ผลการดำเนินงานที่สำคัญ
- รายได้จากการขายรวม 2,618 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 2/2561; ในครึ่งแรกของปี 2561 มีรายได้รวม 5,032 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบปีต่อปี
- กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 398 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 2/2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากไตรมาสที่ 1/2561; EBITDA ในครึ่งแรกของปี 2561 อยู่ที่ 742 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 เมื่อเทียบปีต่อปี
- กำไรสุทธิ (Net Profit) 259 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสที่ 2/2561; 443 ล้านเหรียญสหรัฐในครึ่งแรกของปี 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 109 เมื่อเทียบปีต่อปี
- คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติเงินปันผลระหว่างกาลอยู่ที่ 0.70 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 55.56% เมื่อเทียบกับ 0.45 บาทต่อหุ้นในปีที่ผ่านมา
- กำไรต่อหุ้น (EPS) ในรอบ 12 เดือนสิ้นสุดไตรมาสที่ 2/2561 อยู่ที่ 5.02 บาทต่อหุ้น – เพิ่มขึ้นร้อยละ 94 เมื่อเทียบปีต่อปี หลังจากจำนวนหุ้นใหม่ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.8 จากการใช้สิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrants)
- หนี้สินจากการดำเนินงานสุทธิต่อทุน อยู่ที่ 0.45 และผลตอบแทนหลักจากการใช้เงินลงทุน (Core ROCE) อยู่ที่ร้อยละ 15.8 โดยใช้เกณฑ์ 12 เดือนล่าสุด
ข้อมูลสรุป:
ในไตรมาสนี้ เป็นอีกไตรมาสที่ไอวีแอลมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง มีการพัฒนาทั้งในส่วนปริมาณการผลิตและกำไรในทุกอุตสาหกรรมและทุกภูมิภาค สะท้อนให้เห็นถึง:
- การพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์ – ไอวีแอลยังคงขับเคลื่อนการเติบโตทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Necessities ที่มีปริมาณการผลิตสูงและกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ที่มีกำไรสูงและมั่นคง เพื่อการเติบโตของกำไรที่ยั่งยืน บริษัทฯ มีการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมผ่านทางการเติบโตตามปกติ โครงการเพื่อความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติงาน การเข้าซื้อกิจการที่สร้างมูลค่าเพิ่มและยุทธศาสตร์การบูรณาการ ปัจจุบันไอวีแอลมีขนาดการดำเนินงานระดับโลกที่มีการบูรณาการภายในห่วงโซ่คุณค่าโพลีเอสเตอร์และบูรณาการกับผลิตภัณฑ์ HVA โดยมีส่วนประสมผลิตภัณฑ์และภูมิศาสตร์การดำเนินธุรกิจที่มีความยืดหยุ่นและเหมาะสม ไอวีแอลเป็นผู้ผลิต PET รายใหญ่ที่สุดของโลก
โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีความหลากหลาย ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์ Necessities ที่มีปริมาณการผลิตสูง (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของปริมาณการผลิตรวม สิ้นสุดไตรมาสที่ 2/2561) ซึ่งปัจจุบันมีกำไรที่ดีขึ้น และกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA ที่มีกำไรสูงและมั่นคง (คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของปริมาณการผลิตรวม สิ้นสุดไตรมาสที่ 2/2561)
- การลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ – บริษัทฯ มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 บริษัทฯ มีการเข้าซื้อกิจการ 6 แห่ง ได้แก่ การเข้าซื้อโรงงานผลิต PET ในประเทศบราซิลและอียิปต์ ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มรวม 1.1 ล้านตัน; บริษัท Avgol ซึ่งช่วยส่งเสริมกลุ่มผลิตภัณฑ์ HVA และส่วนแบ่งการตลาดในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยส่วนบุคคล; บริษัท Kordarna เพื่อเสริมความเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมยางในรถยนต์ทั้งในยุโรปและทั่วโลก ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์เสริมแรงสำหรับยางรถยนต์ได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น; บริษัท Medco ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ชั้นนำในประเทศอียิปต์ที่มีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า; และล่าสุดบริษัท Sorepla ซึ่งเป็นธุรกิจรีไซเคิลในประเทศฝรั่งเศส เพื่อตอบสนองความต้องการพลาสติก PET ที่เพิ่มขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและทิศทางการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรม – พื้นฐานอุตสาหกกรมยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยมาจากความต้องการผลิตภัณฑ์ PET ที่รีไซเคิลได้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ความสมดุลของปริมาณสินค้า และการปรับปรุงในอุตสาหกรรม PET ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้นับเป็นโอกาสสำหรับผู้ผลิตที่มีการบริหารจัดการที่ดีและมุ่งมั่นในการส่งมอบผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าในสภาวะที่อุปทานในตลาดมีความตึงตัว
การปรับปรุงโครงสร้างในวัฏจักรผลิตภัณฑ์ Commodity ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรในรอบ 12 เดือนสิ้นสุดไตรมาสที่ 2/2561 จากธุรกิจ Necessities อยู่ที่ 716 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่ากำไรจากธุรกิจ HVA ที่มีกำไร 540 ล้านเหรียญสหรัฐ สะท้อนให้เห็นการฟื้นตัวของกำไรในธุรกิจ Necessities
