PwC เผยองค์กรทั่วโลกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นใหม่ และความท้าทายที่ยังไม่เคยมีมาก่อน ภายหลังนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีปฏิวัติสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะข้อปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยงที่จะช่วยติดอาวุธให้กับผู้นำองค์กร ให้ได้รับคุณค่าจากการดำเนินงานด้านนวัตกรรมอย่างแท้จริง และสามารถจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องได้ดีขึ้นเพื่อรองรับกับการเติบโตในอนาคต
นางวารุณี ปรีดานนท์ หุ้นส่วนสายงานบริหารความเสี่ยงและตรวจสอบภายใน บริษัท PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงรายงานการประเมินความเสี่ยงขององค์กร (Risk in Review Study) ประจำปี 2561 ในหัวข้อ "Managing risks and enabling growth in the age of innovation" ที่ทำการสำรวจผู้บริหารความเสี่ยงระดับอาวุโสจำนวนกว่า 1,500 ราย ประกอบด้วย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความเสี่ยง คณะกรรมการตรวจสอบความเสี่ยง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารขององค์กรใน 76 ประเทศทั่วโลก โดยศึกษาถึงข้อปฏิบัติที่ผู้บริหารความเสี่ยงใช้เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนจากการประยุกต์ใช้นวัตกรรมว่า ผู้บริหารถึง 60% ที่ทำการสำรวจ สามารถบริหารความเสี่ยงด้านนวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก หรือมีประสิทธิภาพค่อนข้างมาก โดยเรียกกลุ่มนี้ว่าเป็น 'ผู้ที่สามารถปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม' (Adapters)
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม ยังมีความสามารถเหนือกว่ากลุ่มที่ด้อยกว่า หรือ 'กลุ่มผู้ที่ไม่ได้ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม' (Non-adapters) ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับนวัตกรรม เช่น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ (57% เทียบกับ 18% ของกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม) และ คุณค่าที่ฝ่ายบริหารความเสี่ยงนำมาสู่องค์กร (58% เปรียบเทียบกับ 18% ของกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม)
ยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม ยังเป็นกลุ่มที่มีความมั่นใจในความสามารถของการบริหารกิจกรรมความเสี่ยงที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง มากกว่ากลุ่มที่ด้อยกว่าถึง 2 ถึง 3 เท่า และเป็นกลุ่มที่คาดว่า รายได้ขององค์กรจะมีแนวโน้มเติบโต
นายแอนดรูว์ แมคเฟอร์สัน หัวหน้าสายงานการปฏิบัติตามความเสี่ยงทั่วโลก และตรวจสอบภายใน กล่าวว่า "ธุรกิจทั่วโลกกำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นใหม่เพื่อสร้างการเติบโตให้กับองค์กร แต่การที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่นั้น องค์กรต้องมีความสามารถในการบริหารความเสี่ยง และการประยุกต์ใช้นวัตกรรมที่สอดคล้องกันไปในทุกๆ ขั้นตอน โดยกลุ่มผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมต้องมั่นใจว่า ผู้บริหารความเสี่ยงของตนแสดงความมีส่วนร่วมต่อการตัดสินใจตลอดทั้งวงจรชีวิตของนวัตกรรม และต้องมีการรับมือกับความเสี่ยงทั้งที่รู้จักและไม่คาดคิดมาก่อน โดยผู้ที่สามารถปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมได้ จะสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้อย่างแตกต่าง และมีความเป็นไปได้สูงถึง 3 เท่าที่หน่วยงานบริหารความเสี่ยงเหล่านี้จะมีความสามารถในการสร้างคุณค่าให้กับองค์กรได้อย่างมีนัยสำคัญ"
ทั้งนี้ ผลสำรวจของ PwC ยังได้สรุปความแตกต่างที่สำคัญ 5 ประการระหว่างกลุ่มผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม และกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม ดังนี้
1. การมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นและทั่วทั้งวงจรนวัตกรรม กลุ่มผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมมีแนวโน้มที่จะให้คำแนะนำที่เกี่ยวกับกิจกรรมด้านนวัตกรรมก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการนำไปประยุกต์ใช้ มากกว่ากลุ่มผู้ที่ไม่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมถึง 2 เท่า
2. ความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยงด้านนวัตกรรมจากการดำเนินกิจกรรมใหม่ๆ ที่หลากหลาย กลุ่มผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมมีความสามารถในการปฏิบัติการในด้านต่างๆ มากกว่ากลุ่มผู้ที่ไม่ได้ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม โดยสามารถดำเนินการในด้านต่างๆ ได้ถึง 4 กิจกรรมหรือมากกว่านั้น เพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านนวัตกรรม ตั้งแต่การปรับกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กร ไปจนถึง การถ่ายโอนความเสี่ยง
3. ความสามารถในการปรับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และระดับความเบี่ยงเบนของความเสี่ยงที่ยอมรับได้ กลุ่มผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรม มีความสามารถในการปรับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ดีกว่ากลุ่มที่ด้อยกว่า ดูจากความสามารถในการบริหาร 8 กิจกรรมบริหารความเสี่ยงที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจด้านนวัตกรรม ได้แก่ 1) การดำเนินธุรกรรมเชิงกลยุทธ์เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ 2) การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ นอกเหนือจากบริการหลักเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ 3) การใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือเพื่อกำหนดกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆ 4) การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ หรือประสบการณ์ของลูกค้าอย่างมีนัยสำคัญ 5) การเข้าสู่ตลาดใหม่ 6) การสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ 7) การเปลี่ยนรูปแบบในการกระจายสินค้า และ 8) การเปลี่ยนรูปแบบของพนักงานมากความสามารถ
4. ความสามารถในการใช้ทักษะ ความสามารถ และเครื่องมือใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนนวัตกรรม 58% ของผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมรายงานว่า ตนมีการส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารความเสี่ยงด้วยการเพิ่มชุดทักษะเปรียบเทียบกับกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมที่ 39%
5. การติดตามและประเมินผลประสิทธิภาพของการบริหารความเสี่ยงในหลากหลายรูปแบบ โดย 51% ของผู้ที่ปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมใช้บุคคลภายนอกในการประเมินความสามารถในการบริหารความเสี่ยง ขณะที่มีเพียง 27% ของผู้ที่ไม่สามารถปรับตัวต่อความเสี่ยงด้านนวัตกรรมที่มีการตรวจสอบประสิทธิภาพของตนในเรื่องนี้
ด้าน นางวารุณี กล่าวทิ้งท้ายว่า "ธุรกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับการแข่งขันในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดสินค้าและบริการใหม่ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของข้อกฎหมาย สถานการณ์ทางการเมืองที่มีผลต่ออาณาเขตการทำธุรกิจ รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีทางเลือกในการเข้าถึงสินค้าบริการได้ง่ายและหลายช่องทาง ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและมีรูปแบบใหม่ๆ ดังนั้น องค์กรที่ไม่สามารถรับมือได้ จะได้รับผลกระทบทางธุรกิจ เช่น ยอดขายลดลง ลูกค้าถดถอย หรือรุนแรงสุดอาจต้องปิดกิจการ ซึ่งธุรกิจจะต้องวิเคราะห์ความเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้ ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น และเตรียมปรับแผนธุรกิจหรือการทำงานเพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงดังกล่าว
"ในส่วนของการปรับแผนธุรกิจนั้น ผู้บริหารต้องเริ่มจากการทบทวนแผนธุรกิจหรือแผนยุทธศาสตร์ เพื่อลดความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ เช่น เริ่มปรับปรุงบริการใหม่โดยมีนวัตกรรมในการบริการลูกค้า การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีความน่าเชื่อถือ และควบคุมการปฏิบัติงานให้เป็นระบบ เพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินงาน การบริหารการเงินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงด้านการเงิน ตลอดจนการบริหารความเสี่ยงจากการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยการวิเคราะห์และจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ ต้องเริ่มจากผู้นำ เพื่อสร้างความมั่นใจและมั่นคงให้กับพนักงานและองค์กร ท่ามกลางสภาพการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา"
SAM ประกาศแต่งตั้ง "สุวรรณี เจษฎาศักดิ์" รองผู้ว่าการ ธปท. นั่งประธานบอร์ดคนใหม่
อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ยกระดับการบริหารจัดการเหตุการณ์วิกฤตทั่วโลก พลิกโฉมการดูแลพนักงานตามหลัก Duty of Care
อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส จับมือ เอ็กซ์ล็อก โกลบอล ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ให้บริการแบบครบวงจรด้านความปลอดภัย การข่าวกรอง และความช่วยเหลือทางการแพทย์ทั่วโลก
KPMG Business Leaders' Summit 2025 สำรวจกลยุทธ์การเติบโตท่ามกลางความผันผวนระดับโลก
SCB TechX คว้าใบรับรอง CSA STAR v4.0 ระดับ 2 ตอกย้ำความเป็นผู้นำ ด้านความปลอดภัยคลาวด์ พร้อมขับเคลื่อนระบบการเงินไทยสู่อนาคตดิจิทัล
NL ร่วมขับเคลื่อนอนาคตวงการก่อสร้างไทย มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ในงานเสวนา Thai Builders Forum ยกระดับมาตรฐาน สร้างโอกาสใหม่ในงานก่อสร้างไทย
บมจ.ศรีตรังฯ สาขานราธิวาส ต้อนรับหน่วยงานภาครัฐเข้าตรวจมาตรฐานโรงงาน พร้อมผ่านการตรวจสอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ทุกฝ่าย
'เงินเทอร์โบ' เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 537 ล้านหุ้น โชว์ศักยภาพผู้ให้บริการทางการเงินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และ DNA คนรุ่นใหม่