กระทรวงมหาดไทย โดย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 13 – 15 มีนาคม 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 10 จังหวัด 21 อำเภอ 31 ตำบล 75 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 488 หลัง ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบ
กระทรวงการคลังฯ โดยด่วนแล้ว
นาย
ชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 13 – 15 มีนาคม 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 10 จังหวัด 21 อำเภอ 31 ตำบล 75 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 488 หลัง แยกเป็น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอไชยวาน อำเภอประจักษ์ศิลปาคม อำเภอหนองวัวซอ อำเภอหนองแสง และอำเภอศรีธาตุ รวม 9 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 257 หลัง นครพนม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอนาแก บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 77 หลัง หนองบัวลำภู เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีบุญเรือง และอำเภอเมืองหนองบัวลำภู รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 40 หลัง มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 33 หลัง หนองคาย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าบ่อ และอำเภอเฝ้าไร่ รวม 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 15 หลัง สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวานรนิวาส อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอโคกศรีสุพรรณ และอำเภอเมืองสกลนคร รวม 7 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 15 หลัง กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอยางตลาด ประชาชนได้รับผลกระทบ 14 หลัง ร้อยเอ็ด เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด และอำเภอโพนทอง รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 6 หลัง ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภออู่ทอง บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 30 หลัง ชัยนาท เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสรรคบุรี บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1 หลัง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ท้ายนี้ ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป