ไอเอฟเอส ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกด้านแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กร เปิดเผยผลการสำรวจการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Change Survey) ในอุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ โดยจากการศึกษาพบว่าภาคการบินมีความก้าวหน้าในด้านการใช้ประโยชน์จากการแปรรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัลมากกว่าอุตสาหกรรมหลักอื่นๆ ที่เข้าร่วมทำแบบสำรวจ และระบบการทำงานอัตโนมัติถูกระบุว่าเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรมแห่งนี้ การซ่อมบำรุงโดยที่ไม่ได้วางแผนไว้ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นความท้าทายสูงสุดที่ส่งผลกระทบต่อความพร้อมในการให้บริการของสายการบิน ซึ่งเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริงหรือเออาร์ (Augmented Reality: AR) ถูกระบุว่าเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่สามารถใช้รับมือกับปัญหานี้ได้
ข้อมูลสำคัญที่ได้จากการสำรวจในครั้งนี้ ได้แก่
เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรระบุว่าความพร้อมในการปฏิบัติงานถือเป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรม โดยเกือบครึ่งหนึ่งระบุว่าการซ่อมบำรุงโดยที่ไม่ได้มีการวางแผนไว้และการปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ขององค์กร
นอกจากนี้จำนวนบริษัทที่ตอบแบบสำรวจมากกว่า 3 ใน 4 (77 เปอร์เซ็นต์) เชื่อว่าเทคโนโลยี AR สามารถช่วยลดผลกระทบจากการซ่อมบำรุงที่ไม่ได้วางแผนไว้ผ่านการสนับสนุนช่วยเหลือจากระยะไกลและการถ่ายโอนความรู้ในลักษณะหนึ่ง (คน) ต่อกลุ่มได้
ระบบการทำงานอัตโนมัติ (Automation) ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) หุ่นยนต์ (Robotics) เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริง หรือ เออาร์ (Augmented Reality: AR) และอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ หรือไอโอที (Internet of Things: IoT) ติด 5 อันดับแรกของเทคโนโลยีที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรม
โดยอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (39 เปอร์เซ็นต์) การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (39 เปอร์เซ็นต์) ปัญญาประดิษฐ์ (37 เปอร์เซ็นต์) การวางแผนทรัพยากรขององค์กร (อีอาร์พี) (33 เปอร์เซ็นต์) รวมถึงแอพพลิเคชั่นและระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ (31 เปอร์เซ็นต์) ถูกระบุว่าเป็นเทคโนโลยีที่องค์กรควรลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ บริษัทด้านการบินพาณิชย์ 44 เปอร์เซ็นต์ที่เข้าร่วมการสำรวจยังระบุด้วยบริษัทมีความก้าวหน้าในการใช้ประโยชน์จากดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่นมากกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เข้าร่วมทำแบบสำรวจในครั้งนี้ ได้แก่ การก่อสร้างและการรับเหมา (39 เปอร์เซ็นต์) การผลิต (29 เปอร์เซ็นต์) การบริการ (23 เปอร์เซ็นต์) และน้ำมันและก๊าซ (19 เปอร์เซ็นต์) เมื่อถามว่าเทคโนโลยีใดที่อยู่เบื้องหลัง ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ผู้ตอบแบบสำรวจจัดอับดับให้ระบบการทำงานอัตโนมัติเป็นเทคโนโลยีที่สร้างการเปลี่ยนแปลงสูงสุด ตามมาด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ หุ่นยนต์ เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริง และอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์
เกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่าความพร้อมในการปฏิบัติงานเป็นสิ่งที่มีความท้าทายสูงสุดในอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ โดย 68 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและ 46 เปอร์เซ็นต์ในภูมิภาคอเมริกาเหนือระบุว่าสิ่งนี้เป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพวกเขา ขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจในสัดส่วนที่ไม่ถึงครึ่งได้จัดอันดับให้การซ่อมบำรุงที่ไม่ได้วางแผนไว้และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (ทั้งสองอย่างได้คะแนน 47 เปอร์เซ็นต์) สร้างผลกระทบอย่างมากต่อความพร้อมในการปฏิบัติงาน ซึ่งตามมาด้วยข้อจำกัดด้านสัญญา (43 เปอร์เซ็นต์)
