เกษตรฯ ชี้ระวัง “แมลงบั่ว” ช่วงอากาศชื้น

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนชาวนาระวังแมลงบั่วหวั่นทำลายนาข้าวช่วงอากาศชื้น ลั่นห้ามใช้สารฆ่าแมลงกำจัด
          จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงนี้ 8-14 ตุลาคม ที่คาดการณ์ว่า ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก และจะมีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องนั้น กรมส่งเสริมการเกษตร จึงขอเตือนให้ชาวนาหมั่นสำรวจแปลงนา เพื่อเฝ้าระวังแมลงบั่ว ที่อาจเข้ามาสร้างความเสียหายให้กับนาข้าวในช่วงอากาศชื้นได้
          นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในช่วงนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยเผชิญฝนและสภาพอากาศชื้น เสี่ยงต่อการระบาดของแมลงบั่วในนาข้าว เนื่องจากความชื้นมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการวางไข่ จำนวนไข่ การฟัก การอยู่รอดของหนอน และการเข้าทำลายยอดข้าวอ่อน โดยตัวเต็มวัยของแมลงบั่วจะมีลักษณะคล้ายยุงหรือริ้น ลำตัวยาว 3-4 มม. หนวดและขามีสีดำ กลางวันจะเกาะซ่อนตัวอยู่ใต้ใบข้าวและวัชพืชริมแปลงนา ส่วนช่วงเวลากลางคืนจะบินอยู่ในบริเวณที่มีแสงไฟเพื่อผสมพันธ์และวางไข่ในลักษณะเดี่ยว หรือกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 ฟองใต้ใบข้าว ลักษณะไข่คล้ายกล้วยหอม ยาว 0.45 มม. เมื่อฟักตัวหนอนจะอาศัยอยู่บริเวณกาบใบข้าว และกัดกินตายอดอ่อน กอข้าวบริเวณที่ถูกทำลาย จะมีลักษณะเป็นหลอดยาวสีเขียวอ่อน แคระแกรน ต้นเตี้ย หากระบาดรุนแรงจะส่งผลทำให้ข้าวไม่ออกรวง ผลผลิตต่อไร่ลดลง
          รองอธิบดีฯ กล่าวถึงวิธีการป้องกันกำจัดว่า ควรใช้หลายวิธีร่วมกัน คือ ให้เกษตรกรหมั่นกำจัดวัชพืชรอบแปลงนา เช่น ข้าวป่า หญ้าข้าวนก หญ้าไซ หญ้าแดง หญ้าชันอากาศ เพื่อทำลายพืชอาศัยของแมลงบั่ว ทำลายตัวเต็มวัยที่บินมาเล่นแสงไฟตามบ้าน ในช่วงเวลาประมาณ 19.00-21.00 น. โดยใช้ไม้ตีแมลงวัน ไม่ควรใช้สารฆ่าแมลงใด ๆ ในการป้องกันกำจัดแมลงบั่ว เนื่องจากไม่ได้ผล และยังทำลายศัตรูธรรมชาติอีกด้วย สำหรับพื้นที่ที่มักพบการระบาดของแมลงบั่วอยู่บ่อยครั้ง ไม่ควรปลูกข้าวด้วยวิธีหว่านหรือปักดำถี่ (ระยะปักดำ 10x15 และ 15x15 ซม.)
เกษตรฯ ชี้ระวัง “แมลงบั่ว” ช่วงอากาศชื้น
 
เกษตรฯ ชี้ระวัง “แมลงบั่ว” ช่วงอากาศชื้น
 
 

ข่าวอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร+กรมส่งเสริมการเกษตรวันนี้

กรมส่งเสริมเกษตร แนะวิธีใช้ชีวภัณฑ์ฟื้นฟูพื้นที่เกษตรอย่างเหมาะสม

การฟื้นฟูพื้นที่เกษตรหลังน้ำลดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานานส่งผลให้ โครงสร้างดินเสียหาย ดินแน่นทึบ ขาดออกซิเจน และมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา เช่น โรครากเน่า โคนเน่า และโรคเหี่ยว ชีวภัณฑ์ (Bioproducts) หรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการบำบัดและฟื้นฟูดิน รวมถึงการควบคุมโรคพืช นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ก่อนใช้ชีวภัณฑ์ ควรเร่งระบายน้ำที่ขังออกจากแปลงปลูกให้เร็วที่สุด กำจัดเศษซากพืช

จากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤ... เกษตรฯ เผยแผนฟื้นฟูน้ำท่วมภาคใต้ ด้านพืช เน้นฟื้นดิน-ฟื้นต้น-ป้องกันโรค หลังน้ำลด — จากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 ส่งผลกระทบในหลาย...

กรมส่งเสริมการเกษตรเผยผลความคืบหน้าการบริ... กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าสร้างเกษตรปลอดเผายั่งยืน สู้ PM2.5 — กรมส่งเสริมการเกษตรเผยผลความคืบหน้าการบริหารจัดการปัญหาฝุ่นควันและ PM2.5 จากการเผาในพื้นท...

กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าขับเคลื่อนแผน... เกษตรฯ เร่งผลิต-ขยาย-กระจาย "มันสำปะหลังพันธุ์ดีต้านทานโรคใบด่าง" ครอบคลุมทั่วประเทศ — กรมส่งเสริมการเกษตร เดินหน้าขับเคลื่อนแผนเร่งผลิต ขยาย และกระจาย "ม...

นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษ... กรมส่งเสริมการเกษตร นำเกษตรกรสร้างรายได้ ขายลำไยแล้ว 11 ตัน — นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร มีภารกิจในการสนับสน...