ยูดี ทรัคส์ ฉลองความสำเร็จยอดการผลิตเควสเตอร์ 15,000 คัน

          - เดินหน้าพัฒนาเควสเตอร์ ยกระดับบริการแก่ลูกค้า

          ยูดี ทรัคส์ ฉลองความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ด้วยยอดการผลิต ยูดี เควสเตอร์ ครบ 15,000 คัน พร้อมชูคำมั่นสัญญา "ไปได้ไกลกว่า" (Going the Extra Mile) แก่ลูกค้าในการยกระดับคุณภาพรถบรรทุก ยูดี เควสเตอร์ รถบรรทุกเพื่องานขนส่ง ตามมาตรฐานระดับสูงจากประเทศญี่ปุ่นที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนได้รับความไว้วางใจไปทั่วโลก
          มร. ฌาคส์ มิเชล ประธาน Volvo Group Trucks Asia & JVs Sales เปิดเผยว่า "เควสเตอร์เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2556 ซึ่งประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตของยูดี ทรัคส์ เพื่อส่งออกไปยังทั่วโลก ยูดี เควสเตอร์ ถือเป็นรถบรรทุกรุ่นใหม่ของยูดี ทรัคส์ ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเจาะตลาดงานขนส่งที่ใช้รถบรรทุกขนาดใหญ่โดยเฉพาะ ด้วยการผสมผสานของค่านิยมหลักของ ยูดี ทรัคส์ คือ ความไว้วางใจได้สูงสุด และจิตวิญญาณแห่งเกมบะ เควสเตอร์จึงเป็นที่ยอมรับจากตลาดโลก"
รองรับการเติบโตภาคการขนส่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
          จากการคาดการณ์ว่าปริมาณการค้าของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีการเติบโตสูงถึง 130% ในปี พ.ศ. 2566 ภายใต้การรวมตัวกันในรูปแบบของ ASEAN Economic Community ซึ่งจะทำให้การขนส่งข้ามพรมแดนจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ตลอดช่วง 40 ปีที่ผ่านมา วอลโว่ กรุ๊ป ได้ลงทุนมากถึง 2,000 ล้านบาทในการขยายกำลังการผลิตในโรงงานประกอบรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ เป็น 20,000 คันต่อปีในประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถบรรทุก ยูดี ทรัคส์ ไปทั่วโลก
          โรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานผลิตและประกอบรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ แห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น และสามารถดำเนินการผลิตรถบรรทุกยูดี เควสเตอร์อย่างต่อเนื่องจนถึงคันที่ 15,000 คัน ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์เพื่อรองรับตลาดที่กำลังเติบโตทางเศรษฐกิจและมีการแข่งขันสูง อาทิ ประเทศไทยและตลาดส่งออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
          ทางด้าน มร. นิโคลาส วีคส์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ประจำสถานทูตสวีเดนในประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า "เรามีความยินดีอย่างมากที่ได้เข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญในวันนี้ของวอลโว่ กรุ๊ป ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของประเทศสวีเดน ทั้งนี้ เราเองมีนโยบายที่ส่งเสริมการค้าและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศสวีเดน ประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักที่สร้างการเจริญเติบโตของตลาด และเราเชื่อมั่นว่าความสำเร็จของวอลโว่ กรุ๊ป ในวันนี้จะถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จให้แก่บริษัทอื่น ๆ ด้วย"
          เพิ่มผลกำไรสูงสุดให้กับลูกค้าด้วยกระบวนการผลิตคุณภาพสูงแบบญี่ปุ่นและนวัตกรรมชั้นนำจากวอลโว่ กรุ๊ป ที่ยูดี ทรัคส์ มีสิ่งสำคัญที่พนักงานทุกคนต้องยึดมั่นนั่นคือ จิตวิญญาณแห่งเกมบะ (Gemba Spirit) หมายถึงการเข้าถึงและใกล้ชิดกับพื้นที่นั้นๆ พร้อมกับรับฟังความต้องการของลูกค้าในและตลาดหรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันไป เพื่อเป็นเสมือนพันธมิตรทางธุรกิจของพวกเขา
          รถบรรทุกยูดี ทรัคส์ ถูกออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในทุกมิติของลูกค้า เควสเตอร์ถูกทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้ได้รถบรรทุกที่ตอบโจทย์ลูกค้าในด้านธุรกิจและความทนทานต่อการใช้งาน ความไว้วางใจได้ในตัวผลิตภัณฑ์และการประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง
          การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีชั้นนำจากวอลโว่ กรุ๊ป และกระบวนการผลิตอย่างประณีตที่มีคุณภาพสูงอย่างชาวญี่ปุ่น ทำให้เครื่องยนต์ของยูดี เควสเตอร์ GH8E และ GH11E สามารถสร้างความเชื่อมั่นในด้านประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงและให้พละกำลังเต็มประสิทธิภาพ และยังมีระบบการแนะนำการขับขี่ประหยัดน้ำมันแบบเรียลไทม์ (The built-in Fuel Coaching system) ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ทันทีระหว่างการเดินทาง เพื่อช่วยปรับพฤติกรรมการขับขี่แก่พนักงานขับรถ และลดต้นทุนในด้านพลังงานเชื้อเพลิง
          รถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ ทุกคัน สามารถเชื่อมต่อระบบ ยูดี เทเลเมติกส์ (UD Telematics Services) กับศูนย์บริการยูดี ทรัคส์ เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ปัญหา ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ด้วยระบบการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ พร้อมให้คำแนะนำที่อยู่บนพื้นฐานของพฤติกรรมการขับขี่และการใช้พลังงานเชื้อเพลิงของพนักงานขับรถแต่ละคน จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ารถทุกคันจะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและที่สำคัญคือการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้ย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
          ยูดี เควสเตอร์ ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดที่เป็นพื้นฐานสำคัญของ ยูดี ทรัคส์ คือความไว้วางใจสูงสุด หรือ "Ultimate Dependability" ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ UD และเพื่อความมั่นใจอย่างสูงสุด ยูดี ทรัคส์ ได้ลดช่วงเวลาการจอดซ่อมบำรุงด้วย งานบริการ ยูดี เอ็กซ์ตร้าไมล์ ซัพพอร์ท (UD Extra Mile Support) ผ่านเครือข่ายศูนย์บริการกระจายทั่วประเทศพร้อมด้วยทีมบริการที่ประกอบด้วยช่างผู้ชำนาญการผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดีเพื่อให้การให้บริการหลังการขายอย่างมาตรฐานด้วยอะไหล่แท้ พร้อมทั้งช่วยลูกค้าในเรื่องการวางแผนงานบริการ และการฝึกอบรมหลังส่งมอบรถ ทั้งหมดเพื่อช่วยให้ฟลีทรถของลูกค้าสร้างประสิทธิผลสูงสุด
          ทั้งหมดนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายของยูดี ทรัคส์ ที่จะลดต้นทุนการดำเนินงานระยะยาวให้แก่ลูกค้าที่ถือเป็นพันธมิตรคนสำคัญในการผลักดันธุรกิจลูกค้าให้สามารถประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าที่มีฟลีทรถบรรทุกประจำการอยู่ในภูมิภาคเอเชียให้สามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนน้ำมันที่คิดเป็น 50% ของต้นทุนทั้งหมด
          นับจากการเปิดตัวยูดี เควสเตอร์ รถบรรทุกรุ่นนี้ได้รับการยอมรับจากบริษัทผู้ให้บริการด้านขนส่งทั่วโลก ซึ่งวางใจเลือกใช้เควสเตอร์ในการขนส่งในงานที่หลากหลาย ยูดี เควสเตอร์ ยังได้ผ่านการพิสูจน์ในด้านความน่าเชื่อถือจากลูกค้าในประเทศต่าง ๆ ตัวอย่างเช่นลูกค้าที่ให้บริการขนส่งในประเทศมาเลเซียได้เพิ่มจำนวนรถยูดี เควสเตอร์ อย่างต่อเนื่องนับจากปี พ.ศ. 2560 ภายหลังที่เห็นผลสำเร็จในการทำธุรกิจที่เป็นภาคการขนส่งทางไกลด้วยรถบรรทุก ยูดี เควสเตอร์
          ทุกวันนี้ รถบรรทุกยูดี เควสเตอร์ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในประเทศมาเลเซีย โดยในปัจจุบัน 25% ของคำสั่งซื้อมาจากการซื้อซ้ำของลูกค้าเก่าที่มีประสบการณ์ที่ดีกับตัว และทำการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง
          เสริมคุณค่าแก่สังคมด้วยการยกระดับทักษะและสร้างคุณค่างานที่สูงขึ้น เพื่อเป็นการรักษาคำมั่นสัญญาที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานขนส่ง และขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก ยูดี ทรัคส์ มีความตั้งใจที่จะเติบเต็มในเรื่องทักษะแรงงาน โดยดำเนินการยกระดับทักษะแรงงาน มีการถ่ายทอดความรู้และสร้างงานที่มีมูลค่าสูงให้กับแรงงานในตลาดเควสเตอร์ พร้อมด้วยรถบรรทุกทุกรุ่นในค่ายยูดี ทรัคส์ มีที่มาจากสุดยอด 3 สิ่งของโลกได้แก่ สุดยอดงานฝีมือตามแบบอย่างมรดกจากชาวญี่ปุ่น ความล้ำหน้าทางด้านเทคโนโลยีของวอลโว่ กรุ๊ป และ ความชำนาญการในท้องที่ไม่ว่าจะเป็นการผลิต และการสนับสนุนลูกค้า
          ทางด้านนายกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานยูดี ทรัคส์ ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากลูกค้าที่เชื่อมั่นในรถบรรทุกและบริการของเรา ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เราไม่หยุดพัฒนาเพื่อสร้างรถบรรทุกและงานบริการที่ดีที่สุดที่โลกทุกวันนี้ต้องการ"
          "ความสำเร็จที่เกิดขึ้นวันนี้ ถือเป็นสิ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของตลาดประเทศไทยต่อวอลโว่ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเรา เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสานต่อความสำเร็จนี้ต่อไปในอนาคต และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเติบโตต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก" นายกำลาภ กล่าว