นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.) กล่าวในงานแถลงผลงานกิจกรรมยกระดับมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้(OTOP Authentic Thai Taste) ภายใต้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ว่า กิจกรรมดังกล่าวประกอบด้วย 3 กิจกรรมย่อย ได้แก่ 1)การจัดทำมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ 2)การยกระดับผู้ประกอบการสินค้าอาหาร OTOP สู่รสไทยแท้ และ 3)การสร้างความเชื่อมโยงหน่วยงานร่วมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับสินค้าอาหารถิ่นรสไทยแท้ ซึ่งเป็นแนวคิดการพัฒนา OTOP รูปแบบใหม่ โดยใช้อาหารถิ่นของแต่ละชุมชนซึ่งมีอัตลักษณ์เฉพาะตัวมาเป็นจุดขาย ดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน ให้ชุมชนได้ขายสินค้า สร้างรายได้เพิ่ม นำเอาเสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรมมาแปลงเป็นรายได้ ส่งเสริมความเข้มแข็งและเศรษฐกิจของชุมชนอย่างยั่งยืน
โดยได้ดำเนินการร่วมกับ สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องจากทุกภูมิภาคของประเทศ อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมการโรงแรม สมาคมร้านอาหาร และตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่ เป็นต้น เพื่อเชื่อมโยงให้เกิดการบูรณาการและสร้างการรับรู้ในมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 และจะเสร็จสิ้นราวปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2562 รวมระยะเวลา 5 เดือน ขณะนี้ดำเนินการ 2 กิจกรรมย่อยเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการกิจกรรมย่อยที่ 3 ในส่วนของความเชื่อมโยงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เหลือบางส่วน ได้แก่ สร้างการรับรู้ต่อนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยการจัด Road Show แสดงสินค้าอาหารถิ่นรสไทยแท้ และการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เป็นต้น
นายนิสิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับและให้การรับรองมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ให้กับผู้ประกอบการ OTOP ประเภทอาหารและเครื่องดื่ม จากทุกจังหวัดทั่วประเทศที่ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วม ได้จัดอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายไปแล้วราว 2,000 ราย/ร้าน ในด้านการผลิต การควบคุมสินค้าอาหารตามมาตรฐานในพื้นที่ดำเนินการ 5 ภูมิภาค และคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีความพร้อมจำนวน 600 ราย/ร้าน เข้าร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเตรียมความพร้อมขอรับการรับรองมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ตามเกณฑ์ที่กำหนด และจัดทำสูตรอาหารถิ่นไม่น้อยกว่า 600 สูตร โดยยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของอาหารถิ่น อันเป็นจุดขายของอาหารไทย นอกจากนี้ยังต้องการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีการใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นที่มีคุณภาพมาผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหารไทยอีกด้วย
"ขณะนี้เราได้คัดเลือกอาหารถิ่นรสไทยแท้ไว้จำนวน 25 เมนู จาก 5 ภูมิภาคของประเทศ ซึ่งเป็นเมนูอาหารตัวแทนที่ได้รับการคัดเลือกจากการประกวดในแต่ละภูมิภาค ภาคใต้ ได้แก่1)นาซินาแก(นาซิดาแฆ) จ.นราธิวาส 2)แกงกะทิหอยกันกับยอดเป้ง จ.พังงา 3)หอยนางรมทรงเครื่อง จ.สุราษฎร์ธานี 4)ไอศกรีมกล้วยเล็บมือนาง จ.ชุมพร 5)ข้าวยำธัญพืช จ.พัทลุง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ 6)หลามปลา จ.หนองคาย 7)เห็ดนัวร์ จ.อุดรธานี 8)ข้าวจี่สับปะรดไร่ม่วง จ.เลย 9)ป่นปูนา จ.กาฬสินธุ์ 10)ไก่ย่างเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ภาคตะวันออก ได้แก่ 11)เส้นจันท์ผัดปู จ.จันทบุรี 12)ข้าวเกรียบยาหน้า จ.ตราด 13)ผัดไทยกุ้งเคียงเคย จ.ระยอง 14)แกงส้มปลาช่อนแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา 15)น้ำพริกกระสัง จ.สระแก้ว ภาคเหนือ ได้แก่ 16)กระยาสารท จ.ตาก 17)ลาบปลายี่สก จ.ลำพูน 18)ข้าวแต๋นธัญพืช จ.ลำปาง 19)ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย จ.สุโขทัย 20)แกงฮังเล จ.แพร่ ภาคกลาง ได้แก่ 21)ไก่ย่างสาริกา จ.นครนายก 22)ต้มโคล้งปลาย่าง จ.สุพรรณบุรี 23)ข้าวคลุกกะปิ จ.สิงห์บุรี 24)แกงป่า จ.กาญจนบุรี และ 25)ขนมดอกลำเจียก จ.อ่างทอง โดยมี 5 เมนูที่ได้รับการคัดสรรชนะเลิศเป็นเมนูสุดยอดอาหารถิ่นรสไทยแท้ตัวแทนระดับภูมิภาค ได้แก่ 1)ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย จ.สุโขทัย 2)ไก่ย่างเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น 3)ข้าวเกรียบยาหน้า จ.ตราด 4)ขนมดอกลำเจียก จ.อ่างทอง และ 5)ไอศกรีมกล้วยเล็บมือนาง จ.ชุมพร"
