พูดเรื่องการดื้อยา หลายคนคงทำหน้าเบ้ ไม่ทราบว่าหมายถึงหรือเกี่ยวข้องกับตัวเองอย่างไร แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้ใกล้ตัวกว่าที่คิด เพราะไม่ว่าใครๆ ก็มีโอกาสเกิดการอาการดื้อยาได้ทั้งสิ้น และถ้าไม่หาวิธีควบคุมเสียก่อน ผลลัพธ์ที่รุนแรงอย่างการเสียชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ยืนยันได้จากตัวเลขผู้เสียชีวิตเพราะดื้อยาปีหนึ่งที่สูงถึง 300,000 กว่าคน แถมตอนนี้ยังลุกลามไปไกลถึงสัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อมแล้ว
แต่วันนี้เมืองไทยเริ่มตั้งไข่ประเด็นนี้อย่างจริงจัง ด้วยพันธกิจ 'ประเทศไทยปักหมุด...หยุดเชื้อดื้อยา' พร้อมเชื้อเชิญผู้เกี่ยวข้องมาถกประเด็นในเวที 'แผนยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย : จากยุทธศาสตร์สู่การลงมือทำ' เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2560 ณ โรงแรมแกรนด์ มิราเคิล คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
หนึ่งในภารกิจหนึ่งที่แผนยุทธศาสตร์ต้องเร่งดำเนินการ คือการรวบประเด็นดื้อยาให้มาอยู่ภายใต้แนวคิดสุขภาพหนึ่งเดียว ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน ทั้งเรื่องคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม ทว่าต้องยอมรับว่าในบ้านเราประเด็นนี้ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขได้เป้าอัตราการป่วยจากเชื้อดื้อยาต้องลดลง อย่างน้อยร้อยละ 50 แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
หากอยากสำเร็จ สิ่งแรกที่ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการเสียก่อน คือ 'การจัดการข้อมูล' ไม่ถึงจะตั้งเป้ามาแล้ว แต่ความจริงคือ เมืองไทยไม่เคยสรุปปัญหาการดื้อยาอย่างละเอียดว่า มีจำนวนผู้ที่มีปัญหาดื้อยาเท่าใด ที่สำคัญคือต้องทำอย่างไรถึงจะลดปัญหาได้ รวมไปถึงปริมาณการลดควรเป็นอย่างไร เพราะข้อมูลสถิติเหล่านี้จะเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องกลับวิเคราะห์และสืบค้นฐานทรัพยากรที่ตัวเองมีอยู่ เพื่อนำไปสู่การกำหนดเป้าหมายและแผนยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง
ที่สำคัญการทำงานต้องเน้น 'คนทำงาน' เป็นหลัก หากหยิบยกมิติของเรื่องคนมานำเสนอ โรงพยาบาลก็คงเปรียบเสมือนด่านแรกที่จะต้องมีวิธีรีบมือกับการดื้อยาอย่างมีประสิทธิภาพ เรื่องหนึ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ คือการพัฒนาทีมงาน ตั้งแต่ แพทย์ นักจุลชีววิทยา เภสัชกร ระบบควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล ให้แข็งแกร่งและสามารถททำงานสอดประสานกันเป็นอย่างดี
อีกปัจจัยคือการพัฒนาห้องวิจัย ปัจจุบันห้องวิจัยทางการแพทย์มีทั้งระดับชาติ อย่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และระดับรองลงมาคือโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งการจะทำให้แผนยุทธศาสตร์สำเร็จ ห้องวิจัยจะต้องมีมาตรฐานที่เพียงพอและสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพราะยิ่งมีประสิทธิภาพก็จะลดอัตราการเสียชีวิตได้รวดเร็วขึ้น ที่สำคัญต้องจัดทำฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันไปมาได้ เพราะห้องวิจัยของแต่ละโรงพยาบาลมีขีดความสามารถที่แตกต่างกัน การเข้าถึงข้อมูลร่วมกันจะนำไปสู่การส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วจะนำไปมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น
นอกจากการสร้างระบบข้อมูลแล้ว การควบคุมการกระจายยาอย่างเหมาะสมก็เป็นอีกยุทธศาสตร์สำคัญของแผน เพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการดื้อยามากมาจากพฤติกรรมการใช้ยาอย่างไม่ถูกต้อง และไม่มีความรู้ที่เพียงพอ เช่น บางคนยังเข้าผิดว่ายาปฏิชีวนะสามารถรักษาโรคที่ติดเชื้อไวรัสได้ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล ร้านขายยา ต้องมีมาตรการรับมืออย่างรอบด้าน และเท่าทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
ตัวอย่างหนึ่งที่ทำได้ทันที คือการจัดทำหลักเกณฑ์การจัดประเภทยา ซึ่งเน้นความโปร่งใส เป็นที่ยอมรับ เป็นสากล และมีเหตุผลชัดเจน คืออย่างน้อยๆ ก็ต้องกำหนดระดับผู้สั่งใช้ยาให้ชัดเจนว่าเป็นแพทย์ เภสัชกร หรือบุคคลทั่วไป มีกลไกในการจ่ายยาที่เหมาะสม เช่นยาบางประเภทต้องสั่งจ่ายตามใบรับรองแพทย์เท่านั้น หรือยาบางประเภทสำหรับสถานพยาบาลเท่านั้น รวมไปถึงคำแนะนำและการแจ้งเตือน เพื่อประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ตลอดจนกำหนดหรือปรับแก้กฎหมายให้เท่าทันและสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องการจัดการเชื้อดื้อยาในประเทศไทย
ที่สำคัญคือการรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจและปรับทัศนคติเกี่ยวกับการใช้ยาแก่ผู้เกี่ยวข้อง เพราะถือเป็นหนทางของความสำเร็จในระยะยาว โดยก่อนอื่นต้องยอมรับว่า การซื้อยาทุกวันนี้บางครั้งก็เกิดจากความเคยชิน หรือการคาดเดาโดยไม่ได้อาศัยข้อมูลที่เชื่อถือได้ บางครั้งยาบางตัวก็มีจำหน่ายในร้านค้าปลีก ทั้งที่เป็นยาอันตราย ซึ่งต้องอาศัยเภสัชกรในการแนะนำข้อมูล หากสามารถจัดการได้การดื้อยาก็จะลดลงอย่างแน่นอน เพราะการปรับนิสัยและสร้างความรับผิดชอบของทุกคนในสังคมจะนำซึ่งการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และทำให้การลดอัตราการดื้อยา 50 เปอร์เซ็นต์ที่กระทรวงสาธารณสุขวางไว้มีโอกาสเป็นจริง
แบรนด์กระเบื้องน้องใหม่มาแรงในงาน สถาปนิก '68 PORCELA (พอร์ซเซล่า) ผู้นำกระเบื้องเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การบริหารของ นางสาวปัญจมา เหล่าวิวัฒน์วงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมพัฒน์เซรามิค จำกัด เปิดตัวนวัตกรรม "กระเบื้องรักษ์โลก" (Green Living) อย่างเป็นทางการในงาน สถาปนิก '68 งานแสดงเทคโนโลยีด้านสถาปัตยกรรมและวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300,000 คน เมื่อเร็ว ๆ
The Good Market รวมตัวเหล่าครีเอเตอร์-นักช้อปยุคใหม่ ปลุกกระแสแฟชั่นมือสองเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
—
ตลาดนัดสุดครีเอทที่เปิดพื้นที่ให้อินฟลูฯ แบรนด์ชั้นนำ...
"ไลอ้อน ประเทศไทย" เปิดตัว "ไลปอนเอฟ เอ็กซ์ตร้า ไฮจีนิค" สูตรใหม่ ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่ใส่ใจสุขอนามัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
—
บริษัท ไลอ้อน ...
อ.อ.ป. ร่วมประชุมภาคีป่าไม้แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 20 (UNFF20)
—
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นำโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยาก...
ทีทีบี ปลุกพลังแห่งการให้ ผ่านกิจกรรม "The Hall of Giving" ด้วยแนวคิด "1 วัน ใน 1 ปี มาทำอะไรดี ๆ ด้วยกัน"
—
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มุ่งจุดประกายให้คนไ...
อบก. จับมือ กกท. ลงนาม MOU ร่วมรณรงค์ลดก๊าซเรือนกระจก ดันกิจกรรมด้านกีฬาสู่รูปแบบ Carbon Neutral Event ผ่าน 4 องค์กรกีฬา
—
องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระ...
ทีวี QLED จากซัมซุง ชูจุดเด่น Quantum Dot แท้ ยืนหนึ่งผู้นำประสบการณ์สุดคมชัด ปลอดภัย ไร้สารแคดเมียม
—
ซัมซุง ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทีวีระดับโลก ...
บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX เปิดทางเลือกลงทุนแบบ Extra
—
บลจ.ไทยพาณิชย์ ขานรับภาครัฐ จัดเต็มเปิด 4 กองทุนใหม่ Thai ESGX...
บางจากฯ สานต่อโครงการ "Wrong DI" ปี 2 ปลุกพลังคิดนอกกรอบ ส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
—
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจ...