นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลง หลุดแนวรับสำคัญที่ 1,730 จุด และปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ต่ำกว่าแนวรับที่ประเมินไว้เบื้องต้นที่ 1,680 จุด ส่งผลให้โครงสร้างทางเทคนิคของ SET เป็นขาลงยาว โดยมีแนวรับถัดไปบริเวณ 1,580 – 1,600 จุด ประกอบกับ RSI Indicator เริ่มเข้าสู่ระดับ Oversold ที่มีนัยสำคัญ จากประเด็นกระแสเงินทุนไหลออก หลังจากเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐสูงกว่าไทยราว 75 bps – 100 bps ขณะที่ประเด็นมาตรการกีดกันการค้าการลงทุนระหว่างสหรัฐกับจีนกดดัน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังลดความเสี่ยงการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ และทำให้ภาวะการลงทุนในเดือน มิ.ย.61 ที่ผ่านมาดัชนีหุ้นไทยปิด ลดลง7.60 % จากเดือนพ.ค. 2561
สำหรับทิศทาง Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติช่วง 6 เดือนแรก ที่ผ่านมายังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยจำนวน 5,727 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทยจำนวน 3,482 ล้านเหรียญสหรัฐ ปัจจัยสำคัญ มาจากแรงกดดันของทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐที่จะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งภายในปีนี้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐในช่วงปลายปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.375% ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายไทยหากปรับขึ้น 1 ครั้งภายในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.75% ดังนั้นส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ย Real Interest rate สหรัฐอยู่ที่ 0.375% เทียบกับไทยที่ 0.23% ส่งผลให้ทิศทางเงินทุนต่างชาติยังมีโอกาสไหลออกจากตลาดเงินตลาดทุนไทย
ขณะที่ปัจจัยการลงทุนในเดือน ก.ค. นี้ ต้องติดตามทิศทาง Dollar Index ว่าจะแข็งค่าเกินระดับ 95 หรือไม่ หากดอลลาร์สหรัฐยังแข็ง ค่าจะส่งผลลบต่อ Fund Flow ในตลาดเกิดใหม่ รวมถึง ประเด็นมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐต่อจีน หากยืดเยื้อจนมีการขึ้นภาษีต่อกันระดับ 2 แสนดอลลาร์สหรัฐ อาจจะส่งผลลบต่อการค้าโลก รวมถึงข้อจำกัดการลงทุนของต่างชาติในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินความเสี่ยง ว่าการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นไทย น่าจะเริ่มลดลง และคาดว่าสหรัฐคงไม่ใช้มาตรการกีดกันการค้าจนถึงขนาดเกิดวิกฤตค่าเงินหยวนและการขายพันธบัตรสหรัฐมูลค่า 1.18 ล้านล้านดอลลาร์ที่จีนถืออยู่ ทั้งนี้ ประเมินแนวรับที่ระดับ 1,540 – 1,595 จุด ( Forward P/E 14.0 – 14.5x ) แนะซื้อ ในกลุ่มธนาคาร BBL, KKP ( สินเชื่อขยายตัวดี และน่าจะได้รับผลกระทบจากฟรีค่าธรรมเนียมโอนน้อย ), กลุ่ม Domestic Play เช่น CPALL , ADVANC , กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง & นิคมฯ เช่น CK , STEC , AMATA และกลุ่มส่งออก เช่นCPF , GFPT , KCE
" หากมีการยืนยันจุดต่ำสุดบริเวณ 1,580 – 1,600 จุด จริง ดัชนี SET มีโอกาส Rebound กลับ ราว 80 - 100 จุด ประเด็นที่ต้องระวังคือ ดัชนี Dollar Index จะต้องไม่แข็งค่าเกินกว่าระดับ 95 ซึ่งอาจจะส่งผลให้ดัชนี SET มีโอกาสผันผวนขาลงมากกว่าแนวรับที่ประเมินไว้ แนะนำซื้อ ณ ดัชนีบริเวณ 1,580 จุด"นายอภิชัย กล่าวในที่สุด
"บล.คิงส์ฟอร์ด"ลุ้นดัชนีหุ้นไทยทะลุ 1,700 จุด พ.ค.นี้ เน้นเกาะติดการเมืองคาดจัดตั้งรัฐบาลใหม่ , สงครามการค้าสหรัฐ – จีน แนะซื้อ CPALL-BJC-HMPRO-AOT-ERW-AP-SPALI-PSH รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
บล.คิงส์ฟอร์ดคาด SET Index เม.ย.นี้ทรงตัวในกรอบ1,620–1,670จุด รอผลสรุปคะแนนเลือกตั้ง-ความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐกับจีน แนะลงทุนหุ้นอิง MSCI นำ NVDR เข้าคำนวณ ทั้ง DTAC-CENTEL-INTUCH-RATCH
"แอพเพิลเวลธ์"ลุ้นSET มี.ค. คาดแกว่งตัวรอผลการเจรจการค้าสหรัฐ จีน-ผล , ผลเลือกตั้งไทย แนะซื้อหุ้นใหญ่ปันผลดี ดักผลตอบแทนเฉลี่ยทั้งตลาด 3.3%
"แอพเพิล เวลธ์"คาดดัชนีหุ้นไทยก.พ.ขาขึ้นแตะ1680 จุด เกาะติดผลเจรจาเบร็กซิท-การค้าจีนกับสหรัฐ เน้นลงทุนหุ้นแบงก์-พลังงาน-สื่อสาร
Gossip News: "แอพเพิล เวลธ์"แนะขายบางส่วน รอวันเลือกตั้งชัดเจน
Gossip News: "แอพเพิล เวลธ์"แนะเกาะติดปัจจัย ตปท.
บล.แอพเพิลเวลธ์ ฟันธง! SET เดือน ธ.ค.เด้งกลับ 1,700 จุด หลังสหรัฐ-จีน ประกาศยุติสงครามการค้าชั่วคราว ลุ้นเลือกตั้งชัด ดันตลาดหุ้นไทยปี 62 ทะยานแตะ 1,810 จุด
Gossip News: "บล.แอพเพิล เวลธ์" มองสัปดาห์นี้หุ้นไทยคาดปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,670 จุด
Gossip News: "บล.แอพเพิล เวลธ์" แนะตุนหุ้นแบงก์เข้าพอร์ต