คำอธิบายและการวิเคราะห์งบการเงิน สิ้นสุด 30 กันยายน 2561 (ก่อนตรวจสอบ) ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          ภาพรวมผลการดำเนินงาน 
          ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2561 ของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (ธนาคารเกียรตินาคิน และบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 1,551ล้านบาท โดยอยู่ในระดับคงที่เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2561 ที่มีจำนวน 1,551 ล้านบาท และหากเทียบกับไตรมาส 3/2560 ลดลงร้อยละ 10.0 
          สำหรับผลกำรดำเนินงำนงวดเก้าเดือนปี 2561 เปรียบเทียบกับงวดเก้าเดือนปี 2560 มีกำไรสุทธิ ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 4,615 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 จากงวดเดียวกันของปี 2560
          สินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 มีจำนวน 295,877 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 จากสิ้นปี 2560
          ธุรกิจธนาคารพาณิชย์
          ไตรมาส 3/2561 สินเชื่อของธนาคารมียอดรวมอยู่ที่ 220,141 ล้านบาท ขยายตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 2/2561 ส่งผลใหสินเชื่อโดยรวมของธนาคารมีการขยายตัวที่ร้อยละ 14.1 จากสิ้นปี 2560 โดยสินเชื่อมีการขยายตัวในทุกประเภท ด้านคุณภาพของสินเชื่อ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมยังคงปรับลดลงต่อเนื่องโดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2561 อยู่ที่ร้อยละ 4.2 
          ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) คำนวณตามเกณฑ์ Basel III ซึ่งเงินกองทุนทั้งสิ้นได้รวมกำไรถึงงวดครึ่งแรกของปี 2561 หลังหักเงินปันผลจ่าย อยู่ที่ร้อยละ 16.36 โดยเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับร้อยละ 12.85 แต่หากรวมกำไรถึงสิ้นไตรมาส 3/2561 จะส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับร้อยละ 17.03 และเงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับร้อยละ 13.52 

          ธุรกิจตลาดทุน
          ธุรกิจนายหน้ำ (Brokerage Business) 
          บล.ภัทร ดำเนินธุรกิจให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และตราสารอนุพันธ์แก่ลูกค้าประเภทสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มลูกค้าบุคคลรายใหญ่ภายใต้บริการ Private Wealth Management ซึ่งในกลุ่มนี้บริษัทให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุนและหุ้นกู้อนุพันธ์อีกด้วย สำหรับไตรมาส 3/2561 บล.ภัทร มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 4.2 เป็นอันดับที่ 8 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด 38 แห่ง และบล.ภัทร มีรายได้ค่านายหน้า 312 ล้านบาท 

          ธุรกิจวานิชธนกิจ (Investment Banking Business) 
          บล.ภัทร ประกอบธุรกิจวานิชธนกิจ ให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและการจัดจาหน่ายหลักทรัพย์ ในไตรมาส 3/2561 บล.ภัทร มีรายได้จากธุรกิจวานิชธนกิจรวม 86 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ที่ปรึกษาทางการเงิน 40 ล้านบาท รายได้การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 12 ล้านบาท และรายได้อื่น 34 ล้านบาท

          ธุรกิจกำรลงทุน (Investment Business) 
          ไตรมาส 3/2561 ฝ่ายลงทุนมีผลขาดทุนจากการลงทุนโดยรวมขาดทุนจากการวัดมูลค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์ 91 ล้านบาท ในส่วนของธุรกิจเฮดจ์ฟันด์มีผลขาดทุน 44 ล้านบาท สำหรับฝ่ายค้าหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสามารถทำรายได้จานวน 76 ล้านบาท และเมื่อรวมกับรายได้จากการลงทุนอื่นในส่วนของการบริหารเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัท ทำให้ในไตรมาส 3/2561 บริษัทและบริษัทย่อยมีผลขาดทุนรวมจากธุรกิจลงทุนจำนวน 28 ล้านบาท

          ธุรกิจจัดกำรกองทุน (Asset Management Business) 
          ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 บลจ.ภัทร มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการของกองทุน 66,407 ล้านบาท มีกองทุนภายใต้การบริหารรวม 26 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนรวม (Mutual Fund) 23 กองและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 3 กอง โดยมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 1.3 สำหรับไตรมาส 3/2561 บลจ.ภัทร มีรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุนรวมจานวน 125 ล้านบาท 

