“หัวใจวาย” จะป้องกันและรับมืออย่างไร?

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          โดย ผศ.นพ.สุรพันธ์ สิทธิสุข
          ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย

          ในปัจจุบันการทำความเข้าใจกับคำว่า "หัวใจวาย" ซึ่งมีความหมายแตกต่างจาก "หัวใจล้มเหลว" ยังมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของคนในสังคม ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยจึงอยากให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบและตระหนักถึงเรื่องนี้ ก่อนที่จะเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องถูกวิธี เพื่อที่จะรักษาชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงที 
          "หัวใจวาย" หมายถึง การทำงานของหัวใจสิ้นสุดลง นั่นคือหัวใจหยุดเต้น หยุดบีบตัวส่งเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย อวัยวะทุกอย่างจะหยุดทำงานตามไปด้วย อาการนี้ร้ายแรงเกิดขึ้นกะทันหัน และถ้าไม่ได้รับการกู้ชีวิต ผู้ที่มีหัวใจวายก็จะถึงแก่ความตายทันที สำหรับ "หัวใจล้มเหลว" เป็นภาวะที่เกิดจากหัวใจทำงานไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น การบีบตัวของหัวใจอ่อนลง หรือหัวใจขยายตัวไม่ดีไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้เพียงพอ เกิดการคั่งของน้ำในปอด มีน้ำท่วมปอด ขาบวม มีน้ำในท้อง ตับโต ซึ่งเป็นได้ทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง อาการของหัวใจล้มเหลวนี้ มีตั้งแต่อาการจากน้อยจนถึงอาการหนักมาก เช่น เหนื่อยมาก นอนราบไม่ได้ ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างฉุกเฉิน และอาจนำไปสู่ภาวะ "หัวใจวาย" ได้ ซึ่งในครั้งนี้จะกล่าวถึงเฉพาะภาวะหัวใจวายเท่านั้น
          หัวใจวายที่อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตกะทันหัน เกิดจากสาเหตุหลายอย่าง ทั้งที่เป็นโรคที่หัวใจเอง และโรคอื่นที่มีผลกระทบร้ายแรงมาที่หัวใจ โรคที่เป็นพันธุกรรมจากกำเนิดหรือโรคที่เกิดขึ้นภายหลังก็ทำให้เกิดหัวใจวายได้ สามารถเกิดได้ทั้งในคนที่ไม่เคยทราบมาก่อนว่าเป็นโรคหัวใจ และในคนที่เคยมีประวัติเป็นโรคหัวใจอยู่นานแล้ว และสามารถเกิดกับนักกีฬาที่ลงแข่งในสนามซึ่งมีร่างกายฟิตแข็งแรงมากได้ด้วย แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยคือ หัวใจวายที่เกิดจากโรคหัวใจขาดเลือด มักพบในผู้ใหญ่อายุกลางคนขึ้นไป พบบ่อยในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน ได้แก่ผู้ที่เป็นเบาหวาน สูบบุหรี่ เป็นความดันโลหิตสูง มีภาวะไขมันในเลือดสูง มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหลอดเลือดสมองหรือหัวใจอุดตัน ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย เป็นต้น เนื่องจากหัวใจวายเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะนำไปสู่การสูญเสีย เราจึงต้องหาทางป้องกันและรับมือ เตรียมพร้อมไว้ก่อนเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จะได้ผ่อนหนักเป็นเบาหรือรับมือได้อย่างทันท่วงที การป้องกันและรับมือนี้ไม่ใช่จะต้องทำเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจเท่านั้น ผู้ที่ยังไม่เป็นโรคอะไรรวมทั้งญาติรอบข้างทุกคน ก็ควรเตรียมการให้พร้อมด้วย มีข้อแนะนำ ดังนี้
          1.ตรวจหาความเสี่ยงของตัวเราเอง รวมทั้งญาติพี่น้องในครอบครัวว่ามีใครมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดหัวใจวายได้หรือไม่ เช่น ดูอายุของสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลอดเลือดตีบตัน โดยการตรวจเช็คร่างกายประจำปีทุกปีในคนอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป หากมีประวัติการตายที่ไม่ทราบสาเหตุในครอบครัวหรือประวัติหลอดเลือดสมองหรือหลอดเลือดหัวใจตีบ ก็อาจตรวจหาความเสี่ยงในอายุที่น้อยกว่านี้ก็ยิ่งเป็นการดี หากพบปัจจัยเสี่ยงใด ๆ ก็ควรรีบดำเนินการควบคุมทุกปัจจัยเสี่ยงให้ดี
          2.เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการกู้ชีพ ในปัจจุบันมีการเปิดอบรมทักษะการกู้ชีวิตในเชิงปฏิบัติให้แก่ประชาชนทั่วไปในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่ง ควรหาโอกาสอ่านภาคทฤษฎี ดูวีดีโอและไปฝึกปฏิบัติด้วย
          1. มองหาโรงพยาบาลใกล้บ้าน และศูนย์ให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินที่ถ้าเกิดหัวใจวายขึ้น เราจะมีคนช่วยกู้สถานการณ์ให้รอดพ้นไปได้
          2. มองหาตำแหน่งของอุปกรณ์ช่วยในการกู้ชีพ คือ เครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจกึ่งอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator หรือ AED) ที่มีอยู่ตามที่สาธารณะต่างๆ เช่น ตามสถานีรถไฟฟ้า, สนามบิน หรือโรงพยาบาลและสถานที่ราชการขนาดใหญ่ ควรดูวีดีโอสาธิตการใช้เครื่องมือดังกล่าว
          การจะกู้ชีวิตของคนที่เกิดหัวใจวายต้องกระทำทันทีและควรหาเครื่อง AED มาช่วยภายในเวลาอันสั้น เราจึงควรต้องเตรียมรับสถานการณ์ให้พร้อม หัวใจวายจะเกิดกับใครก็ได้ เมื่อไรก็ได้ ทุกสถานที่จึงควรเตรียมการป้องกันและรับมือให้ทันท่วงที
“หัวใจวาย” จะป้องกันและรับมืออย่างไร?
 
