สำหรับไฮไลท์ที่จะเกิดขึ้นในรายการฯ นายพีรธัช สุขพงษ์ ในฐานะผู้จัดฯ เผยว่า เราตั้งใจที่จะทำให้รายการ "อะเมซิ่งมวยไทยแชมป์เปี้ยน 2018 " เป็นเวทีแข่งขันมวยไทยเชิงอนุรักษ์ เน้นการต่อสู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทยอย่างแท้จริงและถูกต้อง จุดเด่น คือ เผยแพร่ทักษะขั้นสูงของมวยไทยก่อนที่จะเลือนหายไป เรียนว่าเป็นความตั้งใจของทุกฝ่าย ซึ่งเวทีนี้ไม่ใช่เล็กๆ เป็นเวทีระดับชาติ นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากนักมวยทีมชาติ มาเป็นโค้ชฝึกสอน โอกาสนี้ หาไม่ได้ง่ยๆ สำหรับยอดนักสู้ 1 เดียวในสังเวียน รับประกาศนียบัตรและเงินรางวัล 100,000 บาท แข่งขันทั้งสิ้น 6 รุ่น ฉะนั้นเงินรางวัล รวมกว่า 600,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้ นักมวยที่ชนะเลิศจะทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์และครูสอนมวยไทยที่มีมาตรฐานรองรับ"
พบกับการแข่งขัน "รายการ อะเมซิ่งมวยไทยแชมป์เปี้ยน 2018 " ตั้งแต่ วันที่ 21—31 มีนาคม 2561 ททบ. 5 เวลา 16.00 น.-16.30 น. และ TGN 23.30 น. – 24.00 น. (จันทร์-ศุกร์)" และร่วมลุ้นว่านักมวยคนใดจะเป็นสุดยอดหนึ่งเดียวบนสังเวียน ในการถ่ายทอดสดรอบชิงชนะเลิศ วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม เวลา 14.00 น.- 16.00 น. (LIVE) สถานที่ ลานพาร์คพารากอนติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.facebook.com/amazingmuaythaichampion/ โทรศัพท์ 095-539 5518, 064-165 4964


นายขนมต้ม เป็นนักมวยคาดเชือก ชาวกรุงศรีอยุธยา ที่ เกิดที่ตำบล บ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายเกิดและ นางอี มีพี่สาวชื่อ เอื้อย แต่หลังการบุกของทัพพม่าได้ทำให้พ่อแม่และพี่สาวถูกพม่าฆ่าตายทั้งหมด มีเพียงแต่นายขนมต้มคนเดียว ที่รอดชีวิตมาได้ จากการถูกจับเป็นเชลยในระหว่างการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 และได้ไปอาศัยอยู่ในวัดตั้งแต่เล็ก ก็ได้เรียนรูวิชาการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยอย่างต่อเนื่อง จนมีชื่อเสียงเป็นที่เลืองลือ ดังปรากฎในพงศาวดารว่า
" เมื่อพระเจ้ามังระโปรดให้ปฏิสังขรณ์และก่อเสริมพระเจดีย์ชเวดากองในเมืองย่างกุ้งเป็นการใหญ่นั้น ครั้นงานสำเร็จลงในปี พ.ศ. 2317 พอถึงวันฤกษ์งามยามดี คือวันที่ 17 มีนาคม จึงโปรดให้ทำพิธียกฉัตรใหญ่ขึ้นไว้บนยอดเป็นปฐมฤกษ์ แล้วได้ทรงเปิดงานมหกรรมฉลองอย่างมโหฬาร ขุนนางพม่ากราบทูลว่า "นักมวยไทยมีฝีมือดียิ่งนัก" พระเจ้ามังระจึงตรัสสั่งให้เอาตัวนายขนมต้ม นักมวยดีมีฝีมือตั้งแต่ครั้งกรุงเก่ามาถวาย พระเจ้ามังระได้ให้จัดมวยพม่าเข้ามาเปรียบกับนายขนมต้ม โดยจัดให้ชกต่อหน้าพระที่นั่ง ปรากฏว่านายขนมต้มชกพม่าไม่ทันถึงยกก็แพ้ถึงเก้าคนสิบคนก็สู้ไม่ได้ พระเจ้ามังระทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระตรัส สรรเสริญนายขนมต้มว่า "คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ถึงเก้าคนสิบคน นี่หากว่ามีเจ้านายดี มีความสามัคคีกัน ไม่ขัดขากันเอง และไม่เห็นแก่ความสุขส่วนตัว และโคตรตระกูลแล้ว ไฉนเลยกรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่ข้าศึก ดั่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ "
หลังจากที่นายขนมต้มเอาชนะนักมวยพม่าได้แล้ว พระเจ้ามังระ ได้ปูนบำเหน็จให้เป็นข้ารับใช้ในกรุงอังวะ แต่นายขนมต้มปฏิเสธ แต่ขอเป็นการปลดปล่อยตนและเชลยคนไทยทั้งหมดเพื่อเป็นอิสระ พระเจ้ามังระ จึงยอมทำตามคำขอ ในที่สุดนายขนมต้มและเชลยไทยได้เดินทางกลับบ้านเกิด คือ กรุงธนบุรี ที่เป็นราชธานีสมัย พระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ ตากสินมหาราช
เหตุการณ์ที่นายขนมต้มสามารถเอาชนะนักมวยพม่าได้ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2317 นี้เอง ทำให้ได้มีการกำหนดให้วันที่ 17 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันมวยไทย เพื่อเป็นเกียรติต่อนักมวยไทย นอกจากนี้ ชาวพระนครศรีอยุธยาได้พร้อมใจกันสร้างอนุสาวรีย์นายขนมต้ม ไว้ที่บริเวณสนามกีฬากลาง จังหนัดพระนครศรีอยุธยา อีกด้วย
เมื่อปี 2539 ได้มีการทำละคร นายขนมต้ม รับบทโดย สมรักษ์ คำสิงห์ ซึ่งสร้างกระแสโด่งดังในสมัยนั้นเป็นอย่างมาก อีกด้วยและล่าสุด 2561 มีการจัดแข่งขัน

