กยท. จับมือ กฟผ. สร้างมูลค่าไม้ยางพารา หนุนปลูกไม้โตเร็ว; ป้อนสู่เชื้อเพลิงการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวล หวังเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2560 การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการจัดหาวัตถุดิบจากเศษไม้ยางพาราและส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็ว เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าชีวมวลของ กฟผ. หวังเพิ่มทางเลือกพลังงาน และสร้างรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง
          นายธีรวัฒน์ เดชทองคำ รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ด้านธุรกิจและปฏิบัติการ เปิดเผยถึง การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ครั้งนี้ว่า กยท. ตระหนักและให้ความสำคัญในการเพิ่มมูลค่าให้กับยางพาราอย่างครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างรายได้และความมั่นคงให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ฉะนั้น การร่วมมือระหว่าง กยท. และ กฟผ. ในการจัดหาวัตถุดิบจากเศษไม้ยางพาราในสวนปลูกแทนและในพื้นที่ของเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. เพื่อนำวัตถุดิบเหล่านี้ใช้เป็นเชื้อเพลิงให้แก่โรงไฟฟ้าชีวมวลของ กฟผ. ซึ่งเป็นแนวทางในการเพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวสวนยางให้ดีขึ้นจากการขายไม้ยางพารา รวมทั้ง สนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยางปลูกไม้โตเร็ว 5 ชนิด ได้แก่ กระถินเทพณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ สนประดิพัทธ์ และยูคาลิปตัส ควบคู่ไปกับการทำสวนยาง โดยคำนึงถึงความหลากหลายทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะการปลูกไม้โตเร็ว สามารถนำไปแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงก้อนพลังงานอัดเม็ดหรือWood Pellet ป้อนโรงไฟฟ้าชีวมวล ขณะนี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดผู้รับซื้อเป็นจำนวนมาก จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงที่ไม่สามารถเก็บน้ำยางได้ ตลอดจนในช่วงที่ราคายางมีความผันผวน โครงการนี้ เกษตรกรในฐานะผู้ผลิตวัตถุดิบ สามารถบริหารจัดการพื้นที่ของตนเองให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเป็นการปลูกพืชเศรษฐกิจแบบผสมผสาน ที่จะช่วยสร้างรายได้แบบหมุนเวียน
          นายธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรชาวสวนยางที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับพันธุ์กล้าไม้โตเร็วทั้ง 5 ชนิดได้รับการสนับสนุนจาก กฟผ. และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในส่วนของ กยท. จะดำเนินการจัดหากลุ่มเป้าหมาย เพื่อเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีเกษตรกรจะสามารถตัดโค่น และขายไม้ให้กับโรงไฟฟ้าชีวมวลของ กฟผ. ได้ ซึ่งเบื้องต้นจะนำร่องรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ ในจังหวัดบึงกาฬเป็นแห่งแรก พื้นที่จำนวนทั้งสิ้น 6,500 ไร่ และจะขยายโครงการไปสู่พื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ
          "โรงไฟฟ้าชีวมวล นอกจากจะเป็นพลังงานทดแทนแล้วยังเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง และครอบครัว เพราะปัจจุบันตลาดมีความต้องการใช้ไม้ยางพารา และไม้ชนิดอื่นๆ สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมพลังงาน การปลูกไม้โตเร็วนั้นไม่ยาก สามารถปลูกได้พร้อมๆ กับปลูกยางพารา และสามารถตัดขายได้ ในช่วงระหว่างรอการเปิดกรีด" รองผู้ว่าการ กยท. กล่าวทิ้งท้าย
          นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตามที่ภาครัฐมีนโยบายปรับเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้สูงขึ้น ประกอบกับการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งตามแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว พ.ศ. 2558 – 2579 (Thailand Integrated Energy Blueprint : TIEB) นั้น ได้กำหนดให้มีการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยใช้เชื้อเพลิงชีวมวลจากพื้นที่ที่มีศักยภาพ ขณะเดียวกัน กฟผ. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โครงการอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงชีวมวล โดยเฉพาะไม้ยางพารา ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่มีปริมาณมากในประเทศไทย และเศษวัสดุเหลือใช้จากการแปรรูปไม้ยางพารา ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ประกอบกับ กยท. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่รับผิดชอบในการดูแลบริหารจัดการยางพาราในประเทศทั้งระบบอย่างครบวงจร จึงเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ มีเจตนาร่วมกันที่จะจัดทำโครงการจัดหาวัตถุดิบจากเศษไม้ยางพาราและส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็ว เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้แก่โรงไฟฟ้าชีวมวลของ กฟผ. ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
          "ทั้งสององค์กรจะร่วมกันจัดหาวัตถุดิบจากเศษไม้ยางพารา เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้แก่โรงไฟฟ้าชีวมวลของ กฟผ. ส่งเสริมและพัฒนาการปลูกไม้โตเร็ว จัดทำฐานข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ปลูกไม้ยางพารา และร่วมกันหาแนวทางในการเพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวสวนยางให้ดีขึ้น ตลอดจนส่งเสริมกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ในพื้นที่เป้าหมายของโครงการ" นายสหรัฐ กล่าวทิ้งท้าย
กยท. จับมือ กฟผ. สร้างมูลค่าไม้ยางพารา หนุนปลูกไม้โตเร็ว; ป้อนสู่เชื้อเพลิงการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวล หวังเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
 
กยท. จับมือ กฟผ. สร้างมูลค่าไม้ยางพารา หนุนปลูกไม้โตเร็ว; ป้อนสู่เชื้อเพลิงการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวล หวังเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
กยท. จับมือ กฟผ. สร้างมูลค่าไม้ยางพารา หนุนปลูกไม้โตเร็ว; ป้อนสู่เชื้อเพลิงการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวล หวังเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร
กยท. จับมือ กฟผ. สร้างมูลค่าไม้ยางพารา หนุนปลูกไม้โตเร็ว; ป้อนสู่เชื้อเพลิงการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวล หวังเพิ่มรายได้แก่เกษตรกร

ข่าวการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย+การยางแห่งประเทศไทยวันนี้

GUNKUL จับมือ กฟผ. คว้างานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500kV ต่อยอดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ EEC เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ลงนามสัญญากับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย.หรือ กฟผ. โครงการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500 กิโลโวลต์ (500kV) มูลค่ากว่า 675 ล้านบาท เชื่อมต่อจาก บางละมุง ถึง ปลวกแดง ขยายขีดความสามารถในการรองรับความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (EEC) ย้ำวิสัยทัศน์ใหม่ด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานต่อเนื่อง คุณนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ

บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เข้ารับมอ... ล็อกซเล่ย์ รับมอบใบประกาศเจตนารมณ์ ร่วมเครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน ปี 2568 — บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เข้ารับมอบใบประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลัง...

ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีปริมาณสูงจนเกิ... สวทช. - กฟผ. จับมือใช้ "ระบบตรวจวัดและจำแนกแหล่งกำเนิด PM2.5" หาต้นตอฝุ่นจิ๋ว — ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีปริมาณสูงจนเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะเขตภาคเหนือตอ...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยทั... ผนึกกำลัง 'กรมอนามัย-ภาคีเครือข่าย' สร้างสุขภาพช่องปากที่ดีให้ผู้สูงอายุ 'บ้านบางแค' — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสม...

RT ส่งมอบงานโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ ... RT ส่งมอบงานก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กฟผ. มูลค่า 261.92 ลบ. — RT ส่งมอบงานโครงการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำดิบ โรงไฟฟ้าบางปะกง อำเภอบางป...