"แคริสม่า" รุกปั้นแบรนด์ชิงส่วนแบ่งขึ้นเบอร์หนึ่งตลาดผ้าเปียก ด้วย 3 จุดเด่นเป็นเจ้าแรก ตอบโจทย์ด้วยความสะอาดและปลอดภัย สูตรยับยั้งแบคทีเรีย ด้านราคาที่จับต้องได้ ด้านโปรโมชั่น ที่ดึงลูกค้าเข้ามาทดลองใช้จนติดใจ พร้อมลุยเปิดทุกช่องทางขายกระจายสินค้า
ทั่วประเทศ ทุ่มงบโฆษณาสื่อสารผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และเล็งแตกไลน์สินค้าเข้าสู่ตลาดความงาม และมองสินค้ากลุ่มผู้ใหญ่มีแนวโน้มโตกระโดด
นางสาว
ดลลชา รัตนวงศ์สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท
ลีซันวิชั่น จำกัด ผู้จัดจำหน่าย
ผลิตภัณฑ์สำลีและผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบเปียก (ทิชชูเปียก) แบรนด์ แคริสม่า (Karisma) เปิดเผยว่า ตลาดผ้าเปียกหรือ ตลาดทิชชูเปียกมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผ้าเปียกอเนกประสงค์ทั่วไป จากเดิมจะเป็นสินค้าสำหรับเด็ก หรือ เบบี้ไวพส์ แต่ด้วยเทคโนโลยีและการพัฒนาสูตรต่างๆ มาเป็นสูตรยับยั้งแบคทีเรีย ทำให้สัดส่วนในกลุ่มทั่วไปมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด
ปัจจุบันมูลค่าตลาดผ้าเปียกจะอยู่ที่กว่า 1 พันล้านบาท โดยสัดส่วนของกลุ่มสินค้าสำหรับเด็กมีมูลค่าสูงในสัดส่วน 70% และกลุ่มทั่วไปมีสัดส่วนประมาณ 30% แต่หากดูแนวโน้มอัตราการเติบโตจะเห็นว่า ตลาดกลุ่มเด็กจะเติบโตไม่มาก ขณะที่กลุ่มทั่วไปเริ่มสูงมากขึ้น ซึ่งส่วนแบ่งตลาดของแคริสม่าในสินค้าผ้าเปียกจะอยู่ที่ประมาณกว่า 10% ไม่ได้ทิ้งห่างจาก แบรนด์อื่นๆ มากนัก โดยในตลาดนี้เรียกว่าไม่มีรายใดกินส่วนแบ่งจนเป็นเจ้าตลาดทิ้งห่างจากรายอื่น
"การแข่งขันด้านราคาในตลาดทิชชูเปียกค่อนข้างสูง หากใครไม่มีข้อได้เปรียบจริงๆ อยู่ไม่ได้ โดยสินค้ากลุ่มผู้ใหญ่โตเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะประชากรเด็กน้อยลงตามอัตราการเกิด ทำให้สินค้ากลุ่มเด็กมีสัดส่วนเล็กลง ขณะที่ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุเยอะขึ้น ซึ่งพบว่ากลุ่มผู้ใหญ่มีการใช้สินค้าแคริสม่ากันเยอะ ทำให้ตลาดมีโอกาสเติบโตในส่วนนี้มากขึ้น"
การทำตลาดในปีนี้แคริสม่าจะรุกตลาดอย่างจริงจัง เพื่อตอกย้ำแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น หลังจากที่ส่งผลิตภัณฑ์ออกมาสู่ตลาดแล้วเป็นเวลากว่า 6 ปี แต่ไม่ได้เน้นเรื่องการทำตลาดมากนัก เพราะต้องการมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และวางช่องทางการจำหน่ายให้มีความพร้อมในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น โมเดิร์นเทรด ร้านขายยา ร้านค้าปลีกดั้งเดิม และช่องทางออนไลน์ รวมทั้งช่องทางใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อนในกลุ่มสินค้าสำลีและผ้าเปียกคือ ช่องทางตัวแทนจำหน่าย ซึ่งเพิ่งเปิดช่องทางตัวแทนไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากการตอกย้ำแบรนด์ให้ติดตลาดแล้ว แคริสม่าเข้ามาบุกตลาดสินค้าผู้ใหญ่มากขึ้น จะมีการปรับสูตร หน้าตาและขนาดผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม รวมถึงการสื่อสารต้องเข้าถึงกลุ่มผู้ใหญ่มากขึ้น ซึ่งก็จะใช้ทุกช่องทางในการสื่อสารทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ทำแบบ 360 องศา โดยวางงบการตลาดไว้ประมาณ 10% ของยอดขาย จากปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 2 ร้อยล้านบาท