ทั้งนี้จะนำอาหารถิ่นรสไทยแท้ทั้ง 25 เมนูนี้มาจัดแสดงและจำหน่ายเพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อไป โดยครั้งแรกจัดที่เมืองสุขสยาม บริเวณลานเมือง ชั้น G ไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 28 ม.ค. – 6 ก.พ. 2562 และจะจัดอีก 2 ครั้ง ในภาคเหนือที่เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 13 - 15 ก.พ. 2562 และภาคใต้ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 18 - 20 ก.พ. 2562 ภายในงานนอกจากจะได้ชิมอาหารถิ่นมาตรฐานรสไทยแท้แล้ว ยังได้ชมการจัดสำรับอาหารถิ่นที่ผ่านการคัดเลือกระดับประเทศ สาธิตการปรุงเมนูอาหารถิ่นรสไทยแท้ และกิจกรรม เช็คอิน แชะ แชร์ ติดแฮชแท็ค ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ OTOP Authentic Thai Taste ลุ้นรับของรางวัลมากมาย
นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สถาบันอาหารมีส่วนร่วมในการยกระดับผู้ประกอบการอาหารถิ่น ด้วยการจัดอบรมให้ความรู้การควบคุมสินค้าอาหารตามมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ไม่น้อยกว่า 2,000 รายทั่วประเทศ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ในการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ OTOP ไม่น้อยกว่า 600 ราย เพื่อขอการรับรองมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ จัดส่งผู้เชี่ยวชาญดำเนินการตรวจประเมินเพื่อให้การรับรองมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้ให้แก่ผู้ผ่านการประเมินตามเกณฑ์ จัดทำเวิร์คชอปร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อกำหนดวิธีมาตรฐานในการเตรียม และกระบวนการปรุงเมนูอาหารถิ่นรสไทยแท้โดยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการ พร้อมจัดทำคู่มือสูตรมาตรฐานจำนวน 600 สูตร เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปฝึกปฏิบัติให้เกิดความสม่ำเสมอในการผลิตอาหารเพื่อจำหน่าย โดยสถาบันอาหารจัดเก็บตัวอย่างสินค้าอาหารถิ่นรสไทยแท้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 เพื่อตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์และความปลอดภัยในการบริโภค เมื่อผ่านเกณฑ์ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ จะได้รับอนุญาตให้ใช้ตรามาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้
นางลักขณา นะวิโรจน์ ประธานโครงการสุขสยาม กล่าวว่า เมืองสุขสยาม ไอคอนสยาม มองว่าการร่วมสนับสนุนงานนี้ ถือเป็นภารกิจสำคัญยิ่ง ที่ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม เนื่องจากทางเมืองสุขสยาม มีแนวคิดหลักในการพัฒนาเมืองให้เป็นพื้นที่นำเสนอสินค้าและอาหารพื้นถิ่นไทย เพื่อสร้างรายได้และเศรษฐกิจเข้มแข็งภายในชุมชน และที่สำคัญการเข้ามามีส่วนร่วมจัดงานในครั้งนี้ เมืองสุขสยามยังได้รับเกียรติในการเป็นพื้นที่นำเสนอการแถลงผลความสำเร็จ การยกระดับมาตรฐานอาหารถิ่นรสไทยแท้(OTOP Authentic Thai Taste) ออกสู่สายตาชาวไทยและต่างชาติเป็นครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งมั่นใจว่าภายหลังจากการแถลงผลสำเร็จของการจัดงานครั้งนี้ออกไปจะช่วยสร้างการรับรู้ว่าเมืองไทย นอกจากจะเป็นเมืองที่เปี่ยมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ ภูมิปัญญา วิถีชีวิต วัฒนธรรมแล้ว ยังมีอาหารถิ่นรสไทยแท้ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานกระจายอยู่ทั้ง 5 ภูมิภาค สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวและแวะชิมอย่างแน่นอน พร้อมขอเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจมาชมและชิม อาหารถิ่นรสไทยแท้ทั้ง 25 เมนู ครบ 5 ภาค ที่ผ่านการคัดสรรและได้มาจัดแสดงและจำหน่ายที่เมืองสุขสยาม บริเวณลานเมือง ชั้น G ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม – 6 กุมภาพันธ์