ยอดใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในฤดูร้อนปี 2561 ประเทศไทยมียอดทำธุรกรรมผ่านอาลีเพย์สูงสุดเป็นอันดับสอง รองจากฮ่องกง

03 Sep 2018
ประเทศจีนเพิ่งผ่านวันหยุดฤดูร้อนสองเดือน (กรกฎาคม – สิงหาคม 2561) ซึ่งในระหว่างนั้นชาวจีนหลายล้านคนได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ขณะที่อาลีเพย์ได้มีการให้บริการอย่างแพร่หลายมากขึ้นในต่างประเทศ ส่งผลให้ยอดใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงฤดูร้อนของปีนี้ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว*
ยอดใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในฤดูร้อนปี 2561 ประเทศไทยมียอดทำธุรกรรมผ่านอาลีเพย์สูงสุดเป็นอันดับสอง รองจากฮ่องกง

สถิติการใช้จ่ายของคนจีนที่สำคัญในปีนี้มีดังนี้:

  • ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ธุรกรรมในร้านค้าต่างประเทศผ่านอาลีเพย์เพิ่มขึ้น 2.6 เท่า เมื่อเทียบกับจำนวนธุรกรรมในต่างประเทศช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
  • ภูมิภาคเอเชียยังคงครอง 10 อันดับประเทศและภูมิภาคที่มีปริมาณการทำธุรกรรมผ่านอาลีเพย์ในต่างประเทศมากที่สุด โดยฮ่องกงครองอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยประเทศไทย และเกาหลีใต้

ประเทศและภูมิภาคที่มีปริมาณการทำธุรกรรมผ่านอาลีเพย์มากที่สุด 10 อันดับ

2561

อันดับ

2560

ฮ่องกง

1

ไทย

ไทย

2

ฮ่องกง

เกาหลีใต้

3

เกาหลีใต้

ญี่ปุ่น

4

ญี่ปุ่น

มาเก๊า

5

มาเก๊า

ออสเตรเลีย

6

ไต้หวัน

สิงคโปร์

7

ออสเตรเลีย

ไต้หวัน

8

สิงคโปร์

มาเลเซีย

9

สหรัฐอเมริกา

สหรัฐอเมริกา

10

มาเลเซีย

  • จำนวนธุรกรรมผ่านอาลีเพย์ในรัสเซียเพิ่มขึ้นกว่า 5000% เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากเดินทางไปยังรัสเซียเพื่อร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนี้
  • ประเทศต่างๆ ในยุโรปเหนือและยุโรปตะวันตก รวมถึงเดนมาร์ก ลักเซมเบิร์ก นอร์เวย์ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ มีปริมาณการทำธุรกรรมผ่านอาลีเพย์เติบโตในอัตราสองหลัก

ประเทศที่มีการเติบโตของการทำธุรกรรมผ่านอาลีเพย์สูงสุด 10 อันดับ (ฤดูร้อนปี 2561 เทียบกับ ฤดูร้อนปี 2560)

รัสเซีย

50 เท่า

ลักเซมเบิร์ก

39 เท่า

สวิตเซอร์แลนด์

18 เท่า

กัมพูชา

14 เท่า

สวีเดน

12 เท่า

นอร์เวย์

11 เท่า

กรีซ

7 เท่า

แคนาดา

7 เท่า

มาเลเซีย

5 เท่า

โปรตุเกส

5 เท่า

  • ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยของคนจีนต่อคนเพิ่มขึ้น 43% เป็น 2,955 หยวน (ประมาณ 432 ดอลลาร์) จากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2,073 หยวน (ประมาณ 303 ดอลลาร์) ยอดใช้จ่ายเฉลี่ยสูงที่สุดอยู่ที่ฝรั่งเศส (11,386 หยวน หรือประมาณ 1,666 ดอลลาร์) ตามมาด้วยเกาหลีใต้และเดนมาร์ก ประเทศในยุโรปครองสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของ 10 ประเทศที่มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงสุด

10 ประเทศที่มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนสูงสุด

อันดับ

ประเทศ

1

ฝรั่งเศส

2

เกาหลีใต้

3

เดนมาร์ก

4

อิตาลี

5

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

6

กรีซ

7

สเปน

8

ออสเตรเลีย

9

สหราชอาณาจักร

10

ญี่ปุ่น

  • ชาวจีนที่เกิดในทศวรรษ 1970, 1980 และ 1990 คิดเป็นสัดส่วน 85% ของชาวจีนทั้งหมดที่ใช้อาลีเพย์ในต่างประเทศในช่วงฤดูร้อนปี 2561
  • ในบรรดาสนามบินกว่า 80 แห่งที่รองรับการขอคืนภาษีทันทีผ่านทางอาลีเพย์ สนามบินในเกาหลีใต้มียอดขอคืนภาษีสูงสุด ตามมาด้วยสนามบินในยุโรป

*ช่วงวันหยุดฤดูร้อนสองเดือนอยู่ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม ถึง 31 สิงหาคม ทั้งในปี 2561 และ 2560

เกี่ยวกับ อาลีเพย์ (Alipay)

อาลีเพย์ ดำเนินงานโดยกลุ่มบริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส (Ant Financial Services Group) เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการชำระเงินออนไลน์และโมบายล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 2547 มีผู้ใช้งานจริงในปัจจุบัน (Active users) กว่า 520 ล้านคน และสถาบันการเงินพันธมิตรในประเทศกว่า 200 แห่ง อาลีเพย์ได้พัฒนาจากบริการดิจิตอลวอลเล็ต (Digital Wallet) สู่เครื่องมือที่รองรับไลฟ์สไตล์อย่างสมบูรณ์ โดยผู้ใช้สามารถเรียกแท็กซี่ จองห้องพักโรงแรม ซื้อตั๋วภาพยนตร์ จ่ายค่าสาธารณูปโภค นัดหมายเพื่อพบแพทย์ หรือซื้อผลิตภัณฑ์ด้านการบริหารสินทรัพย์ได้โดยตรงจากภายในแอพ นอกเหนือจากการชำระเงินออนไลน์แล้ว อาลีเพย์ยังขยายครอบคลุมการชำระเงินแบบออฟไลน์ในร้านค้าทั้งในและนอกประเทศจีนอีกด้วย ทุกวันนี้มีผู้ประกอบการกว่า 40 ล้านรายรับชำระเงินผ่านอาลีเพย์ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศจีน และบริการชำระเงินในร้านค้าของอาลีเพย์ยังครอบคลุมกว่า 39 ประเทศทั่วโลก ส่วนการขอคืนภาษีผ่านอาลีเพย์สามารถทำได้ใน 25 ประเทศและภูมิภาค อาลีเพย์ร่วมมือกับสถาบันการเงินและผู้ให้บริการชำระเงินในต่างประเทศกว่า 250 แห่ง เพื่อรองรับการชำระเงินระหว่างประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงลูกค้าต่างชาติที่ซื้อสินค้าจากเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ซของจีน ปัจจุบันอาลีเพย์รองรับ 27 สกุลเงิน

ยอดใช้จ่ายผ่านอาลีเพย์ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในฤดูร้อนปี 2561 ประเทศไทยมียอดทำธุรกรรมผ่านอาลีเพย์สูงสุดเป็นอันดับสอง รองจากฮ่องกง