“หัวใจวาย” จะป้องกันและรับมืออย่างไร?
“หัวใจวาย” จะป้องกันและรับมืออย่างไร?
“หัวใจวาย” จะป้องกันและรับมืออย่างไร?
 
 

ข่าวราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย+ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์วันนี้

บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) รับรางวัล Healthy Organization Award

นายเฉลิมพล สมาคม (ที่4 ทางซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปสายงานสนับสนุนการผลิต บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมีรายใหญ่ในประเทศไทย ภายใต้ตราสินค้าหัววัว-คันไถ เป็นตัวแทนจากโรงงานนครหลวง รับรางวัล Healthy Organization Award ประเภท "กระบวนการดำเนินงานระดับดี" จากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย เครือข่ายคนไทยไร้พุง ในการส่งผลการดำเนินงานขององค์กรที่เข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้นำสุขภาพในสถานที่ทำงาน โดยได้รับเกียรติจาก นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ (ที่ 3 ทางขวา)

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับภาคี... สมาคมโรคเบาหวานฯ จัดงานมหกรรมสุขภาพ วันเบาหวานโลก 2566 ชูแคมเปญ "รู้ว่าเสี่ยง รู้แล้วต้องเปลี่ยน" — สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับภาคีเครือข่ายคนไท...

ว่าที่ร้อยตรีจิรชัย สาฤาษี ผู้จัดการทั่วไ... บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี รับรางวัล Healthy Organization Award ประจำปี — ว่าที่ร้อยตรีจิรชัย สาฤาษี ผู้จัดการทั่วไปสายงานสนับสนุนการผลิต บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี ...

โรงพยาบาลลานนา รับการตรวจรับรองมาตรฐานห้อ... โรงพยาบาลลานนา รับการตรวจรับรองมาตรฐานห้องไต — โรงพยาบาลลานนา รับการตรวจรับรองมาตรฐานห้องไต.นพ.ศุภชัย สินไตรรัตน์ กรรมการบริหาร โรงพยาบาลลานนา และ พญ...

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยมีความเ... ผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจากมลพิษฝุ่นจิ๋ว PM2.5 และข้อปฏิบัติตัวที่สำคัญ — ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยมีความเป็นห่วงผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพจากมลพิษ...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งป... ภาพข่าว: รวมสมอง ร่วมใจ “สู้ภัย COVID-19” — เมื่อเร็ว ๆ นี้ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคม...

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาค... เรียนรู้สู้โควิด — ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยและสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความเป็นห่วงผลกระทบต่อชีวิต...

ศ.นพ.สมชาย เอี่ยมอ่อง ประธานราชวิทยาลัยอา... ภาพข่าว: ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯ จัดแถลงข่าว ปอดบวมจากอู่ฮั่น: ประเทศไทยจุดไหน “ใช่พอดี” — ศ.นพ.สมชาย เอี่ยมอ่อง ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย (...

ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับ... ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ฯห่วง ! จากกรุงเทพฯถึงเชียงใหม่ค้นหาความจริงฝุ่นพิษมรณะ PM2.5 — ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศ...