BWG กูรูด้านการจัดการมลพิษ และของเสียอันตราย ร่วมให้ข้อมูลในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “วิธีการจัดการอย่างไรที่จะทำให้กากอุตสาหกรรมถูกต้องตามกฎหมาย” หวังดึงขยะอิเล็กทรอนิคส์เข้าระบบ

          BWG ชูธงและป้ายไฟพร้อมนำเชียร์เมื่อรัฐมีนโยบายให้ขยะอุตสาหกรรมรวมไปถึงขยะอิเล็กทรอนิคส์เข้าสู่การกำจัดอย่างถูกต้องเป็นระบบ เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ทั้งร่วมให้ข้อมูลด้านการจัดการมลพิษและของเสียอันตรายอย่างถูกวิธีในงานสัมมนาหัวข้อ "วิธีการจัดการอย่างไรที่จะทำให้กากอุตสาหกรรมถูกต้องตามกฎหมาย" ในวันพุธที่ 4 กรกฎาคม 2561 เวลา 12.00 – 16.00 น. ณ ห้องอารียา โรงแรมเอเชีย แอร์พอร์ท เซียร์รังสิต จังหวัดปทุมธานี โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 100 โรงงานลงชื่อเข้าร่วมรับฟัง
          หลังจากประเทศไทยพบปัญหาการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องออกมาประกาศมาตรการห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์แบบเร่งด่วน
          โดยปกติแล้วขยะอิเล็กทรอนิกส์มีวิธีการจัดการใน 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การถอดประกอบ, 2. การนำโลหะมีค่าไปสกัด และ 3. การนำส่วนที่เหลือจากกระบวนการที่ 1 และกากอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นในกระบวนการที่ 2 ไปกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยการฝังหรือเผาโดยระบบที่รองรับกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย 
          คุณณัฐพรรณ เหลืองวิริยะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG) ผู้นำในธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร ทั้งฝังกลบ เผาทำลาย นำกลับมาใช้ใหม่และเป็นเชื้อเพลิงผลิตพลังงานทดแทน เปิดเผยถึงกรณีข่าวการลักลอบนำขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-waste เข้ามาทิ้งในประเทศไทย รวมทั้งข่าวการลักลอบทิ้งสารเคมีเสื่อมสภาพ น้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัด กากสารเคมีที่เกิดขึ้นจากโรงงานอุตสาหกรรมตามสถานที่ต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติว่า บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบนี้เป็นอย่างดี จึงพร้อมให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือภาครัฐเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมชุมชนและทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย 
          โดยบริษัทฯ พร้อมสนับสนุนการจัดการของภาครัฐในทุกมิติ และล่าสุดได้ร่วมให้ข้อมูลด้านขั้นตอนการจัดการกากอุตสาหกรรมและวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติในหัวข้อ "วิธีการจัดการอย่างไรที่จะทำให้กากอุตสาหกรรมถูกต้องตามกฎหมาย" ซึ่งจัดโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม และภายในงานจะมีการให้ข้อมูลความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการกากอุตสาหกรรมและวัสดุที่ไม่ใช้แล้วโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรมด้วย โดยจุดประสงค์การไปร่วมในการให้ข้อมูลในงานสัมมนาครั้งนี้ คือ 1. เพื่อให้ข้อมูลแก่โรงงาน เรื่องวิธีการจัดการขยะอุตสาหกรรม 2.ขยายกลุ่มลูกค้าและเติบโตด้านรายได้การให้บริการ
โดยงานสัมมนาลักษณะนี้จะจัดขึ้นอีกหลายครั้งในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมเป้าหมายในการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม โดยที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมจัดเสวนาวิชาการ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดและแนวทางที่จะนำมาใช้ในการส่งเสริม ปรับปรุง พัฒนาระบบการจัดการกากอุตสาหกรรมให้เหมาะสม และเกิดความยั่งยืนร่วมกันต่อไป ซึ่งบริษัทฯ มีความตั้งใจจะทำอย่างต่อเนื่องต่อไป" คุณณัฐพรรณ กล่าว 

          ข้อมูลบริษัท บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) 
          บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจการบริหารและจัดการสิ่งปฏิกูลฯอย่างครบวงจร (One Stop Service) โดยธุรกิจหลักที่ให้บริการมาตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินการ คือ การกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบตามหลักสุขาภิบาล และวิธีการฝังกลบอย่างปลอดภัย (รวมทั้งการฝังกลบอย่างปลอดภัยเมื่อทำการปรับเสถียร หรือทำให้เป็นก้อนแข็งแล้ว) โดยมีศูนย์บริหารและจัดการฯ อยู่ที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งภายในศูนย์บริหารและจัดการฯ บริษัทยังสามารถให้บริการบำบัด (Treatment) สำหรับการบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีทางเคมีกายภาพด้วย 
          ในปี 2550 บริษัทได้มีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติมในการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ (Recycle) ด้วยการทำเชื้อเพลิงผสม (Fuel Blending) นอกจากนี้บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่การบำบัด (Treatment) ด้วยวิธีเผาทำลายในเตาเผาเฉพาะสำหรับของเสียอันตราย ผ่านบริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย นอกจากนั้น บริษัทมีรายได้ค่าบริการจากการจัดการสิ่งปฏิกูลฯ ด้วยวิธีการอื่นซึ่งบริษัทฯ มิได้เป็นผู้ดำเนินการด้วยตนเองอีกส่วนหนึ่งด้วย อาทิ การส่งไปเป็นวัตถุดิบทดแทนหรือเผาทำลายร่วมในเตาเผาปูนซีเมนต์ และการส่งไปยังโรงงาน เพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ (Recycle) เป็นต้น
          ปี 2557 ขยายธุรกิจไปสู่พลังงานทดแทน ผลิตกระแสไฟฟ้าจากวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตรายจากโรงงานอุตสาหกรรม ผ่านบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด โดยโครงการแรกของบริษัท ได้รับการส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel) ขนาด 9.4 เมกะวัตต์ จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นเวลา 8 ปี