สภาวะตลาดวันที่ 06 ธันวาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,263.86-1,269.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ17 อยู่ที่ 19,660 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 140 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 06/12/60)
แนวโน้มวันที่ 07 ธันวาคม 2560
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะพิจารณารับรองกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และเตรียมย้ายสถานทูตสหรัฐจากกรุงเทลอาวิไปเยรูซาเลม ประเด็นดังกล่าวจะสร้างความขัดแย้งกับชาติมุสลิมในกลุ่มตะวันออก ประกอบกับความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐจะปิดทำการในวันศุกร์นี้ ถ้าหากสมาชิกสภานิติบัญญัติไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องงบประมาณในสัปดาห์นี้ได้ นอกจากนี้นักลงทุนจับตา กรณี นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเตรียมที่จะให้การต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า นายทรัมป์เคยสั่งให้เขาติดต่อกับชาวรัสเซีย ในช่วงที่นายทรัมป์หาเสียงเลือกตั้งในปีที่ 2559 สำหรับการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ประเด็นดังกล่าวอาจหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นบ้าง อย่างไรก็ตามราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่มาก เพราะหากมีการบรรลุข้อตกลงปรับลดภาษีได้ก่อนสิ้นปีนี้ จะส่งผลบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์และกระตุ้นความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนทั่วโลก จนกลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง ประกอบกับสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง แม้ว่าเศรษฐกิจยุโรปและผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปปรับสูงขึ้น แต่นักลงทุนกังวลชะลอการเข้าซื้อสกุลเงินยูโร เพราะมีความไม่แน่นอนในเรื่องการกำหนดเวลาและขอบเขตของการปรับกฎระเบียบใหม่ที่ร่างโดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2561 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบการเงินของยุโรป โดยธนาคารพาณิชย์อาจต้องกันสำรองเงินสดมากยิ่งขึ้นเพื่อนำมาชดเชยหนี้เสีย โดยมาตรการนี้จะส่งผลให้ธนาคารที่มีสถานะอ่อนแอต้องขอระดมทุนจากผู้ถือหุ้น ทั้งนี้แนะนำดูสถานการณ์แบบวันต่อวัน โดยเฉพาะเหตุการณ์ทางสหรัฐแนะนำติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งการปรับขึ้นของราคาทองคำอาจได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้น ราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,272-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับแรก นักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับถัดไปไว้ที่ 1,251 หรือ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนซื้อขายในระยะสั้น ส่วนนักลงทุนระยะยาวคงต้องรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำแล้วจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,260 (19,400บาท) 1,251 (19,250บาท) 1,242 (19,100บาท)
แนวต้าน 1,276 (19,700บาท) 1,285 (19,850บาท) 1,296 (20,000บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,260 (19,530บาท) 1,251 (19,390บาท) 1,242 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,276 (19,790บาท) 1,285 (19,930บาท) 1,296 (20,100บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 06/12/60)
แนวโน้มวันที่ 07 ธันวาคม 2560
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ จะพิจารณารับรองกรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และเตรียมย้ายสถานทูตสหรัฐจากกรุงเทลอาวิไปเยรูซาเลม ประเด็นดังกล่าวจะสร้างความขัดแย้งกับชาติมุสลิมในกลุ่มตะวันออก ประกอบกับความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มที่หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐจะปิดทำการในวันศุกร์นี้ ถ้าหากสมาชิกสภานิติบัญญัติไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องงบประมาณในสัปดาห์นี้ได้ นอกจากนี้นักลงทุนจับตา กรณี นายไมเคิล ฟลินน์ อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐเตรียมที่จะให้การต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า นายทรัมป์เคยสั่งให้เขาติดต่อกับชาวรัสเซีย ในช่วงที่นายทรัมป์หาเสียงเลือกตั้งในปีที่ 2559 สำหรับการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ประเด็นดังกล่าวอาจหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นบ้าง อย่างไรก็ตามราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่มาก เพราะหากมีการบรรลุข้อตกลงปรับลดภาษีได้ก่อนสิ้นปีนี้ จะส่งผลบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์และกระตุ้นความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนทั่วโลก จนกลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง ประกอบกับสกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง แม้ว่าเศรษฐกิจยุโรปและผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในยุโรปปรับสูงขึ้น แต่นักลงทุนกังวลชะลอการเข้าซื้อสกุลเงินยูโร เพราะมีความไม่แน่นอนในเรื่องการกำหนดเวลาและขอบเขตของการปรับกฎระเบียบใหม่ที่ร่างโดยธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2561 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ระบบการเงินของยุโรป โดยธนาคารพาณิชย์อาจต้องกันสำรองเงินสดมากยิ่งขึ้นเพื่อนำมาชดเชยหนี้เสีย โดยมาตรการนี้จะส่งผลให้ธนาคารที่มีสถานะอ่อนแอต้องขอระดมทุนจากผู้ถือหุ้น ทั้งนี้แนะนำดูสถานการณ์แบบวันต่อวัน โดยเฉพาะเหตุการณ์ทางสหรัฐแนะนำติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งการปรับขึ้นของราคาทองคำอาจได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ในระยะสั้น ราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,272-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับแรก นักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับถัดไปไว้ที่ 1,251 หรือ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนซื้อขายในระยะสั้น ส่วนนักลงทุนระยะยาวคงต้องรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำแล้วจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,260 (19,400บาท) 1,251 (19,250บาท) 1,242 (19,100บาท)
แนวต้าน 1,276 (19,700บาท) 1,285 (19,850บาท) 1,296 (20,000บาท)
GOLD FUTURES (GFZ17)
แนวรับ 1,260 (19,530บาท) 1,251 (19,390บาท) 1,242 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,276 (19,790บาท) 1,285 (19,930บาท) 1,296 (20,100บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999