- การพัฒนาอย่างยั่งยืน – เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนี FTSE และดัชนี Russell ประกาศว่า ไอวีแอลได้รับคัดเลือกให้อยู่ในดัชนี FTSE4 Good Index 2018 และอยู่ในระดับผู้นำเมื่อเทียบกับบริษัทเคมีภัณฑ์ทั่วโลก
- ปริมาณการผลิต 2.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบปีต่อปีจากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น ถูกหักลบจากเหตุสุดวิสัยที่เกิดจกาการจัดหาวัตถุดิบบางส่วน
- กำไรต่อหุ้น 1.45 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 161 เมื่อเทียบปีต่อปี หลังจากได้รับผลกระทบจากการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ
"ผลการดำเนินงานเหล่านี้นับเป็นผลลัพธ์ที่น่ายินดี สะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง ทิศทางการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในธุรกิจ และการปรับปรุงโครงสร้างอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรม Necessities
ภาพรวมของครึ่งหลังของปีนี้จะช่วยส่งเสริมผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เราคาดการณ์สภาวะตลาดที่ดีในปัจจุบันจะยังคงดีอย่างต่อเนื่อง เราจะยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในทั้งสองกลุ่มธุรกิจหลัก เพื่อเสริมสร้างรากฐานของการสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน
จากผลการดำเนินที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกและการคาดการณ์การดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องในครึ่งหลังของปีนี้ เราได้ปรับเพิ่มการประมาณการณ์ Core EBITDA ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 จากปี 2560 เป็น 1.75 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2562 ช่วงเวลานี้นับเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับไอวีแอล และผมเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถส่งมอบผลการดำเนินงานในระดับผู้นำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง"
เกี่ยวกับ อินโดรามา เวนเจอร์ส
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Bloomberg ticker IVL.TB) เป็นหนึ่งในบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำระดับโลก มีโรงงานผลิตครอบคลุมภูมิภาคหลักทั่วโลก ได้แก่ แอฟริกา เอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ Necessities และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ทั้งในกลุ่มพอลิเมอร์ เส้นใยและบรรจุภัณฑ์ รวมถึงมีการบูรณาการไปยังวัตถุดิบหลักอย่างเอทิลีนออกไซต์/ไกลคอล และ PTA ผลิตภัณฑ์ของไอวีแอลรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลส่วนบุคคล และอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางในรถยนต์และผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานทั่วโลกราว 15,000 คนและมีรายได้จากการขายรวม 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2560 บริษัทฯ เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (DJSI)
ไอวีแอลมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยและมีโรงงานทั่วโลก อันได้แก่
ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา: เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี เดนมาร์ก ลิทัวเนีย โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ลักเซมเบิร์ก สเปน ตุรกี ไนจีเรีย กานา โปรตุเกส อียิปต์
อเมริกาเหนือ: สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก แคนาดา
เอเชีย: ไทย อินโดนีเซีย จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์
ผู้นำภาคธุรกิจแนะทางรอดรับมือ AI จุดเปลี่ยนโลก สู่การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่
กรุงศรี คว้ารางวัล Initiative Award for Trade Finance Solution โซลูชันเพื่อเสริมศักยภาพการบริหารทุนหมุนเวียนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศกับอินโดรามา เวนเจอร์ส อย่างยั่งยืน
Indovinya ระดมเงินทุน 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้ และเสริมแกร่งโครงสร้างเงินทุน
อินโดรามา เวนเจอร์ส มอบคู่มือการจัดการเรียนการสอนการคัดแยกขยะให้แก่กรุงเทพมหานคร ส่งเสริมการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมในห้องเรียน
Ayuda en Acci?n - อินโดรามา เวนเจอร์ส และ IMG Group เปิดตัวความร่วมมือครั้งสำคัญด้านการรีไซเคิลเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติขยะในประเทศมาลี
อินโดรามา เวนเจอร์ส เปิดตัว '360 Gallery' โฉมใหม่ นิทรรศการแห่งความเป็นผู้นำด้านธุรกิจและความยั่งยืน
อินโดรามา เวนเจอร์ส เดินหน้าโครงการ RECO Collective 2025 สนับสนุน SMEs รุ่นใหม่ ขยายขอบเขตสู่การออกแบบและผลิตสินค้าที่หลากหลายจาก PET รีไซเคิลเพื่อความยั่งยืน
อินโดรามา เวนเจอร์ส และ SEAMEO SEPS ฉลองความสำเร็จโครงการ Waste Hero Education เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน
อินโดรามา เวนเจอร์ส เปิดบ้านต้อนรับนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย พร้อมมอบเงินอัดฉีดสนับสนุน 1.35 ล้านบาท เพื่อเป็นกำลังใจแก่นักกีฬาโอลิมปิก 2024