          สาหรับกองทุนส่วนบุคคล ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 27,841 ล้านบาท ทั้งนี้ บลจ.ภัทร มีรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคลจำนวน 76 ล้านบาท 

          ภาวะเศรษฐกิจ ตลาดเงิน ตลาดทุน
          เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2561 ขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2561 โดยเป็นผลจากการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นสาคัญ ทั้งการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน โดยการบริโภคภาคเอกชนฟื้นตัวอย่างชัดเจนในสินค้าคงทน (โดยเฉพาะรถยนต์) สอดคล้องไปกับรายได้ของครัวเรือนที่ปรับตัวดีขึ้น
          ในส่วนของการลงทุนของภาครัฐปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปีตามการเบิกจ่ายค่าก่อสร้างและเครื่องจักรของกรมชลประทานและกรมทางหลวงชนบทเป็นสาคัญ ขณะที่ภาคต่างประเทศขยายตัวชะลอลง ทั้งการส่งออกที่ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องซักผ้า และโซลาร์เซลล์ที่หดตัวจากการขึ้นภาษีนาเข้าของสหรัฐและฐานสูงจากการเร่งส่งออกปีก่อน รวมถึงการส่งออกสินค้าในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ก็เริ่มชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน ในส่วนของการท่องเที่ยวในไตรมาส 3 มีทิศทางชะลอตัวลงมากจากผลกระทบจากเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่จังหวัดภูเก็ตเป็นสำคัญ สอดรับไปกับจำนวนนักท่องเที่ยวเดือนกรกฏาคมและสิงหาคมเมื่อปรับฤดูกาลแล้ว ลดลงต่อเนื่องจากเดือนก่อน 
          แม้ว่าแนวโน้มของเศรษฐกิจจะมีทิศทางที่ทยอยดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้จ่ายของภาคเอกชนในประเทศ แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวในระยะข้างหน้า ได้แก่ หนึ่ง ปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจและสังคมไทย รวมถึงภาระหนี้ที่ยังอยู่ในระดับสูงทำให้การบริโภคของครัวเรือนยังขยายตัวได้ไม่ทั่วถึง สอง ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐและประเทศอื่นๆ ที่ตอบโต้สหรัฐ รวมถึงแนวโน้มความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนที่อาจอ่อนแอลง อาจส่งผลให้การขยายตัวของภาคส่งออก ต่อเนื่องมาถึงภาคการลงทุนชะลอตัวลง สาม ความผันผวนของราคาน้ำมันในทิศทางเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์โดยฉพาะแถบตะวันออกกลาง ซึ่งกระทบต่อดุลบัญชีเดินสะพัดให้ปรับตัวลดลง รวมถึงเงินเฟ้อให้สูงขึ้น และสี่ ความตึงตัวทางการเงินที่เริ่มเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากสัญญาณของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เริ่มพิจารณาความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต และจากดอกเบี้ยในตลาดการเงินที่เริ่มปรับเพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะคงอยู่ที่ร้อยละ 1.5 จนถึงสิ้นปีนี้
 
 
 
 

ข่าวกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร+ธนาคารเกียรตินาคินวันนี้

เงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหาร จากกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP)

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่ นำทีมงานชาวเงินติดล้อ เปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารจาก กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) ประกอบด้วย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) และบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด (KKP Dime) มีจำนวน 20 คน ในกิจกรรม "TIDLOR Culture Wow" เพื่อแนะนำและแลกเปลี่ยนแนวคิด วิธีการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อต่อยอดการสร้างค่านิยมในแบบฉบับเงินติดล้อ นอกจากนี้ยัง

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ธนาคา... ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ ธ. เกียรตินาคินภัทร สร้างพี่เลี้ยงการเงิน — ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) จัดเวิร์กชอปอ...

ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทใน... ธนาคารเกียรตินาคิน ร่วมลงนามข้อตกลงโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ บรรเทาวิกฤตการณ์ COVID-19 — ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียร...