ เปิดสมาร์ทแล็บแห่งอนาคตและห้องเรียนอัจฉริยะ  ขุมพลังของอาหารและการเกษตร 4.0

ข่าวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์+เดลต้า อีเลคโทรนิคส์วันนี้

RUN เปิดนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม 24 ผลงาน ภายใต้ธีม "เศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่ออนาคตประเทศไทย" ในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568

โชว์ศักยภาพ ด้านนวัตกรรม ศิลปวัฒนธรรม ความยั่งยืน พร้อมเวทีเสวนา Soft Power ขับเคลื่อนอนาคตไทย เครือข่ายพันธมิตรมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย (RUN) ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดตัวนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้หัวข้อ "เศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่ออนาคตประเทศไทย" (Creative Economy for Thailand Tomorrow) ในงาน "มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2568" ณ

ศูนย์การค้าเมกาบางนา แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่... เมกาบางนา ส่งต่อวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 2,000 โดส ตอกย้ำการเป็น PET COMMUNITY — ศูนย์การค้าเมกาบางนา แหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันอ...

การประกวด 2025 HANSIK CONTEST IN THAILAND... "เวทีแห่งรสชาติ สไตล์ และกลิ่นหอม" — การประกวด 2025 HANSIK CONTEST IN THAILAND ซึ่งเป็นการผสมผสานอาหารเกาหลีและอาหารไทยอย่างสร้างสรรค์ ได้รับความสน...

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส... อ.อ.ป. ร่วมประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 20 (UNFF20) — กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยาก...

มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ผนึกกำลังมหาวิ... ราชภัฏรำไพฯ จับมือ ม.เกษตรฯ ยกระดับศักยภาพรอบด้าน สู่ความเป็นเลิศทางวิชาการและพัฒนาท้องถิ่น — มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ผนึกกำลังมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ส...