สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคใต้หลังน้ำลดลงต้องระวังป่วยด้วยโรคฉี่หนู โดยเฉพาะการเดินลุยน้ำย่ำโคลน ถ้ามีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะที่น่องและโคนขา
อย่าซื้อยากินเอง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็วและแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกสะอาด เพื่อป้องกัน
พญ.ศิริลักษณ์ ไทยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาน้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในช่วงน้ำลดนี้ประชาชนต้องระมัดระวังโรคเลปโตสไปโรสิสหรือโรคฉี่หนู ซึ่งเชื้อจะมากับปัสสาวะสัตว์นำโรคและปนเปื้อนมากับน้ำท่วมขัง หรือทางเดินชื้นแฉะ โดยเชื้ออาจอยู่ตามบริเวณดังกล่าวได้ เชื้อโรคชนิดนี้จะสามารถเข้าทางบาดแผล หรือตามรอยถลอก รวมถึงผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานานได้ จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของกลุ่มระบาดวิทยาและข่าวกรอง สคร.11 พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 12 ธันวาคม 2560 พบผู้ป่วยโรคฉี่หนู 506 ราย เสียชีวิตแล้ว 20 ราย เป็นเพศชาย 17 ราย เพศหญิง 3 ราย จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช จำนวน 8 ราย รองลงมา สุราษฎร์ธานี จำนวน 5 ราย ระนอง จำนวน 3 รายกระบี่ 2 ราย ชุมพรและภูเก็ตจังหวัดละ 1 ราย ปัจจัยเสี่ยงของผู้เสียชีวิต พบว่าเข้ารับการรักษาล่าช้าเกิน 3 วัน
มีบาดแผลที่เท้า ลงแช่น้ำน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติมากกว่า 6 ชั่วโมง และเดินย่ำน้ำในพื้นที่ชื่นแฉะโดยไม่สวมรองเท้า
พญ.ศิริลักษณ์ กล่าวเพิ่ม สำหรับอาการของโรคฉี่หนู จะเริ่มจากมีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว โดยเฉพาะที่น่องและโคนขาจะปวดมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย และตาแดง เป็นต้น หากมีอาการดังกล่าว ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว อย่าซื้อยามากินเอง เพราะอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นได้ ที่สำคัญขอให้แจ้งประวัติการเดินลุยน้ำให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อการรักษาได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว หากรักษาล่าช้า อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน ไตวาย ตับวาย เลือดออกในปอด อาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นให้ปฏิบัติตนเพื่อป้องกันโรคฉี่หนู ดังนี้ 1.หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ
ย่ำโคลนที่ชื้นแฉะเป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องเดินลุยควรสวมรองเท้าบู๊ทหรือถุงพลาสติกสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำหรือดินโดยตรง 2.ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีแผลที่เท้าและไม่รู้สึกเจ็บ มีโอกาสเสี่ยงติดโรคสูง 3.หากมีบาดแผลที่เท้าหรือที่บริเวณขา ขอให้ใช้ถุงพลาสติกหรือวัสดุที่กันน้ำได้ห่อหุ้มขาและเท้าเพื่อป้องกันน้ำเปียกแผล 4.หมั่นล้างมือบ่อยๆ อาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังจากเสร็จจากการทำงาน และ 5.การเข้าบ้านหลังน้ำลด ต้องกำจัดขยะในบ้านเรือน โดยเฉพาะเศษอาหาร เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของหนูได้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422
สคร.12 สงขลา เตือน โรคพิษสุนัขบ้า ติดเชื้อถึงตาย แนะ หากถูกสุนัขกัดให้รีบไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
สคร.12 สงขลา ชวนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อป้องกัน โรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องในวันหัวใจโลก 2568
สคร.12 สงขลา เตือนผู้ปกครอง ระวังบุตรหลาน ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV)
ลุยน้ำ ย่ำโคลน เสี่ยง เลปโตสไปโรสิส (โรคไข้ฉี่หนู) สคร. 12 สงขลา เตือน มีไข้ ปวดน่อง อย่าซื้อยาทานเอง ให้รีบพบแพทย์
สคร.12 สงขลา เตือนโรคไข้เลือดออกอันตรายในช่วงหน้าฝน แนะสังเกตอาการบุตรหลาน หากสงสัยป่วยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยากินเอง ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที
สคร.12 สงขลา แนะวิธีปฏิบัติให้ปลอดภัยจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พร้อมแนะให้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรค มือ เท้า ปาก พบบ่อยในเด็กเล็ก
สคร.12 สงขลา เตือน ระวังป่วยโรคเมลิออยโดสิส เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์วันไข้เลือดออกอาเซียน 2568 อาเซียนร่วมใจ สร้างอนาคตปลอดภัย ไม่ป่วยตายด้วยไข้เลือดออก