มีคำพูดที่ว่า อยากเปลี่ยนชีวิตให้วิ่งมาราธอน การวิ่งระยะมาราธอน 42.195 กิโล เป็นการวิ่งที่ฝืนขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ ที่นักวิ่งหลายคนอยากเอาชนะ และลิ้มรสความสำเร็จนี้สักครั้งในชีวิต แต่คงไม่สนุกแน่ หากวิ่งแล้วบาดเจ็บอยู่กลางสนามไร้ความช่วยเหลือ ในการวิ่งระยะมาราธอนนี้ เป็นระยะที่พบอัตราการบาดเจ็บสูงสุดกว่าระยะอื่นๆ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญมาเป็นอันดับหนึ่งคือทีมแพทย์ ซึ่งงานวิ่งมาราธอน บางแสน 42 เป็นงานวิ่งระยะมาราธอนระยะเดียว จะเผยการเตรียมความพร้อมของทีมแพทย์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก
นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด และRace Director งานวิ่งมาราธอน บางแสน42 ได้ทาบทาม นพ. ภัทรภณ อติเมธิน หรือที่นักวิ่งต่างรู้จักกันดีในนาม "หมอแป๊บ" มาเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ (Medical Director) เพื่อวางแผนและให้บริการทางการแพทย์ กับนักวิ่งในงานวิ่งมาราธอน บางแสน42 ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ณ ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี
"งานวิ่งมาราธอน บางแสน42 เป็นงานที่ตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ของวงการวิ่งไทยให้เป็นงานวิ่งที่ได้มาตรฐานระดับโลก เทียบเคียงกับสนามนานาชาติ ซึ่งหนึ่งในหัวใจหลักสู่การเป็นสนามวิ่งที่ได้มาตรฐานระดับโลก คือ การบริการทางการแพทย์ ที่ได้มาตรฐานตามที่ IAAF กำหนด ผมจึงได้ทาบทามหมอแป๊บ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู และเป็นคุณหมอที่เป็นนักวิ่ง ย่อมเข้าใจดีว่านักวิ่งต้องการอะไร และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวิ่งในระยะมาราธอน นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครที่เป็นทีมแพทย์ พยาบาล และนักวิ่ง จำนวน 109 คน เข้าร่วมเป็นกำลังเสริม โดยไมซ์ ได้จัดอบรมทีมอาสาสมัคร จำนวน 2 ครั้ง เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและลงพื้นที่จริงก่อนถึงวันจัดงาน พร้อมทั้ง ยังส่งพนักงานไมซ์ทุกคนเข้าอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) ให้พร้อมช่วยเหลือในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน โดยงานวิ่งบางแสน42 ได้เตรียมเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า (AED) ไว้มากถึง 20 เครื่องอีกด้วย" นายรัฐ กล่าว
นพ. ภัทรภณ อติเมธิน หรือหมอแป๊บ Medical Director ของงาน บางแสน42 เผยว่า ในฐานะที่เป็นหมอและเป็นนักวิ่ง ดีใจที่จะได้มีส่วนร่วมสร้างมาตรฐานการดูแลทางการแพทย์ที่ดีให้กับสนามวิ่งไทยเทียบเท่ากับสนามวิ่งระดับโลก เพื่อรองรับนักวิ่งมาราธอนจำนวน 6,000 คน ที่จะมาร่วมงานวิ่งมาราธอน บางแสน42 โดยได้วางแผนทางการแพทย์ ตามมาตรฐานที่ทาง IAAF กำหนด ซึ่งจะมีจุดปฐมพยาบาลจำนวน 9 จุด โดยมีศูนย์ประสานงานทีมแพทย์หลัก หลังเส้นชัย 1 จุด ที่เรียกว่า Mini Hospital เพื่อคัดกรองอาการบาดเจ็บ และ ภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ของนักวิ่ง ก่อนส่งโรงพยาบาลให้ทันท่วงที และมีจุดปฐมพยาบาลตลอดเส้นทางวิ่งทุกๆ 5 กิโลอีก 8 จุด มีการจัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย แพทย์ 2-3 คน ต่อจำนวนนักวิ่ง 1,000 คน และพยาบาล 4-6 คน ต่อจำนวนนักวิ่ง 1,000 คน ซึ่งงานบางแสน42 มีทีมแพทย์ทั้งสิ้น 19 คน พร้อมทั้งพยาบาลอีก 36 คน นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเจ้าหน้าที่กู้ชีพฉุกเฉิน 36 คน อาสาสมัคร 54 คน ทีมนักกายภาพบำบัด และแพทย์แผนไทยอีกกว่า 100 คน
"งานวิ่งมาราธอน บางแสน42 จะเป็นงานวิ่งแรกในประเทศไทย ที่มีทีมแพทย์ตามมาตรฐานระดับโลกกำหนดไว้ และยังเป็นงานแรกที่จุดปฐมพยาบาลศูนย์ประสานงานหลักหลังเส้นชัย จะเป็นเหมือนโรงพยาบาลเคลื่อนที่ (Mini Hospital) สามารถให้บริการเจาะเลือด ตรวจเลือด หรือเอกซ์เรย์ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลในลำดับต่อไป นอกจากนี้ ในระหว่างเส้นทางวิ่ง จะมีทีมอาสาสมัครร่วมวิ่งไปกับนักวิ่ง และปั่นจักรยานดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทาง พร้อมช่วยเหลือเบื้องต้นและประสานงานกับรถพยาบาลเพื่อนำส่งผู้ป่วยให้ถึงมือแพทย์โดยเร็วที่สุด นักวิ่งจึงมั่นใจได้หากเกิดเหตุฉุกเฉินในระหว่างการวิ่ง ซึ่งทีมแพทย์ไม่เพียงแต่บริการนักวิ่งเท่านั้น ยังให้บริการครอบคลุมถึงผู้เข้าชมงานวิ่งทุกท่านอีกด้วย"
