CPL เผยความคืบหน้าหลังอัดงบลงทุน 250 ล้านบาท ลุยปรับปรุงเครื่องจักร-เทคโนโลยีการผลิตส่วนงานผลิตหนังฟอกสำเร็จรูป ยอมรับวางแผนระยาว ต้องใช้เวลา 3 ปีในการสร้างฐานใหม่ให้แข็งแกร่ง มั่นใจหลังเสร็จสมบูรณ์ เพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 50% จากเดิมที่ 2.5 ล้านตารางฟุตต่อเดือน พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งแบรนด์รองเท้าชั้นนำรายใหม่ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างผลิตหนังตัวอย่างก่อนเปิดออเดอร์หลักในอนาคตอันใกล้ และขยายการผลิตสู่แบรนด์กระเป๋าชั้นนำ Michael Kors ส่วนงานรับฟอกหนังวัวสำเร็จรูป ที่ติดตั้งถังฟอกใหม่ 20 ถัง คืบหน้าแล้ว 90% ระบุพร้อม 100% เมื่อไหร่ กำลังผลิตเพิ่ม 3 เท่าตัวแน่นอน เช่นเดียวกับงานรับผลิตหนังหมู ซึ่งโรงงานใหม่สร้างแล้วเสร็จเรียบร้อย พร้อมติดตั้งถังฟอก 12 ถัง คาดครึ่งหลังของปีนี้ ทั้งสองส่วนงานเดินหน้าได้เต็มพิกัด
นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL ผู้นำอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัทเจริญสิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการลงทุนด้านต่างๆ ของบริษัทฯ ว่า หลังจากในช่วงที่ผ่านมา CPL ได้ใช้งบลงทุนกว่า 250 ล้านบาท ในการดำเนินการปรับปรุงทั้งในส่วนของโรงงานเดิม ซึ่งเป็นส่วนผลิตหนังสำเร็จรูป (Finished Product) และการลงทุนใหม่อีก 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนรับผลิตหนังวัวฟอก และส่วนรับผลิตหนังหมู ขณะนี้ทุกส่วนงานมีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPL ระบุว่า งานในส่วนผลิตหนังสำเร็จรูปหรือ Finished Product ซึ่งลูกค้าหลักของ CPL ยังคงเป็นผู้ผลิตรองเท้าแบรนด์เนมชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นอาดิดาส ทิมเบอร์แลนด์ ลาคอสต์ และรีบอค นั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงเครื่องจักรใหม่ หลังจากว่างเว้นการลงทุนด้านการผลิตมาเป็นเวลานาน ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าประมาณ 20% เนื่องจากยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการสั่งซื้อและนำเข้าเครื่องจักร หลังจากนี้จะต้องดำเนินการติดตั้ง รวมถึงทดสอบระบบ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี
"การปรับปรุงส่วนงาน Finished Product นั้น เป็นแผนระยาวของ CPL ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการมากกว่าส่วนงานอื่นๆ และที่ผ่านมา เราไม่ได้ลงทุนในส่วนนี้เลย เป็นเพียงการบำรุงรักษาเครื่องจักรตามสภาพเท่านั้น แต่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ และต้องใช้เวลา ซึ่งเราเชื่อว่า ผลที่ได้รับกลับมาจะคุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะเราจะได้เครื่องจักรที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีการผลิตที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายขึ้น และที่สำคัญที่สุดก็คือ จะทำให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น ขณะเดียวกัน ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นช่วงที่ทิศทางของตลาดหนังฟอกสำเร็จรูปจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเราตั้งเป้าหมายว่า เมื่อปรับปรุงโรงงานเรียบร้อยแล้ว จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 50% จากกำลังการผลิตปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 2.5 ล้านตารางฟุตต่อเดือน" นายภูวสิษฏ์กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในส่วนงานรับฟอกหนังวัวสำเร็จรูป บริษัทฯ ได้ติดตั้งถังฟอกใหม่จำนวน 20 ถัง ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 40,000 ตัวต่อเดือน เป็น 120,000 ตัวต่อเดือนหรือเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยคาดว่า ในราวกลางเดือนพฤษภาคมนี้ จะดำเนินการได้แล้วถึง 90% เช่นเดียวกับส่วนงานรับผลิตหนังหมู ซึ่งบริษัทฯ ได้ลงทุนสร้างโรงงานใหม่ด้วยงบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ปัจจุบันโรงงานได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตั้งถังฟอกจำนวน 12 ถัง คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ในภายในเดือนเมษายนนี้ และจะเดินหน้าผลิตได้เต็มกำลัง 100% หรือ 100,000 ตัวต่อเดือนตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม
"ต้องยอมรับว่า ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา รวมถึงปีนี้ อาจจะไม่ได้เป็นไปตามที่เราตั้งใจไว้ เพราะเป็นช่วงที่เราลงทุนพร้อมๆ กันหลายด้าน แต่เราก็มั่นใจว่า ผลจากการลงทุนจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับ CPL ในระยะยาว โดยเฉพาะธุรกิจฟอกหนัง ที่ในอนาคตเราจะไม่ได้จำกัดอยู่กับลูกค้ารายเดิมๆ ในอุตสาหกรรมรองเท้า เพราะเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะทำให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าในกลุ่มรองเท้ารายใหม่ได้เพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองทำตัวอย่างหนังให้กับลูกค้าใหม่พิจารณา คาดว่าจะสามารถเปิดคำสั่งซื้ออย่างเป็นทางการได้ในเร็วๆนี้ และเรายังสามารถเข้าไปสู่สินค้าแฟชั่น ซึ่งล่าสุดเราได้ผลิตหนังสำหรับกระเป๋าแบรนด์ Michael Kors รวมทั้งยังสร้างงานพัฒนาและวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องอีกด้วย" นายภูวสิษฎ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะอยู่ในช่วงของการลงทุน แต่คณะกรรมการบริษัทฯ ยังคงมีมติจ่ายปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น โดยจ่ายเป็นหุ้นสามัญในอัตรา 20 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 20,944,970 หุ้น คิดเป็นอัตราหุ้นปันผลไม่เกินหุ้นละ 0.0500 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 20,944,970 บาท พร้อมทั้งจ่ายปันผลเป็นเงินสด ในอัตราหุ้นละ 0.00556 บาท หรือคิดเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 2,329,081 บาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2561
SCG จับมือ Rondo Energy เปิดตัว "แบตเตอรี่ความร้อนสำหรับอุตสาหกรรม" แห่งแรกในอาเซียน ปลดล็อคภาคอุตสาหกรรมให้กักเก็บพลังงานสะอาดใช้ได้ 24 ชั่วโมง
"เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์" ร่วมแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมต่อเรือไทย ในงาน Thailand Marine & Offshore Expo 2025
JETRO Pavilion ในงาน "METALEX 2025" มหกรรมเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีโลหการอันดับหนึ่งของอาเซียน และบูธพิเศษในธีม "Manufacturing DX" ที่ยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา
KTIS ปลื้มโครงการ VIVE Impact ปีแรก ลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 37% พร้อมเดินหน้าต่อปีที่ 2 และ 3 ตอกย้ำแนวทางสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ เชิญทุกท่านสัมผัสนวัตกรรมพลังงานยั่งยืนในงาน IEEE PES GTD Asia 2025
อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ผนึกกำลังภาคอุตสาหกรรมไทย จัดงาน "JGAB 2026" ผลักดันกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางการค้าอัญมณีแห่งอาเซียน
วว. ร่วมเปิดศูนย์ความร่วมมือนวัตกรรมอุตสาหกรรมจีน-ไทย จุดเริ่มต้นการยกระดับเศรษฐกิจฐานเทคโนโลยีของไทยในเวทีโลก