โดยไฮเซ่นส์จะซื้อหุ้นสัดส่วน 95% ของหุ้นทั้งหมด ของโตชิบา วิชวล โซลูชันส์ (ทีวีเอส) บริษัทลูกของโตชิบา คอร์ปอเรชัน ในราคา 12.9 พันล้านเยน ทำให้หุ้นที่โตชิบาถือในทีวีเอสลดลงเหลือ 5% การซื้อกิจการนี้ จะทำให้ไฮเซ่นส์ได้ธุรกิจทีวีเพิ่ม ทั้งการผลิต การวิจัยและพัฒนา และการขาย ในขณะที่ทีวีเอสได้สิทธิ์ในการใช้แบรนด์โตชิบาสำหรับสินค้าและบริการของทีวีเอสทั่วโลก ในระยะเวลา 40 ปี โดยร่วมกันพันธมิตรทางธุรกิจที่มีอยู่ในยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆ
ด้วยประวัติยาวนาน 142 ปี โตชิบาเป็นผู้นำเทคโนโลยีการแสดงภาพทั้งในญี่ปุ่นและในระดับโลก และแบรนด์โตชิบาเป็นแบรนด์ติดอันดับแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลก (Global Technology Brand List) และเป็นที่รู้จักดีในประเทศจีน ซึ่งลูกค้าสามารถจดจำได้แม้กระทั่งเนื้อเพลงในโฆษณาโตชิบาสมัยก่อน ทีวีเอส ดำเนินธุรกิจโทรทัศน์ของโตชิบา และธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การแสดงภาพสำหรับการค้าและการโฆษณา โดยมีโรงงานสองแห่งในญี่ปุ่น มีพนักงานวิจัยและพัฒนาหลายร้อยคน รวมทั้งยังมีทรัพย์สินทางปัญญาทางด้านธุรกิจโทรทัศน์ เช่น สิทธิบัตรทางด้านคุณภาพของภาพโทรทัศน์และระบบเสียง
นายหลิวหงซิน ประธานกลุ่มบริษัทไฮเซ่นส์ กล่าวว่า ไฮเซ่นส์จะได้ประโยชน์จากทรัพยากรของทีวีเอส ทั้งทางด้านวิจัยและพัฒนา ห่วงโซ่อุปทาน และช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วโลก โดยไฮเซ่นส์และทีวีเอส จะร่วมมือและสนับสนุนกันและกันในด้านเทคโนโลยีการแสดงภาพ เพื่อร่วมกันแข่งขันให้บริการเนื้อหาสำหรับสมาร์ททีวีในตลาดโลก และรักษาการเติบโตที่ต่อเนื่องและรวดเร็วในตลาดญี่ปุ่น
จากข้อมูลที่รวบรวมโดย IHS ยอดขายของโทรทัศน์โตชิบาสูงเป็นอันดับ 3 ในตลาดญี่ปุ่นในปี 2559 ในขณะที่โทรทัศน์ไฮเซ่นส์มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดสำหรับแบรนด์ต่างชาติในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อไฮเซ่นส์ได้ซื้อกิจการทีวีเอสแล้ว ส่วนแบ่งการตลาดจะเป็น 20% ทำให้สามารถตั้งเป้าหมายได้เป็นผู้นำอันดับ 2 ของตลาดญี่ปุ่น ส่วนในตลาดโลก IHS รายงานว่าโทรทัศน์สีของไฮเซ่นส์อยู่ในอันดับ 3
ไฮเซ่นส์เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในประเทศจีนนานถึง 13 ปีต่อกัน และดำเนินกลยุทธ์ระดับโลกโดยเป็นผู้สนับสนุนงานกีฬาชั้นนำ เช่น การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 (UEFA Euro 2016), และฟุตบอลโลก ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2018 การซื้อกิจการนี้จะทำให้ไฮเซ่นส์สามารถพัฒนาและขยายธุรกิจโทรทัศน์ในตลาดโลก ทั้งทางด้านการวิจัยและพัฒนา แบรนด์ และการตลาด ภายใต้หลายแบรนด์ ส่วนการร่วมมือกันของไฮเซ่นส์และโตชิบาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการโทรทัศน์
โทรทัศน์ไฮเซ่นส์ เข้าตลาดไทยในปี 2559 โดยชูเทคโนโลยีสมัยใหม่และการออกแบบ รวมทั้งคุณภาพสินค้า และการบริการหลังการขายถึงที่ในระดับพรีเมียมนาน 3 ปี โดยวางจำหน่ายในพาวเวอร์บาย และเทสโก้ โลตัส ส่วนในอนาคต ไฮเซ่นส์วางแผนจะเข้าช่องทางโมเดิร์นเทรดทั้งหมดในช่วงฟุตบอลโลก ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2018
บลจ.จิตตะ เวลธ์ คว้ารางวัลจาก ก.ล.ต. ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ย้ำภารกิจสร้างความมั่งคั่งให้คนไทยด้วยความรู้และเทคโนโลยี
NTF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ วันแรก ปิดท้ายปลายปี
MSC ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ระดับ AA ประจำปี 2568
WINMED ลุย! ให้บริการนวัตกรรมด้านสุขภาพเพื่อคนไทย
SO คว้า SET ESG Ratings ปี 68 ระดับ "BBB" พร้อมมุ่งมั่นสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน
TBN เดินหน้าธุรกิจตามหลัก ESG คว้า SET ESG Ratings ระดับ "A" ประจำปี 2568 ตอกย้ำผู้นำดิจิทัลโซลูชันที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป คว้าอันดับ "A" ในการประเมิน SET ESG Ratings 2025