สำหรับอาการที่พบเจอบ่อยที่สุดในการวิ่งระยะมาราธอน คือ อาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะการบาดเจ็บหัวเข่า จากการใช้งานหนักและยาวนานจากการวิ่งมาราธอน และการเป็นตะคริว อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเตรียมตัวมาไม่ดีพอของนักวิ่ง หรือการออกตัวแรงและเร็วกว่าแผนวิ่งที่เตรียมไว้เนื่องจากบรรยากาศในงานวิ่งพาไป ส่วนอาการที่พบน้อยแต่ยังพบเจออยู่บ้าง คือ อาการเป็นลม หมดสติ หัวใจวาย ทั้งจากผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่เดิม และไม่พบประวัติมีปัญหาสุขภาพใดๆ คำแนะนำสำหรับนักวิ่ง คือ ตรวจสุขภาพให้พร้อม เช็คประวัติอาการป่วยของครอบครัว และเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด คือ การตรวจอัตราการเต้นของหัวใจโดยการวิ่งบนสายพาน เพื่อเช็คว่าหัวใจเต้นเป็นปกติหรือไม่ เมื่อออกกำลังกายหนัก
"มีคำกล่าวของ IAFF ที่บอกว่า การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นหน้าที่ของนักวิ่ง ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยของนักวิ่งเอง เบื้องต้นนักวิ่งควรดูแลตัวเอง เตรียมตัวมาให้พร้อมสำหรับการวิ่งมาราธอน นอกเหนือจากนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมแพทย์ ซึ่งงานวิ่งมาราธอน บางแสน42 นี้ นักวิ่งสามารถวางใจได้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน ทีมแพทย์พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ" หมอแป๊บ กล่าว
นอกจากนี้ งานบางแสน42 ยังมีการทำประกันอุบัติเหตุ วงเงินรักษาพยาบาล 100,000 บาท ให้กับนักวิ่งทุกคน
ติดตามความเคลื่อนไหวของงาน บางแสน42 ได้ที่ www.bangsaen42.com และ www.facebook.com/BANGSAEN42 และ Official Line @BANGSAEN42
ต่อจากนี้ คำพูดของนักวิ่งที่ว่า "วิ่งเหนื่อยแล้ว หารูปงานวิ่งเหนื่อยยิ่งกว่า" จะหมดไป บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้จัดงานวิ่งมาตรฐานระดับโลกที่สร้างความประทับใจให้กับนักวิ่งไทยจนได้รับการโหวตว่าเป็นงานวิ่งที่ดีที่สุด ได้นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการค้นหาภาพงานวิ่ง ระบบ "Face Search" ที่พัฒนาโดย ThaiRun มาใช้ในงานวิ่งของไมซ์ พร้อมเปิดใช้งานครั้งแรกในงานวิ่งมาราธอนบางแสน42 ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ณ ชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ
จากไทยสู่ชิงเต่า! ไฮเออร์หนุนทีมนักวิ่งไทยลุยเวทีระดับโลก Haier 2025 Qingdao Marathon พร้อมร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลอง 50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน
—
ไฮเออร์ (ประเทศไทย)...
นำทัพนักวิ่งไทยร่วมวิ่ง Maybank Bali Marathon 2022
—
คุณณัฐินีฐิติ ภิญญาปิญชาน์ ผู้แทนการท่องเที่ยวอินโดนีเซียประจำประเทศไทย กระทรวงท่องเที่ยวและเศรษฐกิ...
สำเร็จท่วมท้น นักวิ่งยกบางแสน 42 งานวิ่งอันดับ1เมืองไทย
—
บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ร่วมมือกับ จังหวัดชลบุรี โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุร...
ภาพข่าว: นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด รับรางวัล Asia Pacific Entrepreneurship Awards 2018
—
นายรัฐ จิโรจน...
ไมซ์ รับรางวัลผู้จัดงานวิ่งอันดับหนึ่งในไทย
—
สร้างกระแสฮือฮาให้กับวงการวิ่งอีกครั้ง สำหรับ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด ผู้จัดงานวิ่งมา...
ภาพข่าว: ไมซ์ผนึกโว้กชวนสาวๆ รวมพลังร่วมงานวิ่งหญิงล้วน Bangkok Women’s Run in partnership with VOGUE
—
คุณรัฐ จิโรจน์วณิชชากร (กลาง) กรรมการผู้จัดการ บริ...