รัฐมนตรีเกษตรฯ ขยายผล 'บางระกำโมเดล' สู่ 382,000 ไร่ ส่งเสริมอาชีพและลดความเสียหายในช่วงฤดูน้ำหลากได้จริง พร้อมหนุนปลูกข้าวโพดหลังนา สร้างรายได้มั่นคงแก่เกษตรกร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดน้ำเข้าทุ่งบางระกำ และติดตามผลการดำเนินโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อย ผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/62 ณ จังหวัดพิษณุโลก ว่า จากนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการบริหารจัดการน้ำแบบชุมชนมีส่วนร่วม และการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อผลผลิตทางการเกษตร ตลอดจนการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย และพิษณุโลก จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทานและหน่วยงานในสังกัดบูรณาการร่วมกันในการปรับแผนการเพาะปลูกพืชนาปีในพื้นที่ลุ่มต่ำจนประสบผลสำเร็จนำไปสู่การขยายผลในปีนี้ ภายใต้โครงการ "บางระกำโมเดล 61" จากพื้นที่ 265,000 ไร่ ให้ขยายผลเพิ่มขึ้นเป็น อีก 117,000 ไร่ เป็น 382,000 ไร่ โดยปรับแผนการส่งน้ำสำหรับเพาะปลูกข้าวในเดือนเมษายน และให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม เพื่อไม่ให้พื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมทั้งใช้เป็นพื้นที่แก้มลิงธรรมชาติรองรับน้ำในฤดูน้ำหลากได้ถึง 550 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมกันนี้ กรมประมงได้นำพันธุ์ปลาชนิดต่างๆ มาปล่อยลงสู่ทุ่งบางระกำกว่า 1 ล้านตัว เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปได้มีอาชีพเสริมจากการจับปลาหรือแปรรูปอาหารออกจำหน่าย รวมทั้งสามารถนำไปบริโภคเองได้ด้วย
          "นอกจากการส่งเสริมอาชีพประมงแก่เกษตรกรในโครงการบางระกำโมเดลแล้ว คณะรัฐมนตรียังมีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับสมดุลของปริมาณการผลิตการตลาดข้าวและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อีกทั้งเกษตรกรมีรายได้และอาชีพที่มั่นคง ยั่งยืนจากกิจกรรมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในช่วงฤดูนาปรัง และเพื่อให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีเสถียรภาพในการผลิตสินค้า ลดการพึ่งพาจากภายนอกประเทศ โดยมีเป้าหมายและพื้นที่ดำเนินการ ในพื้นที่ปลูกข้าวในเขตชลประทาน และนอกเขตชลประทานที่มีความเหมาะสม ตาม Zoning by Agri – Map ของกรมพัฒนาที่ดิน รวมพื้นที่ 2 ล้านไร่ ใน 33จังหวัด โดยมีมาตรการจูงใจให้กับเกษตรกร ด้วยการจัดหาปัจจัยการผลิตและการเตรียมดิน โดยจะให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเป็นผู้ที่สามารถขอสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ยังเตรียมเสนอให้ดำเนินการในส่วนค่าเบี้ยประกันภัยไร่ละ 65 บาท จำนวน 2,000,000 ไร่ อีกด้วย"
          สำหรับคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเป็นหัวหน้าครัวเรือนในทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งมีความประสงค์ปรับเปลี่ยนการปลูกข้าวมาเป็นการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในนาช่วงฤดูแล้ง โดยพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการต้องอยู่ในเขตชลประทาน หรือพื้นที่นอกเขตชลประทานที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการน้ำและอยู่ในพื้นที่ที่โครงการกำหนด ทั้งนี้ เกษตรกรต้องมีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. ยกเว้นเกษตรกรที่เป็นสมาชิกสถาบันเกษตรกร และมีความประสงค์ขอรับสินเชื่อจากสถาบันเกษตรกร"
          ในโอกาสนี้ ได้ติดตามผลการดำเนินงานและมอบเงินช่วยเหลือแก่เกษตรกรในโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อย ผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/62 ซึ่งเป็นเกษตรกรในอำเภอพรหมพิราม 13,752 ครัวเรือน ครบคลุมพื้นที่ปลูก 318,692 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่เกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกข้าวนาปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว โดยเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2561/62 (รอบที่ 1)และขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร (กลุ่มข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียว ข้าวปทุมธานี1 และข้าวเจ้า) ซึ่งจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวในอัตราไร่ละ 1,500 บาท ตามพื้นที่ปลูกจริงไม่เกิน 12 ไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน 18,000 บาท และพื้นที่เพาะปลูกไม่ซ้ำซ้อนกับพื้นที่เสียหายจากภัยธรรมชาติที่ได้รับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ (ไร่ละ 1,113 บาท) ยกเว้นกรณีนำไปเพาะปลูกใหม่ในช่วงเวลาการเพาะปลูกรอบที่ 1 โดยจะได้รับเงินไม่เกินพื้นที่เพาะปลูกจริงและไม่เกินพื้นที่ประสบภัย
รัฐมนตรีเกษตรฯ ขยายผล 'บางระกำโมเดล' สู่ 382,000 ไร่ ส่งเสริมอาชีพและลดความเสียหายในช่วงฤดูน้ำหลากได้จริง พร้อมหนุนปลูกข้าวโพดหลังนา สร้างรายได้มั่นคงแก่เกษตรกร
 
รัฐมนตรีเกษตรฯ ขยายผล 'บางระกำโมเดล' สู่ 382,000 ไร่ ส่งเสริมอาชีพและลดความเสียหายในช่วงฤดูน้ำหลากได้จริง พร้อมหนุนปลูกข้าวโพดหลังนา สร้างรายได้มั่นคงแก่เกษตรกร
 

ข่าวการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

"ร้อยเอก ธรรมนัส" ลุยอุตรดิตถ์! เร่งช่วยเกษตรกรพ้นภัย "บัวลอย" สั่งด่วนซ่อมสะพานส่งน้ำ 14+200 คืนไร่นา 5.4 หมื่นไร่

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการพร้อมเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุ "บัวลอย" ณ สะพานน้ำ กม. 14+200 ตำบลผักขวง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั้งด้านที่อยู่อาศัย ทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตรกว่า 54,000 ไร่ ทั้งนี้ ก่อนเริ่มงาน ร้อยเอก ธรรมนัส ได้ขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณงานยืนสงบนิ่งร่วมแสดงความอาลัย และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ สมเด็จพระนาง

สั่งเร่งซ่อมสะพานแม่ปูนล่าง ฟื้นดินฟื้นนา... "รมช.นเรศ" ลงพื้นที่เวียงป่าเป้า ตรวจแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายจากพายุยางิ — สั่งเร่งซ่อมสะพานแม่ปูนล่าง ฟื้นดินฟื้นนา 350 ไร่ ดันโครงการอ่างเก็บน้ำ เกษ...

มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น ใช้... มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น — มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น ใช้เครื่องหมาย Q ผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พร้อมต่อยอด...

แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอ... "รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ — แนะเกษตรกรผู้ปลูกลำไยขึ้นทะเบียนเกษตรกรรอมาตรการช่วยเหลือไร่ละ 1,400 บาท พร้อมเตรียมสร้...

นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกร... กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" — นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ค...

กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล"... กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล" — กรมประมง...ส่งเสริมการเพาะเลี้ยง "ปูทะเล" ในบ่อกุ้งร้าง หวังฟื้นแหล่งผล...