ไทยประกาศตัวเป็น โออีเอ็ม พร้อมผลิตยางตามออร์เดอร์ป้อนตลาดโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          'รัฐมนตรีเกษตรฯ' มุ่งขยายตลาดใหม่ นำคณะทูต-ผู้ค้ายางจากประเทศผู้นำเข้ายางรายใหม่ลงใต้ แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำในฐานะผู้ผลิตยางคุณภาพและการส่งออกยางพารารายใหญ่ พร้อมประกาศตัวไทยจะเป็นศูนย์กลางผลิตยาง (OEM) ตามความต้องการของผู้ประกอบการจากทั่วโลก
          วันนี้ (28 มิ.ย.61) นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงานโครงการสร้างเสริมศักยภาพเพื่อขยายตลาดคู่ค้ายางพาราไทย ณ โรงแรมดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ ว่า การจัดการในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญในการส่งเสริมการตลาดยางพารา โดยเฉพาะประเทศคู่ค้ายางรายใหม่ๆ ผ่านการชี้แจงนโยบาย แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น การศึกษาดูงานการผลิต การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางตลอดระยะเวลาการจัดงานตั้งแต่วันที่28 – 30 มิ.ย. ที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำของไทยในฐานะผู้ผลิตยางคุณภาพและการส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลก ขณะเดียวกัน ยังเป็นการแสวงหาพันธมิตรคู่ค้าใหม่ในตลาดยางพารา ให้เชื่อมั่นต่อคุณภาพ มาตรฐานและความหลากหลายของการใช้ยางพาราในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของไทย โดยการจัดการครั้งนี้มีผู้ประกอบการรายใหม่กว่า 50 บริษัทจาก 10 ประเทศที่มีการนำเข้ายางเพื่อใช้ในประเทศในปริมาณมาก เช่น จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เม็กซิโก อิหร่าน เป็นต้น รวมถึงกระทรวงเกษตรฯ ยังได้เชิญคณะทูตานุทูตที่ประจำอยู่ที่ประเทศไทย กว่า 20 คน จาก 15 ประเทศ ซึ่งประเทศเป้าหมายส่วนใหญ่ยังไม่เคยมีการนำเข้ายางพาราจากไทยหรือยังมีปริมาณที่ไม่มากนัก เช่น รัสเซีย ตุรกี ฟินแลนด์ เม็กซิโก และบราซิล เป็นต้น ดังนั้น หากคณะทูตานุทูตประเทศต่างๆ ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องในเรื่องการผลิตยางของไทย ก็จะสามารถให้ข้อมูลกับผู้นำเข้าหรือผู้ประกอบการยางได้อีกทางหนึ่งด้วย
          โดยประเด็นสำคัญที่ไทยได้นำเสนอในครั้งนี้ คือ การชี้แจงถึงนโยบายรัฐที่มุ่งเน้นการผลิตสินค้ายางพาราที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และมีความหลากหลาย โดยเกษตรกรในฐานะผู้ผลิต ต้องใส่ใจดูแลการปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต ตามหลักวิชาการและได้มาตรฐานสากล เช่น มาตรฐาน FSC และ PEFC โดยมีการยางแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่ดูแลและบริหารจัดการด้านยางพาราของไทยอย่างครบวงจร ในการสร้างความร่วมมือและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการยางพาราจากนานาประเทศ ขณะเดียวกัน กยท.ยังเป็นหน่วยงานสำคัญในการกำกับดูแลและตรวจสอบคุณภาพผลผลิตยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราที่มีการส่งออกไปยังตลาดโลกอย่างเข้มงวด ส่งผลให้เกิดการพัฒนาจนได้มาตรฐานการผลิตมาอย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพสูงเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก
          ตลอดจนขับเคลื่อนศักยภาพการพัฒนาการผลิตยางพาราและอุตสาหกรรมยางพาราในประเทศอย่างต่อเนื่องและครบวงจร จนทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยางพาราธรรมชาติที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและมีความหลากหลาย ซึ่งมีศักยภาพอย่างยิ่งในการนำไปใช้กับอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเป็นผลผลิตจากพื้นที่ปลูกยางพาราที่อยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ในพื้นที่รวม 25 ล้านไร่ ซึ่งปลูกและดูแลโดยเกษตรกรชาวสวนยางพารา จำนวน 1.65 ล้านคน ส่งผลให้ปัจจุบันประเทศไทยมีกำลังการผลิตยางธรรมชาติได้มากถึง 4.5 ล้านตันต่อปี นับเป็น 1 ใน 3 ของผลผลิตยางรวมกันทั้งโลก และก้าวขึ้นมาเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกอันดับ 1 ของโลก สามารถส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่าง ๆ ด้วยสินค้าที่มีความหลากหลาย มีคุณภาพได้มาตรฐานสากล ทั้งน้ำยางข้น ยางแท่ง และยางแผ่นรมควัน รวมถึงผลิตภัณฑ์จากยางพาราชนิดต่าง ๆ อาทิ ถุงมือยาง ยางพาหนะ และชิ้นส่วนยานยนต์ที่ทำมาจากยางพารา สามารถสร้างรายได้จากการส่งออกสูงเป็นอันดับ 3 ของการส่งออกสินค้าทั้งหมดของประเทศด้วยมูลค่าที่มากกว่า 5 แสนล้านบาท
          "ปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งเสริมการลงทุนด้านอุตสาหกรรมยางพาราจากต่างประเทศโดยมอบสิทธิประโยชน์พิเศษตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ และยังมีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมยางพารา หรือ Rubber City ขึ้น ที่ จ.สงขลา พื้นที่ 1,218 ไร่ ที่มีศักยภาพพร้อมรับการลงทุนทั้งอุตสาหกรรมนวัตกรรมยางพารา อุตสาหกรรมจากน้ำยางข้น อุตสาหกรรมยางคอมปาวด์ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ที่สำคัญประเทศไทยเปิดกว้างอย่างเต็มที่ในการแสวงหาเพื่อสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรคู่ค้าการตลาดยางพาราระดับนานาชาติ เพื่อร่วมกันสร้างให้ไทยได้กลายเป็นประเทศผู้รับจ้างผลิตในรูปแบบ OEM ซึ่งความพร้อมและศักยภาพอย่างครบวงจรทั้งหมดนี้ ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางในการรับผลิตยางพาราตามความต้องการของผู้ประกอบการยางพาราและผู้นำเข้ายางจากทั่วโลก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะส่งผลต่อเสถียรภาพราคายางพาราได้" นายกฤษฎา กล่าว
 
 

ข่าวการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการจัดที่ดินทำกินในเขตปฏิรูปที่ดิน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนงานการดำเนินการจัดที่ดินทำกินในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ หมู่ที่ 10 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมปศุสัตว์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 134 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดที่ดินให้เกษตรกร โดยเน้นการทำเกษตรมูลค่าสูง การส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ

23 พฤษภาคม วันสถาปนาครบรอบ 62 ปี กรมพัฒนา... กรมพัฒนาที่ดิน ครบรอบ 62 ปี จัดยิ่งใหญ่ โชว์นวัตกรรม "ดิน" ขับเคลื่อนเกษตรไทยสู่ความยั่งยืน — 23 พฤษภาคม วันสถาปนาครบรอบ 62 ปี กรมพัฒนาที่ดิน จัดยิ่งใหญ่ ...

ก.เกษตรฯ โดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับ บร... ก.เกษตรฯ โดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) ลงนาม MOU — ก.เกษตรฯ โดย กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาต...