โรงพยาบาลแก้งคร้อ และมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ได้จัดการบรรยายพิเศษทางวิชาการความร่วมมือภาคีสุขภาพด้านการป้องกันโรค "สร้างภูมิเสริมรักษ์" ณ ห้องประชุมโรงพยาบาลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ แก่บุคลากรทางด้านสาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม ) ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้บริหารสถานศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นโรคร้ายแรงและเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสองในหญิงไทย โดยมี นพ.วิระ ตติยานุพันธ์วงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแก้งคร้อ และนพ. มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน เป็นประธานในพิธีเปิด และการบรรยายวิชาการ โดย รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาการเด็กและครอบครัว
นพ.วิระ ตติยานุพันธ์วงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแก้งคร้อ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลแก้งคร้อเห็นถึงความสำคัญของการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งรัฐบาลให้โอกาสกับเด็กหญิงไทยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกแล้ว ทางโรงพยาบาลแก้งคร้อได้จัดการอบรมบุคลากรทางด้านสาธารณสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อสม. ตัวแทนจากโรงเรียน และโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งดูแลในเรื่องของวัยรุ่น รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ กุมารแพทย์ สูติแพทย์ซึ่งดูแลทางด้านนี้ รวมไปถึงผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายก อบต. หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ และสิ่งสำคัญคือผู้บริหารสถานศึกษา และครูที่ดูแลวัยรุ่น เพื่อให้เห็นถึงผลดี และความสำคัญของการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่เป็นวัคซีนตัวใหม่
"ในอนาคตการให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก เราจะจัดอบรมแบบนี้เป็นระยะๆ และในแต่ละโรงพยาบาลที่ได้เข้ามาอบรมในวันนี้ จะไปจัดอบรมให้ความรู้ต่อ สถานศึกษาก็ไปกระจายความรู้ต่อ และหน่วยงานอื่นๆ ก็ไปกระจายความรู้ต่อ ผมเชื่อว่าในระยะเวลาหนึ่งที่เราจัดอบรมให้ความรู้เรื่องมะเร็งปากมดลูก วิธีการป้องกันมะเร็งปากมดลูกก็จะกระจายออกไป" นพ.วิระ กล่าว
นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน กล่าวว่า มะเร็งปากมดลูกติดต่อได้จากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้หญิงอาจจะไม่ได้รู้ตัวว่าได้รับเชื้อมาแล้ว วัคซีนเอชพีวี สามารถเริ่มให้ได้ตั้งแต่อายุ 9-15 ปี ถ้าเทียบกับอายุเด็กหญิงในประเทศไทย เท่ากับกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 5 ซึ่งถือเป็นวัยที่เหมาะสมที่สุดในการได้รับวัคซีนเพราะเป็นวัยที่ยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเพศมากนัก หากมีเพศสัมพันธ์เมื่ออายุยังน้อย โอกาสเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกก็มีมากขึ้น วัคซีนถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันโรค ดังนั้นจุดประสงค์ของมูลนิธิฯ จะช่วยเผยแพร่ความรู้ ความสำคัญของวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ ให้กับประชาชนทางช่องทางที่หลากหลาย และอีกด้านหนึ่งจะเป็นแรงผลักดันในภาคประชาชนไปสู่รัฐบาล ที่มุ่งมั่นให้ได้มีวัคซีนป้องกันโรคที่สมควรจะใช้ในอนาคต บางครั้งประชาชน อาจยังไม่เข้าใจถึงประโยชน์ของการฉีดวัคซีนเพราะไม่ได้เห็นผลในทันที ยกตัวอย่างเช่นวัคซีน HPV ที่ฉีดให้กับเด็กหญิงอายุ 10 ปีในวันนี้ ประโยชน์จะเกิดขึ้นในอีก 20-30 ปีข้างหน้า "นพ.มานิต กล่าว
รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาการเด็กและครอบครัว กล่าวว่า "เชื้อมะเร็งปากมดลูกมีหลายสายพันธุ์ ส่วนที่เราพยายามให้ครอบคลุมมากที่สุด คือส่วนที่มีความรุนแรงมากและพบบ่อยมากที่สุดอย่าง Type 16, Type 18 ยังไม่มีใครที่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันทุกสายพันธุ์ได้ เราไม่รู้ว่าเชื้อจะแปลงสภาพไปและวัคซีนจะพัฒนาให้ทันกับเชื้อโรคด้วยหรือเปล่า เพราะฉะนั้นที่ดีที่สุดต้องกลับมาที่ตัวเอง เราต้องรู้จักรักษาความสะอาด ดูแลสุขภาวะทางเพศ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นการป้องกันสร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านร่างกาย แต่เราต้องสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ และสังคมให้กับตัวเด็กด้วย หน้าที่ของการพัฒนาวัยรุ่นไม่ได้พัฒนาแค่ทางด้านร่างกายปกป้องแค่โรคภัยไข้เจ็บ แต่หน้าที่ของผู้ใหญ่ทุกคนที่อยู่ใกล้ชิดวัยรุ่น ต้องพัฒนาทักษะรู้ คิด จิตสำนึก ทั้งทางด้านจิตใจ สังคมและอารมณ์ ให้กับเขาด้วย"
"สิ่งที่พ่อแม่จะต้องพัฒนาทำควบคู่กันไป คือจิตสำนึก นั่นคือทุนชีวิตของเด็ก หมายถึงทักษะชีวิต บวกกับจิตสำนึกของตนเอง และจิตสำนึกในการอยู่ร่วมในบ้าน ในชุมชน ในโรงเรียน ในการคบเพื่อน เมื่อไรก็ตามที่เด็กมีกลไกป้องกันทางร่างกาย และได้ทั้งด้านการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจและสังคม มันจะกลายเป็นเกราะกำบังที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก" รศ.นพ.สุริยเดว กล่าว
ภาพข่าว: ความร่วมมือภาคีสุขภาพด้านการป้องกันโรค “สร้างภูมิเสริมรักษ์”
มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ร่วมกับ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ผนึกภาคีเครือข่าย ชวนคนรุ่นใหม่ผลิตสื่อออนไลน์ สร้างภูมิคุ้มกันข่าวลวง เสริมความเชื่อมั่นในวัคซีน
มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ร่วมกับ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ผนึกภาคีเครือข่าย ชวนคนรุ่นใหม่ผลิตสื่อออนไลน์ สร้างภูมิคุ้มกันข่าวลวง เสริมความเชื่อมั่นในวัคซีน
มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ร่วมกับ สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เชิญชวนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเด็กไทย สู่อนาคตที่ห่างไกลจาก IPD เนื่องในวันปอดอักเสบโลก
มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ผสาน สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย เชิญชวนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเด็กไทย สู่อนาคตที่ห่างไกลจาก IPD เนื่องในวันปอดอักเสบโลก (World Pneumonia Day 2023)
สมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ขอเชิญรับชมการถ่ายทอดสด งานแถลงข่าว โครงการเสริมภูมิคุ้มกันเด็กไทย สู่อนาคตที่ห่างไกลจาก IPD
ผนึกกำลังภาครัฐ -นักวิชาการแพทย์ เร่งขับเคลื่อนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค หวังประชาชนกลุ่มเป้าหมายในประเทศไทย ได้รับวัคซีนอย่างครอบคลุมในทุกช่วงวัย เพื่อลดอัตราการป่วยหนักและเสียชีวิต จากโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ผนึกกำลังภาครัฐ - นักวิชาการแพทย์ เร่งขับเคลื่อนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค