เผยเคล็ดลับเรียนดี กิจกรรมเด่น แบบเด็กเก่ง ภูสิทธิ น้านิรัติศัย

          นับเป็นความโชคดีของประเทศไทย ที่เยาวชนคนรุ่นใหม่ล้วนแล้วแต่มีความสามารถมากมายในหลายด้าน ไม่ว่าจะในด้านวิชาการ ดนตรี กีฬา ซึ่งมักจะเห็นข่าวการได้รับรางวัลทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติมาโดยตลอด
          เช่นเดียวกันกับความสามารถด้านศิลปะ ที่เยาวชนไทยล้วนคว้ารางวัลแห่งความภาคภูมิใจมาครองหลายรายการ ล่าสุดบริษัท เพนเทล (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับงาน นิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ ซึ่ง บริษัท เพนเทล (ประเทศไทย) จำกัด โดยรวบรวมผลงานภาพวาดของเยาวชนไทยที่ได้รับรางวัลจากโครงการประกวดศิลปะเด็กนานาชาติครั้งที่ 48 (48th International Children's Art Exhibition) ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยในครั้งนี้มีผลงานของเยาวชนจากประเทศไทยที่ผ่านการคัดเลือก 1,303 จากทั่วประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยส่งประกวดในระดับนานาชาติ โดยการประกวดในปีนี้ มีผลงานจากยาวชนจาก 44 ประเทศ ทั่วโลกจำนวน 61,950 ชิ้น ซึ่งมีผลงานของเยาวชนจากประเทศไทยสามารถกวาดรางวัลมาได้มากถึง 123 รางวัล
          และหนึ่งใน 123 นั้นคือ เด็กชาย ภูสิทธิ น้านิรัติศัย เจ้าของรางวัล Gold Awards จากผลงาน The war of Ramakien ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเซนต์คาเบียล ที่มีทั้งความสามารถด้านศิลปะในรูปแบบร่วมสมัย c]tได้รับรางวัลต่างๆ มาแล้วมากมาย พร้อมด้วยความสามารถทางวิชาการ ที่คว้าเกรด 4.00 มาตลอด 4 ปี นอกจากนั้น ยังได้รับการคัดเลือกเป็นเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยประจำปี 2561 อีกด้วย
          "ผมชอบเรียนศิลปะตั้งแต่เด็ก เพราะชอบวาดรูป ชอบงานศิลปะต่างๆ ชอบลายไทยเพราะเป็นลายที่มีรายละเอียดเยอะ และชอบโทนสีที่สดใส
          ผมเริ่มวาดรูปครั้งแรกเมื่ออายุ 4 .ปี และใช้เวลาว่างจากการเรียน วาดรูปมาตลอด สำหรับผมแล้ว เวลาวาดรูป ผมจะมีสมาธิมาก ซึ่งทำให้กลายเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง ผมจึงนำไปปรับใช้กับเรื่องอื่นๆ เช่นการเรียน เพราะพอเรามีจิตใจจดจ่อแล้ว เวลาเรียนเราก็จะสามารถที่จะเข้าใจบทเรียนที่ครูสอนได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าเราตั้งใจ เราก็จะเข้าใจ"
          ภูสิทธิเริ่มส่งผลงานเข้าประกวดในโครงการศิลปะเด็กนานาชาติตั้งแต่ยังอยู่ประถมศึกษาปีที่ 1 และเพิ่งได้รับรางวัล sillver awards ครั้งแรกเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สำหรับปีนี้ได้อันดับขยับขึ้นเป็น Gold Awards นับเป็นการพัฒนาฝีมือที่น่าทึ่ง โดยผลงานที่ส่งเข้าประกวดเป็นเรื่องรามเกียรติ์ ได้รับแรงบันดาลใจจากการไปดูการแสดงโขน
          "ในการประกวดศิลปะเด็กนานาชาตินี้ ผมเลือกวาดรูปโขนเพราะเคยไปดูแล้วรู้สึกชอบและประทับใจมาก อยากให้ชาวต่างชาติได้เห็นถึงวัฒนธรรมของไทยที่สวยงาม ภาพนี้ใช้เทคนิคสีชอล์คและขูดสีเป็นลายไทย"
          "ในอนาคต ผมอยากเป็นแพทย์ แต่ยังคงวาดรูปอยู่อย่างแน่นอน ผมหวังว่าภาพวาดของผม จะเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ความสวยงามของประเทศไทยให้ชาวต่างประเทศอีกทางหนึ่ง"
          ด้านคุณแม่ ภารดี น้านิรัติศัยเปิดเผยถึงเคล็ดลับการเลี้ยงดูไว้อย่างน่าสนใจ
          "ครอบครัวเราสนับสนุนเรื่องศิลปะมาก เพราะเห็นตั้งแต่ลูกยังเล็กว่าชอบด้านนี้ ชอบขีดเขียน แต่น้องไม่ทิ้งการเรียน ได้เกรด 4.00 ทุกเทอม และชอบเรียนวิชาคณิตเป็นพิเศษ เวลาว่างคุณพ่อคุณแม่มักจะพาน้องไปเยี่ยมชมศิลปะในสถานที่ต่างๆ เช่น วัด พิพิธภัณฑ์สถาน เพราะสังเกตว่า น้องจะชอบลายไทยเป็นพิเศษ
          ด้วยความที่น้องวาดรูปเยอะมาก เราก็จะสอนลูกเสมอว่า ให้แบ่งเวลา จัดลำดับความสำคัญ และมีความรับผิดชอบกับทุกๆกิจกรรม ซึ่งน้องก็สามารถจัดสมดุลทั้งงานอดิเรกและการเรียนได้เป็นอย่างดี ซึ่งรางวัลต่างๆที่น้องได้รับมานั้น นอกจากจะเป็นความมภาคภูมิใจและเกียรติประวัติของครอบครัวแล้ว ยังถือว่าเป็นกำลังใจให้ทั้งตัวน้องและครอบครัว ในการพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมต่อไป"
          นับว่าสายลมใต้ปีกที่เรียกว่าครอบครัว เป็นส่วนสำคัญในการสร้างเยาวชนที่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยในอนาคต

          ข้อมูลเพิ่มเติม
          งาน นิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ (International Children's Art Exhibition) เริ่มต้นจัดขึ้น ครั้งแรกในปี ค.ศ.1970 โดย The Nippon Television Network Cultural Society (สถานีโทรทัศน์แห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น) ร่วมกับ The Biiku Bunka Kyokai (มูลนิธิเพื่อการศึกษาศิลปะก่อตั้งโดย บริษัท เพนเทล จำกัด) โดยนำภาพวาดของเด็กๆ ที่ถูกส่งมาจากทั่วโลกมาจัดการประกวด และจัดแสดงนิทรรศการตามเมืองใหญ่ๆ ทั้งในประเทศญี่ปุ่น และประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดย เพนเทล ประเทศไทย ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ที่เจะได้รับจากการประกวด จึงได้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2540 โดยรวบรวมภาพวาดผลงานของเยาวชนไทย และส่งผลงานที่ผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขันกับเยาวชนทั่วโลก ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน