นายพานิชย์ เจริญเผ่า คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสุขภาพ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพไทย หัวข้อการขับเคลื่อนสังคมไทยรอบรู้ด้านสุขภาพ ณ โรงแรมปริ๊นพาเลซ มหานาค กรุงเทพมหานครว่า ปัจจุบันสังคมมีความซับซ้อน ประชาชนกำลังถูกโถมกระหน่ำด้วยข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพทั้งที่ถูกและไม่ถูก และกำลังเผชิญกับระบบสุขภาพที่มีความซับซ้อน การส่งเสริมให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างสังคมรอบรู้ด้านสุขภาพในบริบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ประชาชนอาศัยอยู่หรือประกอบอาชีพต่างๆ ไปยังภาคส่วนต่างๆที่นอกเหนือจากด้านสุขภาพที่มีผลต่อปัจจัยกำหนดสุขภาพ เช่น ภาคสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา เพื่อทำให้สิ่งแวดล้อมง่ายต่อการเข้าถึง เข้าใจข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพที่จะไปสนับสนุนให้มีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
"การขับเคลื่อนสังคมไทยรอบรู้ด้านสุขภาพต้องอาศัยการสานพลังภาคีจากหลากหลายภาคส่วน อันจะส่งผลต่อการยกระดับความรอบรู้ของประชาชน ตามที่ระบุในแผนพัฒนาสุขภาพ ฉบับที่ 12 ที่กำหนดเป้าหมาย ให้ประชาชนไทยมีความรอบรู้สุขภาพระดับดีเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 การที่ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพที่เพียงพอ ประกอบกับสังคมไทยเป็นสังคมรอบรู้ด้านสุขภาพนั้น เป็นปัจจัยที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายที่ยั่งยืน(SDGs) ) ในเป้าหมายหลักที่ 3 คือ การมีสุขภาวะในการดำรงชีวิต และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนในทุกช่วงอายุ และเป้าหมายหลักที่ 10 ลดความเหลื่อมล้ำ การประชุมวิชาการครั้งนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนสังคมที่มีทิศทางชัดเจน มีการบูรณาการทำงานสานพลังประชารัฐที่ควรส่งเสริมสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง"คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสุขภาพกล่าว
ด้านนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่าการพัฒนาองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพและยกระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชาชน ถือเป็นการวางรางฐานที่สำคัญให้กับคนไทยทุกคน เพื่อการมีสุขภาพที่ดีสมวัยในทุกช่วงชีวิต ความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) และเป็น 1 ใน 10 ของประเด็นปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขจึงเป็นตัวช่วยให้ประชาชนไทยรู้เท่าทันสถานการณ์ ข้อมูลข่าวสาร และสุขภาพของตนเอง ด้วยการกลั่นกรอง ประเมิน และตัดสินใจ ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลือกใช้บริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพได้อย่างเหมาะสม โดยอาศัยข้อมูลความรู้สุขภาพ และบริการสุขภาพ จากหลายช่องทางจนสามารถตัดสินใจจัดการสุขภาพของตนเองและครอบครัวได้อย่างเหมาะสม (Self-Management) ดังนั้น กรมอนามัยจึงร่วมกับภาคีเครือข่ายลงนามความร่วมมือการดำเนินงานพัฒนาองค์กรรอบรู้ด้านสุขภาพกับ8 องค์กร ได้แก่ กองบัญชาการกองทัพไทย กรมพลาธิการทหารบก กรมการขนส่งทหารบก ชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน สมาคมสาธารณสุขแห่งประเทศไทยและสมาคมหมออนามัย
"การจัดประชุมวิชาการส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพไทยครั้งนี้ เป็นเวทีให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากผลงานที่มานำเสนอและจัดแสดงจาก 11 องค์กรที่รับโล่เชิดชูเกียรติ "องค์กรมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการยกระดับองค์กรให้เป็นองค์กรรอบรู้สุขภาพ" และอีก27องค์กรที่รับประกาศเกียรติบัตร"องค์กรริเริ่มขับเคลื่อนสู่องค์กรรอบรู้สุขภาพ"รวมทั้งสิ้น38แห่งประกอบด้วย สถานประกอบการ สถาบันการศึกษา สถานบริการสุขภาพและชุมชน ตลอดจนเป็นการสร้างโอกาสให้นักวิชาการ นักวิจัยได้เรียนรู้พบปะ ปรึกษาหารือกับแหล่งทุนเพื่อสนับสนุนด้านวิชาการ วิจัยและนวัตกรรมด้านความรอบรู้สุขภาพ จาก7 แหล่งทุน คือสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ สำนักงานกองทุนประกันสังคม สำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) และกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหน่วยงานรัฐ เอกชน และภาคประชาชนทั้งในระบบสุขภาพ ระบบการศึกษา และระบบสังคม ชุมชน กลุ่มเป้าหมายรวมทั้งสิ้นประมาณ500 คน" อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
กรมอนามัย แนะสถานประกอบการร้านอาหารปฏิบัติตามมาตรฐานเคร่งครัด
เบอริงเกอร์ อินเกลไฮม์ ผนึกกำลังภาครัฐ เดินหน้าโครงการ "คนไทย 7.2 ล้านคน รู้ค่าความเสี่ยงโรคไต"
สธ.ตั้งเป้า 3 กลุ่มวัยฟันดี "เด็ก-วัยทำงาน-ผู้สูงวัย" มุ่งสู่ 80 ปี มีฟันใช้งาน 20 ซี่ ลุยคัดกรองสุขภาพช่องปากให้ครบ 10 ล้านคน
สธ. ชูมาตรฐานความปลอดภัย ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญ คุมเข้มสุขอนามัย รับเจ้าภาพซีเกมส์-อาเซียนพาราเกมส์
125 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สืบสานงานทันตสาธารณสุข เพื่อรอยยิ้มคนไทย
KTMS ผุด 3 หน่วยไตเทียมส่งท้ายปี ขานรับ Quick Big Win ฟอกไตฟรีทุกตำบล
“คนบันเทิง”ร่วมมือ “ภาครัฐ” ปฏิรูปอุตสาหกรรมบันเทิง!!
ภาพข่าว: กรมอนามัยร่วมเปิดการประชุมวิชาการส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพไทย หัวข้อการขับเคลื่อนสังคมไทยรอบรู้ด้านสุขภาพ