จุดแข็งของแคริสม่าที่ทำให้ประสบความสำเร็จที่เด่นชัดคือ คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ราคาที่จับต้องได้ และการจัดโปรโมชั่นสินค้า ด้วยความเป็นสินค้าที่ใช้แล้วทิ้ง หากราคาแพงคนไม่กล้าใช้ผู้บริโภคคงใช้บ่อยไม่ได้ ณ ปัจจุบันถือได้ว่า แคริสม่า แบรนด์ไทยน้องใหม่สามารถทำตลาดได้ไม่แพ้แบรนด์ระดับโลกอื่นๆ จนได้รับการไว้วางใจสูงสุดจากผู้บริโภคในไทย ด้วยการการันตียอดขายอันดับ 1 ในกลุ่มตลาดผ้าเปียกแอนตี้แบคทีเรีย ซึ่งผลิตภัณฑ์ผ้าเปียกไฮจีนไวพส์ (Hygiene Wipes) สามารถยับยั้งเชื้อไวรัส รา และแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพ สูงสุดถึง 99.9% กล่าวได้ว่าผลิตภัณฑ์ผ้าเปียกไฮจีนไวพส์ (Hygiene Wipes) ตอนนี้น่าจะขึ้นเบอร์หนึ่งเป็นผู้นำในกลุ่มผ้าเปียกยับยั้งแบคทีเรียไปเรียบร้อยแล้ว
นางสาวดลลชา กล่าวต่อว่า "สินค้าธงของบริษัทจะเป็นผ้าเปียก มียอดขายในพอร์ตสูงเกิน 50% รองลงมาผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าแม่และเด็ก 30% และที่เหลือ 20% คือกลุ่มสำลี ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะมีทั้งกลุ่มพรีเมียมและกลุ่มแมส ไม่เลือกตลาดใดตลาดหนึ่ง จึงมีสินค้ารองรับความต้องการทั้งสองกลุ่ม เพราะมองว่าลูกค้ามีความคิดหลากหลายแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน สำหรับเป้าหมายของแคริสม่า คือ ต้องการเป็นตัวแทนของผ้าเปียกหรือทิชชูเปียก เมื่อนึกถึงผ้าเปียกหรือทิชชูเปียกต้องคิดถึงเรา "แคริสม่า"
ดังนั้นจากนี้ไปจะมุ่งสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด โดยได้ส่งหนังโฆษณาออนแอร์ผ่านสื่อออนไลน์ โดยเลือกครอบครัวโอปอล์ – หมอโอ๊ค และลูกน้อยฝาแฝด อลิน-อลัน เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เป็นตัวแทนที่สามารถตอบโจทย์ไลฟสไตล์และประสบการณ์ของทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี เริ่มที่ โอปอล์ เปรียบเสมือนสาวเวิร์กกิ้งวูแมน ที่ทุ่มเทกับการทำงาน ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านเจอกับสิ่งสกปรกอยู่เสมอ อีกทั้งต้องทำหน้าที่แม่ในการดูแลลูกน้อยฝาแฝด อลิน-อลัน ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และด้วยความเป็นคุณหมอของ หมอโอ๊ค จึงต้องคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งคุณภาพความปลอดภัยและความสะอาดของผลิตภัณฑ์ที่ต้องสร้างความมั่นใจและสามารถเชื่อถือได้ ก่อนที่จะนำมาใช้จริงกับคนในครอบครัว หรือแม้กระทั่งคนไข้ที่มารับการรักษา เพราะฉะนั้นคุณสมบัติของครอบครัวนี้ สามารถบ่งบอกถึงของความเป็น "แคริสม่า" ตอกย้ำคอนเซปต์ "แคริสม่า ผ้าเปียกยับยั้งแบคทีเรีย ห่วงใย ใส่ใจ ทุกครอบครัว" ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มของตลาดความงามที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง ทำให้แคริสม่าขยับเข้ามาสู่ตลาดนี้มากขึ้นเช่นกัน อย่างสินค้าสำลีก่อนหน้านี้เป็นสินค้าแมสทั่วไป แต่ตอนนี้จะชี้ชัดไปเลยว่าเช็ดเครื่องสำอาง และในปีนี้จะส่งสินค้าเข้ามาในตลาดความงามมากขึ้น แต่ยังอยู่ในกลุ่มของการเช็ดทำความสะอาด เพราะมองว่าเป็นอีกตลาดที่มีศักยภาพสูงในเมืองไทย