เมื่อพิจารณาถึงแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ 77 เปอร์เซ็นต์ของผู้เชี่ยวชาญด้านการบินกล่าวว่าเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริงจะช่วยให้ทีมงานด้านเทคนิคสามารถเข้าช่วยเหลือการซ่อมบำรุงที่ไม่ได้วางแผนได้ดียิ่งขึ้น โดยบริษัทด้านการบินซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ (65 เปอร์เซ็นต์) และภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EMEA) (67 เปอร์เซ็นต์) กล่าวว่าการสนับสนุนจากระยะไกลผ่านเทคโนโลยี เช่น เออาร์ อาจมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการมีวิศวกรประจำอยู่ที่ไซต์งาน แต่กระนั้นก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีการแทนที่ทีมวิศวกรในพื้นที่ทั้งหมดภายในอีกสิบปีข้างหน้านี้ ซึ่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเห็นด้วยในประเด็นนี้ถึง 53 เปอร์เซ็นต์
เมื่อถามเรื่องการลงทุน เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ได้รับการจัดอันดับสูงสุด โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจให้คะแนนทั้งสองรายการนี้เท่ากัน นั่นคือ 39 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ 1 ใน 3 ของผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน (33 เปอร์เซ็นต์) ระบุว่า อีอาร์พี ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งด้วย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (37 เปอร์เซ็นต์) รวมถึงแอพพลิเคชั่นและระบบคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่ (31 เปอร์เซ็นต์) ด้วยที่ติดกลุ่มห้าอับดับแรกของเทคโนโลยีที่ควรลงทุน
"อุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ได้รับการจัดอับดับว่าเป็นแนวหน้าด้าน ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่สายการบินจะต้องการระบบการทำงานอัตโนมัติและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอื่นๆ เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาที่สำคัญต่างๆ" นายแกรแฮม โกรส รองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมของหน่วยธุรกิจด้านการบินและยุทโธปกรณ์การรบ บริษัท ไอเอฟเอส กล่าว และว่า "เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับกรณีที่เกิดปัญหาการซ่อมบำรุงนอกกำหนดการ โดยหลายกรณีอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะส่งคนลงไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่เกิดปัญหาซึ่งมีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในจำนวนจำกัด ซึ่งแทนที่จะส่งทีมวิศวกรไปแก้ปัญหาดังกล่าว เทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกจริงจะเปิดโอกาสให้องค์กรสามารถถ่ายโอนความรู้ในลักษณะหนึ่งต่อกลุ่มได้อย่างเห็นผล ซึ่งจะช่วยให้เครื่องบินสามารถกลับมาพร้อมให้บริการได้อย่างรวดเร็วและช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนวิศวกรซ่อมบำรุงในอุตสาหกรรมนี้ได้ด้วย"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่ไอเอฟเอสให้การสนับสนุนบริษัทต่างๆ ในภาคการบินและยุทโธปกรณ์การรบ โปรดดูที่เว็บไซต์ www.ifsworld.com/corp/industries/aviation-and-defense/.
AnyMind Group คว้ารางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศจากงาน SMARTIES(TM) Thailand 2025
"ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ชูแนวคิด SF6-free เปลี่ยนผ่านสู่โครงข่ายไฟฟ้าอนาคตด้วย Pure Air บนเวทีสัมมนา IEEE Towards a Sustainable Grid
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชูแนวคิด "Homes of the Future" ด้วยผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ตอบโจทย์บ้านแห่งอนาคต สร้าง "ชุมชนช่างไฟชไนเดอร์" ตอกย้ำกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค หนุน PEA จัดงานวิ่งมินิมาราธอน 2025 ชูแนวคิด "Digital green grid one step for the better energy"
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับของ Gartner(R) Top 25 Supply Chain เป็นปีที่สามติดต่อกัน
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ชวนผู้ประกอบการไทยก้าวสู่การเป็น Impact Maker ปั้นโรงงาน ผลิตน้ำตาลอัจฉริยะที่ยั่งยืน ใน "ชูการ์เร็ก ไทยแลนด์ 2025" ครั้งใหญ่แห่งเอเชีย
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดตัว "Miluz E" สวิตช์-เต้ารับซีรีส์ใหม่ ดีไซน์น้อยแต่มากฟังก์ชั่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน คุ้มค่า คุ้มราคา
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เผยความคืบหน้าเป้าหมายด้านความยั่งยืนในไตรมาส 2 ปี 2568 ประสบความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญ
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดเวที Innovation Talk แนะใช้นวัตกรรมโซลูชั่นจัดการพลังงานพลิกโฉมวงการเฮลท์แคร์สู่ความยั่งยืน ตอบรับนโยบาย พ.ร.บ.โลกร้อน