นายวรากรณ์ กุนทีกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) (Apple Wealth) เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้ทีมบริหารใหม่เข้ามาผนึกกำลังกับทีมบริหารเดิม ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในบริษัทมากขึ้นส่งผลทำให้มีส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ติดอันดับ 1 ใน 10 (TOP10) และตั้งเป้าหมายที่จะทำส่วนแบ่งทางการตลาดให้ติด 1 ใน 5 (Top 5) ในปี 2562
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะทำการ รีแบรนด์ ปรับโครงสร้างองค์กร และเดินหน้าทำการตลาดในเชิงรุกเพื่อขยายฐานลูกค้า ทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าสถาบัน นอกจากนี้บริษัทมีแผนในการพัฒนานวัตกรรมการลงทุนโดยใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำทันสมัย แนวคิดใหม่ๆ และพัฒนาระบบงานที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขับเคลื่อนไปพร้อมกับทีมผู้แนะนำการลงทุน ที่มีความเป็นมืออาชีพ รักษามาตรฐานการให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของลูกค้าและนักลงทุนทุกกลุ่ม โดยปี 2562 บริษัทวางเป้าจำนวนบัญชีเพิ่มขึ้นอีก 50 % จากจำนวนบัญชีปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 20,000 บัญชี พร้อมทั้งเสริมเงินทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจให้ครบวงจร อาทิเช่น Block Trade , SBL และวาณิชธนกิจ รวมทั้งจะเปิดให้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอีกด้วย โดยบริษัทได้เตรียมความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี เงินทุนสนับสนุน และบุคลากรที่มีความรู้รองรับการเดินหน้าธุรกิจทุกประเภทที่วางไว้ บริษัทฯ มีความมั่นใจจะสามารถแข่งขัน เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด และสามารถไต่ระดับชิงมาร์เก็ตแชร์ขึ้นไปอย่างต่อเนื่องตามแผนงานและเป้าหมายที่วางไว้
บลจ.ทิสโก้เพิ่มทุน "TWORLD" เป็น 8,000 ล้านบาท รับความต้องการลูกค้า - ใช้เป็นกองทุนหลักของพอร์ต ลงทุนหุ้นโลก
บลจ.จิตตะ เวลธ์ คว้ารางวัลจาก ก.ล.ต. ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ย้ำภารกิจสร้างความมั่งคั่งให้คนไทยด้วยความรู้และเทคโนโลยี
Liberator ส่งท้ายปีด้วยจุดยืน "Liberate You" วางรากฐานแพลตฟอร์มการลงทุนยุคใหม่ มุ่งสู่ความครบครันในปีหน้า
KTAM เตรียมจ่ายปันผลและลดทุน กลุ่มกองทุนอสังหาฯ-อินฟราฯ Q3 ปี 68 กว่า 1.1 พันล้านบาท ในวันที่ 15 ธ.ค. และ 25 ธ.ค. นี้
"โกลเบล็ก" จับตา FTSE ประกาศ Rebalance รอบใหม่ 19 ธ.ค.นี้
ภาพข่าว: "คิงส์ฟอร์ด" ปักธงปี62 ชิงมาร์เก็ตแชร์ 6 %
"คิงส์ฟอร์ด ลุยธุรกิจเต็มสูบปักธงชิงมาร์เก็ตแชร์แตะ 6 % ในปีนี้ปรับแนวคิดการดำเนินธุรกิจ ฝ่ากระแสดิจิทัลแรง ”
ภาพข่าว: ผู้ถือหุ้น “แอพเพิล เวลธ์” ไฟเขียวเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “คิงส์ฟอร์ด โฮลดิ้งส์”